สตุ๊ทการ์ท/โตรอนโต. ผลการประกาศรางวัล World Car of the Year Awards 2020 (WCOTY) ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) สามารถเอาชนะใจคณะกรรมการ ด้วยการคว้ารางวัลอันดับหนึ่งไปครอบครอง ถึงสองประเภท ได้แก่ รางวัล World Luxury Car และรางวัล World Performance Car of the Year ในส่วนของรางวัล World Performance นั้น ปอร์เช่ครอง 3 อันดับแรกในสาขานี้ ประกอบด้วย ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) และ ปอร์เช่ 718 สไปเดอร์/เคย์แมน จีที4 (Porsche 718 Spyder/Cayman GT4) ยิ่งไปกว่านั้นรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า สมบูรณ์แบบคันนี้ ยังสามารถคว้ารางวัล ชนะเลิศในประเภท World Luxury Car อีกด้วย คณะกรรมการสื่อมวลชน สายยานยนต์ผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับโลกทั้ง 86 ราย ร่วมคัดเลือกและตัดสินจากรถยนต์รุ่นใหม่กว่า 50 คัน ยนตรกรรมที่ได้รับชัยชนะจะได้รับการประกาศในระหว่าง งานถ่าย ทอดสด การประชุมออนไลน์ โดยการบริหารจัดการของผู้จัดงาน WCOTY
Michael Steiner – สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงานวิจัยและพัฒนา กล่าวหลังรับรางวัล: “การคว้า ตำแหน่งชนะเลิศมาได้ถึง 2 ประเภท นั่นคือ World Performance Car และ World Luxury Car คือเครื่องยืนยันต่อ ความมุ่งมั่นทุ่มเทของเรา เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จในการพัฒนาปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) เราต้องการ สร้างสรรค์ยานพาหนะที่มุ่งเน้นไปยังผู้ขับขี่เป็นหลัก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าของเราสามารถเป็นทั้ง ยานพาหนะสมรรถนะสูง ควบคู่กับอรรถประโยชน์อันเหนือชั้นในฐานะของยานพาหนะที่รองรับต่อการใช้งานประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น เทคโนโลยีดิจิทัลสุดล้ำ และความสะดวกสบายเต็มพิกัดสำหรับผู้โดยสารทั้ง 4 ที่นั่ง เรายินดีอย่างยิ่งที่ WCOTY ตัดสินใจมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ตอบแทนความพยายามของเรา”
รางวัลระดับโลกที่ได้รับมากมาย
ผลการตัดสินรางวัลชนะเลิศ World Car of the Year ในปีนี้ นับเป็นหนึ่งความสำเร็จต่อเนื่องที่ได้รับมายาวนาน ก่อนหน้าปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) คือความสำเร็จของปอร์เช่ 911 รุ่นล่าสุด (The new Porsche 911) ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปีที่แล้ว รถสปอร์ตระดับ ตำนานรุ่นดังกล่าว สามารถคว้ารางวัลระดับสากลได้กว่า 40 รางวัลจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นในตลาดภูมิภาคต่างๆ ทั้ง เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และจีน ในส่วนของปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) ก็ได้รับรางวัลมากมายเช่น เดียวกัน อาทิเช่น:
- Car of the Year: Top Gear magazine (สหราชอาณาจักร)
- Game Changer of the Year: Top Gear magazine (สหราชอาณาจักร)
- The China Green Car of the Year: Chinese Car of the Year (CCOTY)
- German Car of the Year: German Car of the Year (GCOTY)
รวมทั้งยังได้รับรางวัลด้านนวัตกรรม innovation prize จาก Connect magazine (เยอรมนี) อีกด้วย
ปอร์เช่ 911(Porsche 911) ได้รับรางวัลชนะเลิศถึง 2 รางวัลจาก motor und sport magazine (เยอรมนี) readers’ choice for Best Cars จากประเภทรถ 2 ประตู คูเป้ (Coupe) และรถเปิดประทุน คาบริโอเล็ต (Cabriolet) นอกจากนี้ยังได้ รับรางวัลอื่นๆ ดังต่อไปนี้:
- Auto Trophy: readers’ choice of the Auto Zeitung magazine (เยอรมนี)
- Best Performance Car of the Year: Auto Express magazine (สหราชอาณาจักร)
- Best Driver’s Car: Motor Trend magazine (สหรัฐอเมริกา)
- The China Performance Car of the Year: Chinese Car of the Year (CCOTY)
“เรายินดีที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้าของเรา และนี่คือแรงกระตุ้นที่ช่วยผลักดันให้ เราทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไปในอนาคต” Oliver Blume ประธานกรรมการบริหาร ของ Porsche AG แสดงความเห็นต่อไปว่า “เราตระหนักถึงศักยภาพในการเป็นผู้บุกเบิก ความยั่งยืนของยานพาหนะ รวมทั้งในฐานะของผู้สรรสร้างนวัตกรรมยานยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงที่ตอบโจทย์การขับขี่ อันเร้าใจ ผลงานของเราที่กำลังโลดแล่นอยู่บนท้องถนนคือ ปอร์เช่ ไทคานน์ (Porsche Taycan) รถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า สมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ คันแรกของปอร์เช่”
Blume ยังได้กล่าวเสริมถึงรางวัลที่ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) ได้รับว่า “ปอร์เช่ 911 (Porsche 911) เป็นรถสปอร์ตที่นำพาเราอยู่บนเส้นทาง แห่งความสำเร็จมาตลอดระยะเวลาเกือบ 60 ปี ด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น งานออกแบบที่เปี่ยมไป ด้วยคุณลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว เมื่อใดก็ตามที่มีเด็กสักคนวาดภาพรถสปอร์ต ในดวงใจ ของเขาออกมามักจะเป็นรูป ทรงของปอร์เช่ 911 (Porsche 911) อยู่เสมอ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เอกลักษณ์ของขุมพลังเครื่องยนต์วางหลัง และสวิทช์กุญแจที่อยู่ในตำแหน่งตรงข้ามกับเกียร์เสมอ คือตัวตนที่แท้จริง ของปอร์เช่ 911 (Porsche 911) เช่นเดียวกับการที่มัน เป็นมาตรฐาน อันยิ่งใหญ่ให้แก่รถสปอร์ตทุกคัน ที่ยากจะหาข้อเปรียบเทียบ
ติดตามภาพประกอบเพิ่มเติมได้ที่ Porsche Newsroom: newsroom.porsche.de
เกี่ยวกับ AAS Auto Service
ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่าง เป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit