รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ นายแพทย์ สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงฯ พร้อมด้วยเครือเจริญโภคภัณฑ์ นำโดยนายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมถึง บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ โดย นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มทรู โดย นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) และ บมจ.ซีพี ออลล์ โดย นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ร่วมแถลงข่าว “เครือซีพี ส่งใจให้โรงพยาบาล และครอบครัว หมอ-พยาบาล” ณ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรวมพลังในเครือซีพีมอบกำลังใจและแสดงความขอบคุณแก่บุคลากรในวงการสาธารณสุขที่ได้ทุ่มเทเสียสละ อุทิศตนดูแลผู้ป่วยและสุขภาพคนไทยในช่วงสถานการณ์วิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในโอกาสนี้ กลุ่มทรูได้นำศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เข้าร่วมสนับสนุนโครงการดังกล่าว โดยมอบ “ซิม ฮีโร่ไทย Fight โควิด” จากทรูมูฟ เอช แก่บุคลากรทางการแพทย์ ซี่งเปรียบเสมือนฮีโร่ที่ช่วยเหลือคนไทยและผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 2,000 ซิม ด้วยแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไม่จำกัดปริมาณใช้งาน ความเร็ว 10 Mbps นาน 90 วัน รวมทั้งสามารถโทรฟรีทุกเครือข่าย โดยจะส่งมอบไปพร้อมกับซีพีเอฟ เช่นเดียวกับที่ได้ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา ที่กลุ่มทรูได้มอบ “ซิมกักตัว ไม่กลัวเหงา” จำนวน 20,000 ซิมฟรี พร้อมอาหารจากซีพีเอฟ แก่ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเฝ้าระวังที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน
ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 กลุ่มทรู ได้นำความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ร่วมพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การพัฒนาแพลตฟอร์ม ระบบคัดกรองเบื้องต้นสำหรับผู้ป่วยหรือผู้มีความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ร่วมกับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ การติดตั้งโครงข่าย True 5G เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารให้กับโรงพยาบาล และนำเครือข่าย True 5G ควบคุมการเชื่อมต่อหุ่นยนต์ขนส่งอัจฉริยะ (Quarantine Delivery Robot) ผ่านระบบสื่อสารทางไกล (Quarantine Telepresence) เพื่ออำนวยความสะดวกและลดความเสี่ยงให้หมอและพยาบาล ซึ่งได้มีการใช้งานจริงแล้วในโรงพยาบาลหลายแห่ง รวมทั้ง “โครงการทรูส่งใจให้ฮีโร่” ที่ได้สนับสนุนแท็บเล็ต True Smart 4G และ True Smart 4G Adventure จำนวนรวมกว่า 500 เครื่อง พร้อมซิมทรูมูฟ เอช ไม่จำกัดปริมาณการใช้งานแก่โรงพยาบาลที่ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วย COVID-19 รวม 50 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย