สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสนอขายโทเคนดิจิทัลที่อ้างอิงหรือมีกระแสรายรับจากอสังหาริมทรัพย์ ให้มีกลไกคุ้มครองสิทธิประโยชน์ผู้ลงทุนที่เพียงพอเหมาะสม และเพิ่มความยืดหยุ่นในกรณีที่ smart contract ไม่ครอบคลุมการให้หรือบังคับใช้สิทธิของ ผู้ลงทุน เริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2563
ปัจจุบันมีเอกชนหลายรายสนใจจะเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อนำเงินไปลงทุนในอาคารสำนักงานหรือคอนโดมิเนียม จากนั้นนำไปปล่อยเช่าเพื่อหารายได้มาแบ่งปันกันระหว่างผู้ถือโทเคนดิจิทัลหรือ real estate-backed ICO ขณะที่หลักเกณฑ์การกำกับดูแลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลยังไม่รองรับการระดมทุนรูปแบบดังกล่าว ประกอบกับการใช้สัญญาอัจฉริยะ (smart contract) ยังไม่ครอบคลุมการให้หรือบังคับใช้สิทธิของผู้ลงทุนในบางเรื่อง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นนอก blockchain* และไม่อยู่ภายใต้ smart contract เช่น การเก็บค่าเช่าและการจ่ายส่วนแบ่งจากรายได้ที่เกิดจากค่าเช่า ที่ปัจจุบันยังจ่ายเป็นเงิน (fiat currency)**
ก.ล.ต. จึงปรับปรุงหลักเกณฑ์การออก real estate-backed ICO ให้มีกลไกคุ้มครองสิทธิผู้ลงทุนที่เหมาะสม ดังนี้
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้เพิ่มความยืดหยุ่น กรณีที่ smart contract ไม่ครอบคลุมการบังคับใช้สิทธิของผู้ลงทุนตามที่กำหนดในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (แบบ filing) และหนังสือชี้ชวน โดยกำหนดให้สามารถใช้กลไกอื่นที่เทียบเท่ามาทดแทนได้ เช่น การจัดทำข้อผูกพันหรือเอกสารที่มีผลบังคับได้ตามกฎหมาย และต้องเปิดเผยกลไกทดแทนดังกล่าวในแบบ filing และร่างหนังสือชี้ชวนให้ชัดเจน ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ดังกล่าวเริ่มมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit