มูลนิธิเอสซีจี มอบนวัตกรรมห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ให้กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์รองรับการให้บริการตรวจรักษาดูแลผู้ป่วยสงสัย/ยืนยันติดเชื้อ COVID-19 เพิ่มมาตรการการรักษาแบบมีระยะห่างป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้รับบริการในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ทุกท่าน จึงมีมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19โดยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ได้แยกอาคารการให้บริการผู้ป่วย ซึ่งกำหนดให้อาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ เป็นอาคารที่จะเปิดให้บริการสำหรับคลินิกโรคทางเดินหายใจ (ARI Clinic) เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคติดเชื้อเฉียบพลันในระบบทางเดินหายใจที่ไม่รุนแรง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19และให้ผู้ป่วยอื่นๆ เข้ารับบริการรักษาที่อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ การแยกอาคารดังกล่าวก็เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยที่สงสัยติดเชื้อโควิด-19เข้าไปในอาคารที่ไว้รองรับการรักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง และผู้ป่วยโรคเรื้อรังอื่นๆที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงหากติดเชื้อ COVID-19 ทั้งนี้ มูลนิธิเอสซีจี ได้ตระหนักถึงปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงได้มอบนวัตกรรมห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 พร้อมห้องน้ำสำเร็จรูป มูลค่ารวม 4.2 ล้านบาทให้แก่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งติดตั้งพร้อมใช้งาน ณ อาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เพื่อรองรับการให้บริการตรวจรักษาดูแลผู้ป่วยที่สงสัย/ยืนยันติดเชื้อ COVID-19 ให้การรักษาแบบมีระยะห่างระหว่างผู้ป่วยและผู้ให้บริการรักษา ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อสุขภาพของทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการรักษา
โดยนวัตกรรมห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 พร้อมด้วยห้องน้ำสำเร็จรูป ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นี้ นับเป็นโรงพยาบาลแห่งที่
3 ที่ทางมูลนิธิเอสซีจีได้ส่งมอบนวัตกรรมดังกล่าวให้กับโรงพยาบาลเพื่อนำไปต่อสู้กับเชื้อโควิด-19
ที่กำลังแพร่กระจายในวงกว้าง โดยมีนายวชิระชัย คูนำวัฒนา Head of Living
Solution Business ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี และ
ดร.วิไลพร เจตนจันทร์ Advisor, President Office เอสซีจี เป็นผู้เข้ามอบให้แก่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์
และมีคณะผู้บริหารของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำโดย รองศาสตราจารย์ แพทย์หญิงฐิติมา
ชินะโชติ ผู้ช่วยเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ด้านบริการทางการแพทย์ ศาสตราจารย์ ดร.พิชัย สนแจ้ง
ผู้อำนวยการสำนักความร่วมมือวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม นายแพทย์ดำรงค์
สุกิจปัญญาโรจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ และนายแพทย์ภูมินทร์
ศิลาพันธ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ฝ่ายพัฒนาคุณภาพและบริการการแพทย์ฉุกเฉิน
พร้อมทีมบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ร่วมรับมอบ พร้อมกันนี้
ได้พาสื่อมวลชนเยี่ยมชม นวัตกรรมห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19
ดังกล่าว ณ ด้านหน้าอาคารศูนย์การแพทย์จุฬาภรณ์เฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์
ในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ซอย 5
สำหรับนวัตกรรมห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดโควิด-19 (Modular COVID Unit) ได้รับการพัฒนานวัตกรรมมาจาก Modular System ของ SCG HEIM และ Living Solution ของเอสซีจี ซึ่งติดตั้งเสร็จพร้อมใช้งานได้ภายใน 3 วัน รองรับการตรวจคัดกรองและตรวจหาเชื้อสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงจากไวรัสโควิด-19 เตรียมพร้อมป้องกันบุคลากรการแพทย์ให้ปลอดภัย โดยยูนิตที่ทางมูลนิธิเอสซีจีติดตั้งให้กับโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ คือ แบบมาตรฐานขนาดเล็กที่ทางมูลนิธิเอสซีจีได้นำมาใช้ในการก่อสร้างที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นที่แรก โดยมีห้องคัดกรอง Modular Screening Unit จำนวน 3 ห้อง พื้นที่ 25 ตารางเมตร และห้อง Modular Swab Unit อีกจำนวน 3 ห้อง พื้นที่ 31 ตารางเมตร รวมมูลค่า 4.1 ล้านบาท ซึ่งเหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งานของทางโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเพิ่มศักยภาพของโรงพยาบาลให้รับการตรวจได้อย่างมั่นใจและปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ให้ปลอดภัยมากขึ้น โดยมีข้อดีหลัก ๆ ดังนี้
ทั้งนี้
ทาง SCG มีความยินดีที่จะมีการแชร์ความรู้และประสบการณ์ในการจัดทำนวัตกรรมห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดโควิด-19 ให้กับผู้ที่สนใจและมีศักยภาพ
เพื่อมาช่วยกันพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ที่จะมาช่วยสู้ COVID ให้กับประเทศร่วมกัน
นอกจากในส่วนของห้องคัดกรองและตรวจผู้เสี่ยงติดโควิด-19 แล้ว มูลนิธิเอสซีจียังได้มอบห้องน้ำสำเร็จรูป (Modular Bathroom) จำนวน 5 ห้อง รวมมูลค่า 1 แสนบาท ซึ่งเป็นนวัตกรรมจาก Living Solution ของเอสซีจี โดยจัดวางแยกพื้นที่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง โดยเป็นห้องน้ำที่มีโครงสร้างผลิตจากคอนกรีตเบาแบบเบ็ดเสร็จพร้อมใช้งานจากโรงงาน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อง่ายจึงช่วยสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับผู้ใช้งาน
ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าวสอดรับกับมาตรการให้การ “รักษาแบบมีระยะห่าง” ของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ป่วยของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากการเผชิญหน้าของทั้งผู้ป่วยและผู้ให้บริการรักษาพยาบาลทุกส่วนงาน เพื่อสนับสนุนมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัดซึ่งเป็นมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ที่ได้ผลดีที่สุด
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit