“เพราะหน้าที่ของข้าราชการคือการทำความดี และรักษาความดีนั้นให้คงอยู่ตลอดไป” เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ผมมีโอกาสได้เข้าร่วมงานครบรอบ 14 ปี วันสถาปนากรมการข้าว ซึ่งภายในงานนอกเหนือจากพิธีสงฆ์ที่ปฏิบัติกันมาเป็นประจำทุกปีแล้ว ยังมีอีกหนึ่งพิธีที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน นั่นก็คือพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “คนดีศรีข้าว ประจำปี 2562” โดยในครั้งนี้กรมการข้าวมีผู้ที่ได้รับรางวัลถึง 13 คน ผมก้มมองดูนาฬิกาข้อมือ มันชี้บอกเวลาไปที่ 8.30 น. ซึ่งพิธีจะเริ่มขึ้นในอีก 30 นาที เจ้าหน้าที่เริ่มทยอยเดินเข้ามาในห้องประชุมเพื่อจับจองเก้าอี้ที่ยังว่าง และรอเป็นสักขีพยานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ “คนดีศรีข้าว ประจำปี 2562” โดยพิธีในครั้งนี้กรมการข้าวได้รับเกียรติจาก ท่านประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานการมอบโล่
สำหรับการคัดเลือกคนดีศรีข้าวกรมการข้าว ในปีนี้นั้น ท่านสุดสาคร ภัทรกุลนิษฐ์ อธิบดีกรมการข้าว ท่านมุ่งมั่นจะได้คนดีที่มีความสามารถจริง ๆ เป็นบุคคลที่เหมาะสมจะได้รับรางวัลอันทรงเกีรยตินี้ เมื่อเวลา 9.00 น. มาถึง พิธีได้เริ่มขึ้น พิธีกรเตรียมประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลตามลำดับ สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังเหล่าคนดีศรีข้าวที่ยืนต่อแถวอยู่ข้างเวที “ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ คนดีศรีข้าว ประจำปี 2562” ได้แก่ นายอนุชาติ คชสถิตย์…” สิ้นเสียงประกาศทุกคนปรบมือแสดงความยินดีต่อบุคลากรอันทรงคุณค่าและจะเป็นต้นแบบให้กับข้าราชการอีกหลายคนในอนาคต ชายร่างเล็กก้าวเท้าขึ้นไปรับรางวัลบนเวทีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผมรู้สึกได้ว่าวันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวันที่เขามีความสุขที่สุด หลังจากพิธีในวันนั้นสิ้นสุดลง ส่วนตัวผมเองมาทราบภายหลังว่า ข้าราชการที่ได้รับการคัดเลือกเป็นคนดีศรีข้าว ในลำดับที่ 1 และ ลำดับที่2 จะถูกคัดเลือกให้เป็นข้าราชการดีเด่น ของกรมการข้าวโดยอัตโนมัติ และจะได้รับรางวัลใบประกาศเกียรติคุณพร้อมครุฑทองคำ พอทราบข่าวนี้ หัวใจของผมรู้สึกพองโต อยากจะทำความรู้จักถึงตัวตนของข้าราชการดีเด่นท่านนี้ให้มากขึ้น ผมจึงได้เดินทางไปยังศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี เพื่อไปพบกันพี่อนุชาติ คชสถิตย์ โดยที่ไม่รู้เลยว่าหลังจากการเดินทางครั้งนี้ ตัวผมจะได้แนวทางและคติพจน์ในการทำงานที่ดี กลับมาปรับใช้ในการรับราชการของตัวผมเอง “สวัสดีครับ พี่ชื่ออนุชาตินะ” คำทักทายแรกที่ดังขึ้นหลังจากที่ผมได้มาเยือนยังศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี “ทานอะไรมาแล้วหรือยัง นั่งพักกินน้ำกินท่ากันก่อน” คำพูดต่อมาที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นมิตร และอบอุ่น พี่อนุชาติให้การต้อนรับผมเป็นอย่างดี พาผมเข้าไปนั่งรอในห้องประชุม เปิดแอร์เย็นๆต่อสู้กับความร้อนกว่า 40 องศาเซลเซียสด้านนอก จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่นำน้ำดื่มและของว่างมาบริการ ผมกับพี่อนุชาติได้นั่งพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน มีคำถามมากมายได้ถูกถามขึ้น และหลังจากนี้จะเป็นเรื่องราวดีๆที่ผมอยากให้ผู้อ่านทุกท่าน ได้ร่วมทำความรู้จักกับพี่อนุชาติไปพร้อมกันครับ
แนะนำตัวให้พวกเรารู้จัก
สวัสดีครับผมชื่อ อนุชาติ คชสถิตย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ สังกัดศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี กองวิจัยและพัฒนาข้าว และกำลังจะย้ายไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวร้อยเอ็ดครับ
หน้าที่หลักคือการวิจัยทางด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าว
สำหรับลักษณะงานที่ทำอยู่นั้นก็จะเป็นงานวิจัยทางด้านการปรับปรุงพันธุ์ข้าว โดยจะเน้นไปทางปรับปรุงพันธุ์ข้าวนาน้ำฝน รวมไปถึงงานปรับปรุงพันธุ์ข้าวนาชลประทานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และที่สำคัญคืองานปรับปรุงพันธุ์ข้าวทนแล้ง โดยผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าโครงการอยู่ครับ
ปรับตัวเพื่อเตรียมรับตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวร้อยเอ็ด
ใช่ครับผมกำลังจะไปรับตำแหน่งใหม่เป็น ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวร้อยเอ็ด ซึ่งแน่นอนรูปแบบการทำงานย่อมเปลี่ยนไป อยู่ที่นี่เราอาจจะทำงานด้านเดียว แต่เมื่อเราก้าวขึ้นไปเป็นตำแหน่งผู้อำนวยการ ความเป็นผู้นำย่อมตามมา โดยพี่จะยึดหลักการทำงานแบบพี่น้อง พึ่งพาอาศัยกัน ปลูกฝังให้พวกเขารู้หน้าที่ของตน และที่สำคัญจะต้องมีความสามัคคีในการทำงาน ทุกคนจะต้องมีส่วนร่วมในการทำงาน สำหรับส่วนตัวพี่เองก็จะนำความรู้ความสามารถและประสบการณ์มาพัฒนาหน่วยงานให้ก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไปครับ
ข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2562 “คนดีศรีข้าว” กรมการข้าว
พี่รู้สึกปลาบปลื้มและดีใจเป็นที่สุดที่ได้รับรางวัลนี้ครับ เพราะว่าสูงสุดของชีวิตรับราชการ ก็คือการได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น แต่อย่างไรก็ตามภายใต้ความรู้สึกยินดีมันก็มีความกดดันอยู่ลึกๆ เพราะหน้าที่ของข้าราชการคือการทำความดี และรักษาความดีนั้นให้คงอยู่ตลอดไป ซึ่งพี่เองก็จะทำความดีต่อไป ให้สมกับที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ครับ
คติพจน์ในการทำงาน
รักในงานที่ทำ และรักองค์กร โดยยึดหลักทำความดีเพื่อประชาชนในฐานะข้าราชการ
หลังจากการพูดคุยจบลง พี่อนุชาติพาผมไปทานอาหารกลางวันที่ห้องจัดกิจกรรมศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี แม่ครัวเดินออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มพร้อมอาหารที่เพิ่งปรุงมาสดๆร้อนๆ มาเสิร์ฟที่โต๊ะ
พี่อนุชาติแนะนำรายการอาหาร เมนูมื้อนี้มี ไข่เจียว หมูทอดกระเทียม ผัดผักกะหล่ำ และเมนูที่พี่อนุชาติพรีเซ้นเป็นพิเศษก็คือ ส้มตำปูปลาร้า ที่กล้าการันตีเลยว่าอร่อยมาก ซึ่งก็อร่อยสมคำร่ำลืออย่างที่ว่าจริงๆ ผมทานจนหมด จนเวลาล่วงเลยมาถึง 13.00 น. ซึ่งก็ควรค่าแก่เวลาในการเดินทางกลับ ผมกล่าวคำลาและขอบคุณที่พี่อนุชาติได้สละเวลามาร่วมแชร์แนวคิดดีๆ ให้ผมได้รับฟัง “เดินทางปลอดภัยนะครับไว้มีโอกาสคงได้ร่วมงานกันครับ” พี่อนุชาติกล่าวทิ้งท้าย “ยินดีครับ” ผมตอบรับก่อนรถตู้จะเคลื่อนตัวออกจากศูนย์วิจัยข้าวอุบลราชธานี มุ่งสู่เมืองกรุงเทพมหานคร
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit