กลุ่มโรงแรมอนันตรา ร่วมฉลองครบรอบ 50 ปี วันคุ้มครองโลก (Earth Day) ด้วยคลิปตัวอย่างโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่โรงแรมในเครือหลายแห่งทั่วโลกได้ ดำเนินการเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพิทักษ์สิ่งแวดล้อม
ไม่ว่าจะเป็นโครงการฟื้นฟูแนวปะการัง ไปจนถึงการอนุรักษ์ช้าง โครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมได้กลายมาเป็นหนึ่งส่วนสำคัญของงานปฏิบัติการของกลุ่มโรงแรมอนันตรา เพื่อตอบสนองต่อความตระหนักที่เพิ่มขึ้นของนักเดินทางในเรื่องผลกระทบจากการท่องเที่ยวต่อสิ่งแวดล้อมโลก โครงการต่างๆ ได้ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนผ่านความร่วมมือร่วมใจของผู้คนและชุมชนที่เกี่ยวข้อง
คาร์ดามัม เต็นท์ แคมป์ (Cardamom Tented Camp)
สำหรับในประเทศกัมพูชา นโยบายด้านความยั่งยืนของกลุ่มโรงแรมอนันตรา ได้ให้ความสำคัญกับงานปกป้องผืนป่าที่ถูกทำลายโดยกลุ่มผู้ตัดไม้ผิดกฎหมาย กลุ่มล่าสัตว์ป่า รวมไปถึงกลุ่มที่ลักลอบดูดทรายไปขาย คาร์ดามัม เต็นท์ แคมป์ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 18,000 เฮกเตอร์ (ประมาณ 112,500 ไร่) ในเทือกเขาคาร์ดามัม ทางตอนใต้ของกัมพูชา เป็นที่พักแบบอีโคที่ไม่แสวงผลกำไร โดยรายได้จากการให้บริการทั้งหมดนำไปใช้ในการดำเนินงานของแคมป์และจัดจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งหลังจากเริ่มดำเนินงาน ก็พบว่าความอุดมสมบูรณ์และฝูงสัตว์ได้กลับสู่ผืนป่าแห่งนี้อีกครั้ง
มูลนิธิ อนันตรา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ (GTAEF)
มูลนิธิ อนันตรา โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 เพื่อช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตช้างในประเทศไทย โดยแขกผู้เข้าพักอนันตรามีส่วนในการสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ผ่านการบริจาค นอกจากงานหลักในการช่วยเหลือช้างเร่ร่อนบนท้องถนนกว่า 30 เชือก รวมถึงครอบครัวควาญช้างผู้เป็นเจ้าของแล้ว ทางมูลนิธิฯ ยังได้สนับสนุนงานการกุศลอีกหลายกิจกรรม อาทิ การจัดสอนภาษาอังกฤษและการศึกษาให้กับเด็กๆ สนับสนุนงานทอผ้าไหมของกลุ่มแม่บ้าน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อการดูแล คาร์ดามัม เต็นท์ แคมป์
โครงการฟื้นฟูแนวปะการังแบบบูรณาการ (Holistic Approach to Reef Protection - HARP)
โครงการฟื้นฟูแนวปะการังแบบบูรณาการ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ในมัลดีฟส์ได้เริ่มปรากฎผล หลังจากพนักงานและแขกผู้เข้าพักโรงแรมอนันตรา ดิกูห์ (Anantara Dhigu), อนันตรา เวลิ (Anantara Veli) และ นาลาดูห์ ไพรเวท ไอส์แลนด์ (Naladhu Private Island) ได้พยายามร่วมกันนำชิ้นปะการังมายึดติดกับเชือกและพื้นผิวโต๊ะในศูนย์อนุบาล มาเป็นระยะเวลาหลายปี โดยจากการลงพื้นที่ศึกษาของนักชีวิวิทยาทางทะเล ดร. แอนดี้ บรัคก์เนอร์ (Dr. Andy Bruckner) ในปี 2562 ได้เผยให้เห็นว่าปะการังซึ่งอยู่ในศูนย์อนุบาลมีการเจริญเติบโตที่ดี ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดียิ่งต่อการฟื้นฟูแนวปะการังในอนาคต
โครงการลดขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste)
อนันตรา พีซ ฮาเวน แทงเกล รีสอร์ท (Anantara Peace Haven Tangalle Resort) ได้กำหนดให้การดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนเป็นหนึ่งในหลักปฏิบัติภายใต้โครงการโรงแรมสีเขียวของทางรีสอร์ท โดยได้จัดทำระบบบำบัดน้ำเสียที่สามารถบำบัดน้ำเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้กว่า 2,000 ลิตรต่อวัน และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับแทงเกลซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักประสบปัญหาภัยแล้ง การนำขยะที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติไปทำเป็นปุ๋ยสำหรับสวนผักและนาข้าว ซึ่งนำผลผลิตมาใช้ในห้องอาหารของโรงแรม ทางรีสอร์ทยังได้ทำงานร่วมกับ สหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature) ในการให้ความรู้กับประชาชนและเด็กในโรงแรมในพื้นที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์เต่า รวมถึงกิจกรรมเดินเพื่อเต่าอีกด้วย
โครงการเพื่อเกษตรกรรายย่อย (Smallholder Farmer Engagement Programme)
โรงแรม เดอะ รอยัล ลีฟวิงสโตน วิคทอเรีย ฟอลส์ แซมเบีย (The Royal Livingstone Victoria Falls Zambia ได้ทำงานเพื่อช่วยให้เกษตรกรรายย่อยได้มีส่วนแบ่งจากธุรกิจท่องเที่ยว โดยนอกจะจัดซื้อผลผลิตจากเกษตรกรกลุ่มนี้โดยตรง ทางโรงแรมยังได้สนับสนุนกลุ่มสตรีในชุมชนมาแรมบา (Maramba) ในการทำฟาร์มเห็ด จัดฝึกอบรมเกษตรกรรมแบบยั่งยืนให้กับคนงานสตรีของฟาร์มในหมู่บ้านนองเว (Nsongwe) กว่า 3,000 คน
มร. จอห์น โรเบิร์ตส์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและการอนุรักษ์ ของกลุ่มโรงแรมอนันตรา กล่าวว่า “ที่ อนันตรา เราไม่เพียงมุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างถูกต้อง หากแต่เรายังสนับสนุนให้แขกผู้เข้าพักโรงแรมของเรา ได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยกิจกรรมเหล่านี้นอกจากจะเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ มีคุณค่าในตัว และยังสร้างประโยชน์ให้กับโลกเรา จึงถือเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทุกฝ่าย”
ชมคลิปวิดีโอตัวอย่างโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมของอนันตราได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ntjgd078miE
เกี่ยวกับอนันตรา
อนันตรา เป็นแบรนด์โรงแรมหรู ที่เชื่อมนักเดินทางรุ่นใหม่ เข้ากับสถานที่ ผู้คน และเรื่องราว ผ่านประสบการณ์ของแต่ละบุคคลด้วยการบริการจากใจ ณ หลากหลายจุดหมายสำคัญทั่วโลก โรงแรมและรีสอร์ทในเครืออนันตราทุกแห่งจึงเป็นประตูสู่การเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแบบของตน ไม่ว่าจะเป็นในเมืองอันทันสมัย ไปจนถึงกลางทะเลทราย หรือเกาะน้อยใหญ่ อนันตรา พร้อมพานักเดินทางไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของท้องถิ่นที่ยังคงซึ่งความหรูหราด้วยการบริการอันเป็นเลิศ
ปัจจุบันโรงแรมและรีสอร์ทในเครืออนันตราได้เปิดให้บริการแล้วมากกว่า 35 แห่ง ทั้งในประเทศไทย มัลดีฟส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน กัมพูชา ศรีลังกา โมซัมบิก แซมเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ โดยมีโครงการจะขยายโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มทั้งในเอเชีย มหาสมุทรอินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit