กสอ. เผย ตลาดออนไลน์ มีแนวโน้มโตขึ้นกว่าร้อยละ 35 พร้อมแนะนำ 4 กลยุทธ์ดีพร้อมเพื่อการทำการตลาดออนไลน์ ได้แก่ สร้างตราสินค้าที่ดีพร้อม การใช้ผลิตภัณฑ์ และ บรรจุภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นตัวแทนของกิจการในการสื่อสารกับผู้บริโภค สร้างคอนเทนต์ที่ดีพร้อม นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวโยงกับผลิตภัณฑ์และเป็นประโยชน์และสร้างความประทับใจกับ ผู้บริโภค สร้างเว็บไซต์ที่ดีพร้อม ถือเป็นหน้าออนไลน์ที่ผู้บริโภคต้องสามารถเข้าถึงได้สะดวก และ สร้างภาพที่ดีพร้อม ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคผ่านการนำเสนอภาพ ทั้งหมดนี้ถูกถ่ายทอดภายใต้กิจกรรม “การยกระดับ SMEs สู่ Global ด้วยการตลาดออนไลน์ e-commerce” ซึ่งสามารถสนับสนุนผู้ประกอบการในการลดต้นทุนผู้ประกอบการที่เข้าร่วม อาทิ ต้นทุนการเช่าหน้าร้าน ค่าจ้างแรงงาน ฯลฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30-40
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจผ่านการทำตลาดออนไลน์ หรือ e-commerce ซึ่งเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคได้ปรับสู่ตลาดออนไลน์มากขึ้น และมีการคาดการณ์ว่ามูลค่ารวมของตลาดออนไลน์ในปี พ.ศ.2563 จะสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนๆ ที่ผ่านมา ประกอบกับในช่วงที่ประเทศทั่วโลกประสบวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมถึงประเทศไทยด้วยนั้น จึงถือเป็นโอกาสสำคัญในการปรับตัวของผู้ประกอบการในการพัฒนาศักยภาพ เพื่อส่วนแบ่งทางการตลาดนี้ ทั้งนี้มี 4 กลยุทธ์ดีพร้อม ในการทำการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
ทั้งนี้ 4 กลยุทธ์ข้างต้น ถูกบรรจุไว้ในกิจกรรม “การยกระดับ SMEs สู่ Global ด้วยการตลาดออนไลน์ e-commerce” หรือ การระดับเอสเอ็มอีสู่ระดับโลกด้วยการทำตลาดออนไลน์ ที่ กสอ. มีผู้ประกอบการสมัคร เข้าร่วมกว่า 300 กิจการ ซึ่งมี 35 กิจการที่มีศักยภาพพร้อมสำหรับการปรับปรุง ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรม โดยจากการดำเนินกิจกรรมฯ พบว่า สามารถลดต้นทุน อาทิ ต้นทุนการเช้าหน้าร้าน ค่าจ้างแรงงาน ฯลฯ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 30-40 หรือราว 28 ล้านบาท และสามารถเสริมสร้างมูลค่ายอดขายทางตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 10-20 หรือราว 12 ล้านบาท นายใบน้อย กล่าว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กสอ. ได้จัดพิธีมอบใบประกาศนียบัตร โล่ประกาศเกียรติคุณ และการเสวนากับตัวอย่างกิจการประสบความสำเร็จ ( Success Case ) ของโครงการทั้ง 4 กิจการ ได้แก่ 1. บริษัท แทนทองอาร์ต จำกัด 2. บริษัท กู๊ด แฮพเพนนิ่ง จำกัด 3. บริษัท สยามวิคเกอร์ จำกัด และ 4. บริษัท เทรคกิ้งไทย จำกัด ณ ห้อง C asean Auditorium ที่ C asean Rama IV ตึก ThaiBev Quarter ชั้น 3
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กองพัฒนาดิจิทัลอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 02 202 4562 หรือ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4502 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/dipindustry และ www.dip.go.th
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit