เจดีเซ็นทรัล ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี (Shrewsbury International School) ประกาศความสำเร็จโครงการ Equity Partnership’s School Network : กระบวนการ สร้าง-ขาย-ขยายฝัน ก่อเกิดผลิตภัณฑ์ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เปิดโอกาสทางการศึกษา” ภายใต้โครงการพัฒนานวัตกรรมเครือข่าย สถานศึกษาเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา โดยมอบรางวัลให้กับทีมโรงเรียนที่ชนะเลิศ รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล ซึ่งจัดขึ้น Zen Gallery ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้
นางสาว รวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด JD CENTRAL ผู้นำด้านเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซและธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย เปิดเผยว่า “บริษัทฯ รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาร่วมกับ Equity Partnership’s School Network โดยเราได้สนับสนุนการเปิดพื้นที่ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มของ JD CENTRAL เพื่อเป็นตัวกลางให้เด็กได้นำผลงานที่สร้างสรรค์มาจำหน่าย ได้รับรายได้จริง และยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้เด็กอีกด้วย ซึ่งในอนาคตหากมีโครงการเช่นนี้เกิดขึ้นอีก เราก็ยินดี ที่จะให้ความร่วมมือ เพราะเชื่อว่าเด็กทุกคนมีศักยภาพพร้อมที่จะพัฒนา และเราก็มีความพร้อมทางด้านทรัพยากรต่างๆ ที่จะให้การสนับสนุน”
โครงการ Equity Partnership’s School Network เป็นกิจกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์และทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับทักษะในศตวรรษที่ 21 โดยมุ่งสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนสร้างอาชีพใหม่ สร้างรายได้ รวมถึงลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งจัดขึ้นระหว่างโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี (Shrewsbury International School) -โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย กับนักเรียนจากโรงเรียนเครือข่ายตลาดวาดฝัน จำนวน 10 แห่ง ให้ได้แสดงศักยภาพในการสร้างสรรค์สินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบ ในชุมชนของจังหวัด จำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มเจดีเซ็นทรัล ภายใต้แคมเปญ “ชวนกันมาช้อป น้องๆ สุขใจ” รายได้จากการจำหน่ายโดยไม่หักค่าใช้จ่ายทั้งหมด จะมอบให้กับนักเรียนทุนเสมอภาคในโรงเรียนเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อนำไปต่อยอดทักษะอาชีพและเป็นทุนการศึกษาต่อไป โครงการดังกล่าวใช้ระยะเวลาดำเนินการทั้งหมดกว่า 9 เดือนตั้งแต่ ตุลาคม 2562 จนถึงเดือนมิถุนายน 2563
หลังจากจำหน่ายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม JD CENTRAL เป็นระยะเวลา 1 เดือน กสศ.- เจดีเซ็นทรัล และโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ได้ตัดสินมอบรางวัลให้ทีมที่มีผลงานดีเด่น โดยพิจารณาจากเกณฑ์ คือ ยอดจำหน่ายสินค้า ความคิดสร้างสรรค์ กระบวนการทำงาน ตลอดจนความร่วมมือของโรงเรียนแต่ละแห่ง รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล ได้แก่
รางวัลชนะเลิศ เป็นผลงานจากโรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี จังหวัดเชียงราย และกลุ่มนักเรียนโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน แบรนด์ “บางกอกห้วยไร่” กับผลิตภัณฑ์ถุงผ้า Handmade by ม่อนฟ้าหลวง
รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง เป็นผลงานจากโรงเรียนบ้านท่าแซะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี แบรนด์ “cocomarketeers” กับผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ในขวดแก้วกัดลาย
รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง เป็นผลงานจากโรงเรียนบ้านหนองนกทา จังหวัดอุบลราชธานี และกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี แบรนด์ “สัตตบรรณงานสาน” กับผลิตภัณฑ์ปากกาสานฝัน ที่ผสมผสานงานสานด้วยวัสดุและลวดลายพื้นบ้านบนปากกา
ด.ญ. สุดารัตน์ โวยยือกู่ นักเรียนจากโรงเรียนบ้านห้วยไร่สามัคคี (ขวา) หนึ่งในสมาชิก ทีมชนะเลิศ กล่าวว่า “โครงการนี้เปิดโอกาสให้พวกเราเรียนรู้ที่จะพัฒนาสิ่งที่มีอยู่แล้วในชุมชน ให้ออกมาเป็นสิ่งใหม่ เพื่อเพิ่มมูลค่า ความน่าสนใจ และความเข้ากับยุคสมัย เช่นทีมของเราได้ผลิต ถุงผ้าที่ใช้ได้ในทุกๆ วัน จากเศษผ้าที่เหลือจากการตัดตุง ซึ่งเป็นการประยุกต์สร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น”
“การเข้าร่วมโครงการนี้ ทำให้ได้ฝึกทักษะการขาย รู้จักวิธีการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายออนไลน์ที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดเป็นทางเลือกในการสร้างอาชีพสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต รวมถึงยังเป็นการนำความคิดสร้างสรรค์ของเราไปเพิ่มมูลค่าให้แก่สิ่งที่มีอยู่แล้วในชุมชน ช่วยให้ผู้ปกครองก็มีช่องทางหารายได้เพิ่มเติมอีกด้วยค่ะ” ด.ญ.ชนากานต์ ดิษฐภู่ นักเรียนจากโรงเรียนบ้านหนองนกทา หนึ่งในสมาชิกทีมรองชนะเลิศอันดับที่สองกล่าวเสริม
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลอื่นๆ ได้แก่ รางวัลความร่วมมือดีเด่น คือ ผลิตภัณฑ์กระติบข้าว แบรนด์ “Bamboo Art” ผลงานจากโรงเรียนมัธยมตลาดใหญ่วิทยา จังหวัดขอนแก่น กับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี, ผลิตภัณฑ์กล่องอเนกประสงค์ แบรนด์ “เอราวัณโกอินเตอร์” ผลงานจากโรงเรียนเอราวัณวิทยาคม จังหวัดเลย กับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี และผลิตภัณฑ์กระเป๋าผ้ารักษ์โลก แบรนด์ “คลองโรรักษ์โลก” ผลงานจากโรงเรียนบ้านคลองโร จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี
รางวัลนวัตกรรมดีเด่น คือ ผลิตภัณฑ์กระเป๋าถือจากผ้า (Clutch) แบรนด์ “Yus Tsev อยู่เจ๋” ผลงานจากโรงเรียนแม่ตะละวิทยา จังหวัดเชียงรายกับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี และผลิตภัณฑ์กระเป๋าทอกก แบรนด์ “ลายสานกก” ผลงานจากโรงเรียนท่าศาลาประชานุสรณ์ จังหวัดขอนแก่น กับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี
สุดท้าย เป็นรางวัลสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดีเด่น คือ ผลิตภัณฑ์ที่แขวนกุญแจ แบรนด์ “JDKOH” ผลงานจากโรงเรียนเจดีย์โคะ จังหวัดตาก กับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี และผลิตภัณฑ์ ชาใบหม่อน แบรนด์ “อรุณ” ผลงานจากโรงเรียนราษฎร์บำรุงธรรม จังหวัดกาญจนบุรี กับกลุ่มนักเรียนโรงเรียนโชรส์เบอรี
เจดี เซ็นทรัล ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี อีคอมเมิร์ซและธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย มีความมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานการค้า เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับสังคม โดยส่งเสริมและสนับสนุนเด็กและเยาวชนไทยได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ สามารถเข้าชมสินค้าของเด็กๆ ที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ที่ www.jd.co.th หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JD CENTRAL ได้บน AppStore และ PlayStore หรือติดตามผ่านทาง Facebook: JD CENTRAL
เกี่ยวกับเจดี เซ็นทรัล
เจดี เซ็นทรัล คือบริษัทอีคอมเมิร์ซที่เกิดจากความร่วมมือของสองยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจค้าปลีกอย่างบริษัท เซ็นทรัลกรุ๊ป จำกัด และเจดีดอทคอม (JD.com) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ที่มุ่งมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทย พร้อมนำเสนอสินค้าคุณภาพของแท้ 100% จากแบรนด์ชั้นนำทั้งของไทยและระดับโลกในราคาที่ดีที่สุด รวมไปถึงระบบจัดการสินค้าและการจัดส่งระดับโลกที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเชื่อถือได้ พร้อมกับการผสานธุรกิจจากออนไลน์ไปยังออฟไลน์อย่างยอดเยี่ยม โดยมีวิสัยทัศน์ในการมุ่งสู่การเป็นอันดับ 1 ในธุรกิจออนไลน์และเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในประเทศไทย เจดี เซ็นทรัลพร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สนุกสนานและมั่นใจไร้กังวลให้กับทุกคน และมุ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทยในตลาดโลก และจะเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับโครงสร้างด้านโลจิสติกส์ของประเทศไทยให้มี ประสิทธิภาพทัดเทียมมาตรฐานโลก พร้อมส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวัน ออกเฉียงใต้ในอนาคตอันใกล้อีกด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit