ลาซาด้า ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศจุดยืนเคียงข้างสังคมไทยในทุกสถานการณ์ กางแผนสนับสนุนทั้งในส่วนผู้ขาย ลูกค้า รวมไปถึงสังคมไทย ภายใต้แนวคิด '#StrongerTogether จากใจถึงใจ สู้ไปด้วยกัน’ ด้วยแพ็กเกจพิเศษ หวังสร้างรายได้เพิ่มให้กับ SME ไทยกว่า 50,000 ราย พร้อมงัดเครื่องมือเด็ด 'LazLive’ มาช่วยผลักดันยอดขายให้กับ SME และสร้างคอนเทนต์ ที่หลากหลายตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าในช่วง 'อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ' ทั้งยังอัดแคมเปญเอาใจนักช้อปสนับสนุนการช้อปอยู่บ้าน และจัดโครงการดีๆ เพื่อส่งต่อกำลังใจสู่สังคมไทย โดยแถลงข่าวผ่านทาง 'LazLive’ ฟังก์ชั่น ไลฟ์สตรีมบนแอปพลิเคชันลาซาด้า เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอีคอมเมิร์ซ
นางสาวภารดี สินธวณรงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “วิกฤตโควิด-19 ไม่เพียงกระทบโดยตรงต่อการดำเนินชีวิต และสุขภาพของคนไทย แต่หากมองในด้านเศรษฐกิจ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ครั้งนี้แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยธุรกิจ ร้านค้า ร้านอาหาร และบริการต่างๆ ต้องหยุดชะงักลง หลากหลายธุรกิจจึงไม่หยุดอยู่แค่ธุรกิจแบบออฟไลน์ แต่ต้องปรับตัว ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยี สู่การค้าบนช่องทางออนไลน์และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เพื่อธุรกิจจะได้ไปต่อและสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ ส่งผลให้ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซและการซื้อขายสินค้าออนไลน์ในเมืองไทยมีการเติบโตที่สูงขึ้น 80% ในช่วงเดือนมีนาคม 1
สำหรับในส่วนของลาซาด้าเอง ช่วงเวลาที่ทุกคนต่างร่วมใจกัน 'อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ' ทำให้พฤติกรรม การใช้งานแอปพลิเคชันลาซาด้าเปลี่ยนแปลงไป ในแง่ของจำนวนนักช้อปที่ซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มลาซาด้า เพิ่มขึ้นกว่า 60% ทั้งยังพบว่า ลูกค้าใช้เวลาเฉลี่ยในการใช้งานต่อครั้ง 11 นาที ซึ่งนานขึ้นถึง 11% นอกจากนี้ยังพบว่า จำนวนผู้ขายบนลาซาด้าเพิ่มขึ้นกว่า 26,000 รายในช่วงเดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันลาซาด้ามีผู้ขายที่เป็นร้านค้าและแบรนด์ทั้งหมดกว่า 200,000 ราย ส่งผลให้ภาพรวมความสำเร็จของลาซาด้าเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงกลางเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนเมษายน โดยยอดคำสั่งซื้อในลาซาด้าพุ่งขึ้น 100% และมูลค่าการซื้อ-ขายสินค้าสูงขึ้นถึง 130% เมื่อเทียบระหว่างต้นเดือนกุมภาพันธ์ และต้นเดือนเมษายน โดยมีสินค้าที่ขายดี ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น หม้อทอดไร้น้ำมัน เตาอบ เตาไฟฟ้า อุปกรณ์เครื่องครัว ของใช้จำเป็นภายในบ้าน รวมถึงของเล่นเด็กต่างๆ”
นางสาวธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า“ลาซาด้า พร้อมยืนเคียงข้างคนไทยในทุกสถานการณ์ด้วยพลังอีคอมเมิร์ซ เราทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อนำเสนอโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ และเป็นส่วนหนึ่งในการให้พลังใจที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ทุกคนผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน ผ่านแผนสนับสนุนครบวงจร ภายใต้แนวคิด '#StrongerTogether จากใจถึงใจ สู้ไปด้วยกัน’ ที่จะช่วยหนุนทั้งผู้ขาย ลูกค้า และสังคมไทย”
แผนสนับสนุนทั้ง 'ผู้ขายเดิม’ และ 'ผู้ขายใหม่’ ตั้งเป้าสร้างรายได้ให้ SME ไทยกว่า 50,000 ราย
จากแคมเปญล่าสุด “#YesICan ลาซาด้า จากใจถึงใจ” ลาซาด้าได้ช่วยเหลือร้านค้าจากย่านช้อปปิ้งชื่อดัง ซึ่งต่างได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้เข้ามาร่วมเปิดร้านค้าออนไลน์บนลาซาด้าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมอัดแคมเปญช่วยส่งเสริมการตลาดอย่างเต็มที่ ในครั้งนี้ลาซาด้ายังได้เปิดตัวมาตรการพิเศษที่จะเข้ามาช่วยเหลือและช่วยสร้างรายได้ ที่เพิ่มขึ้นให้กับธุรกิจ SME และแบรนด์ต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้
- SME Stimulus Package: มุ่งช่วยเหลือ SME ไทยกว่า 50,000 ราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ขายเดิมหรือผู้ขายใหม่ ด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน - 15 พฤษภาคม 2563
- O2O Promoter & Affiliate Program: ลาซาด้าเปิดโอกาสให้พนักงานขายของแบรนด์ต่างๆ ในห้างสรรพสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้เข้ามาขายของผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของตนเอง ลาซาด้าจะทำการติด Tracking link ให้ และมีระบบตรวจสอบข้อมูลยอดขายจาก Link ของแต่ละคน อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ใช้ฟังก์ชั่น LazLive ไลฟ์สตรีมบนแอปพลิเคชันลาซาด้าฟรีอีกด้วย โดยพนักงานจะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากแบรนด์และลาซาด้า
โดย 'LazLive’ ถือเป็นฮับไลฟ์สตรีมครองใจผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุด ผ่านการมอบประสบการณ์ Shoppertainment มีคอนเทนต์ที่หลากหลายให้ได้รับชมกว่า 500 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์ และเป็นหนึ่งเครื่องมือหลักในการต่อยอดธุรกิจ และช่วยเหลือ SME ปัจจุบันมีผู้ขายกว่า 2,500 รายลงทะเบียนทำคอนเทนต์ LazLive โดยผู้ขายมากกว่า 150 ราย ทำคอนเทนต์ผ่าน LazLive เป็นประจำทุกวัน ซึ่งลาซาด้ามอบคูปองส่วนลด 20% ให้ผู้ขายที่เริ่มไลฟ์สตรีมบน LazLive โดยปัจจุบันมีจำนวนยอดการรับชมรวมกว่า 10 ล้านครั้งใน 2 เดือนที่ผ่านมา และสามารถสร้างคำสั่งซื้อได้มากกว่า 20,000 รายการ
'LazLive’ ไม่เพียงแต่สนับสนุนผู้ขายเท่านั้น แต่ลาซาด้ายังมี 'LazTalent’ ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าทำไลฟ์สตรีมรีวิวสินค้าที่ชื่นชอบ และสามารถเปลี่ยนความชอบเป็นรายได้ในช่วงวิกฤตนี้ได้ โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานกว่า 240 รายที่หันมา สร้างคอนเทนต์มากกว่า 450 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์ และล่าสุดลาซาด้าได้เสริมคอนเทนต์ใหม่เกาะติดเทรนด์ ให้กับ LazLive ตามแนวคิด 'LazLive 7Day StayConnect’ คอนเทนต์หลากหลายตลอด 7 วันที่จะทำให้การเก็บตัวอยู่บ้านไม่น่าเบื่อ อีกต่อไป ซึ่งนอกจากจะสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้าแล้ว ยังช่วยให้ร้านค้าสามารถขายสินค้า และสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นอีกเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจสามารถนำมาใช้ในการสร้างรายได้และต่อยอดให้กับธุรกิจได้ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ลาซาด้าตั้งเป้าจำนวนผู้ขายและผู้บริโภคทำคอนเทนต์บน LazLive มากขึ้นเฉลี่ย 40% ต่อเดือน มีจำนวนคอนเทนต์เพิ่มขึ้น 1.5 เท่า หรือประมาณ 1,800 คอนเทนต์ต่อสัปดาห์ และเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ SME ได้ถึง 20%
แผนสนับสนุน “ลูกค้า” อัดแคมเปญและมาตรการเข้มหนุนช้อปอยู่บ้านได้อย่างคุ้มค่าสบายใจ
ลาซาด้าอัดแคมเปญโดนใจรับมาตรการรัฐ สนับสนุนให้คนช้อปอยู่บ้าน ผ่านแคมเปญต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมจัดมาตรการเข้มส่งสินค้าถึงหน้าบ้านได้แบบไร้กังวล อาทิ
แผนสนับสนุน 'สังคมไทย’ แม้ต้องเว้นระห่างทางสังคม แต่ลาซาด้าเชื่อ 'ใจส่งต่อถึงใจ’ ได้
ลาซาด้าไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับผู้ค้าและลูกค้า แต่ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญและปัญหาต่างๆ ในสังคมไทย โดยลาซาด้าพร้อมให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ผ่านแคมเปญและกิจกรรมต่างๆ อาทิ
“วิกฤตโควิด-19 นับเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทาย ลาซาด้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการทั้งหมดของเราจะเป็น ส่วนหนึ่งในการช่วยร้านค้า ผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และสังคมไทยให้ก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน ลาซาด้าจะไม่หยุดยั้งในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อสังคม และขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนก้าวข้ามสถานการณ์ความยากลำบากและการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยในวิกฤตครั้งนี้ไปได้” นางสาวธนิดา กล่าวทิ้งท้าย
เกี่ยวกับลาซาด้า (Lazada)
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ลาซาด้า กรุ๊ป เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรม ในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ด้วยการนำเสนอธุรกิจการค้าและเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง และเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ลาซาด้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ของผู้บริโภคทั่วภูมิภาค พร้อมความมุ่งมั่นที่จะให้บริการเหล่านักช็อปออนไลน์กว่า 300 ล้านคนภายในปี 2030 ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ลาซาด้าได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของกลุ่มอาลีบาบาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit