เป็นประจำทุกปีที่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้มอบรางวัลแก่นิสิตนักศึกษาผู้มีความประพฤติดี โดยคัดเลือกจากนิสิตนักศึกษาทั่วราชอาณาจักร ในปีนี้สองนิสิตจุฬาฯ จากภาควิชาหลักสูตรและการสอน สาขามัธยมศึกษา คณะครุศาสตร์ ณรงค์ชัย แสงอัคคี และศุภกร จิตรเจริญพร ได้รับรางวัลผู้มีความประพฤติดี ประจำปี 2563 ในฐานะพุทธศาสนิกชนที่ประพฤติดี มีผลงานการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ทางพุทธศาสนา เป็นแบบอย่างที่ดีของเยาวชนไทย นำความภาคภูมิใจมาสู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นอย่างยิ่ง
ศุภกร จิตรเจริญพร นิสิตชั้นปีที่ 4 ภาควิชาหลักสูตรและการสอน สาขามัธยมศึกษา (มนุษยศาสตร์ – สังคมศาสตร์) วิชาเอกภาษาจีน คณะครุศาสตร์ จุฬาฯ เป็นนิสิตที่สนใจทำกิจกรรมทางด้านพุทธศาสนามาโดยตลอด เช่น ปฏิบัติหน้าที่รับบาตรพระสงฆ์ในพิธีตักบาตรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ของมหาวิทยาลัย เข้าร่วมการปฏิบัติธรรม เป็นพี่เลี้ยงในค่ายอาสาต่างๆ รับผิดชอบฝ่ายพิธีการในวันปิยมหาราช ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวิชาการ เช่น เข้าร่วมการประกวดสุนทรพจน์ภาษาจีน เป็นประธานชมรมศิลปะการแสดงของคณะครุศาสตร์ ปีการศึกษา 2562 และร่วมกิจกรรมการทำละครเพื่อสังคม
“ความประพฤติดีหมายถึงการมีความซื่อสัตย์ในจิตใจ เพราะความซื่อสัตย์คือพื้นฐานของความดี เมื่อเราคิดดี มีมโนธรรมและสำนึกที่ดี นอกจากจะทำให้เราประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดีแล้ว ยังส่งผลต่อคนรอบข้างในสังคมด้วย สิ่งที่ผมปฏิบัติเสมอมาคือการแต่งกายชุดนิสิตจุฬาฯ ที่ถูกระเบียบ ปฎิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคม มีวินัยในตนเอง ตั้งใจเรียน การเข้าร่วมกิจกรรมในมหาวิทยาลัยช่วยให้รู้จักการเป็นผู้นำและผู้ตามได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้การสวดมนต์ก่อนนอนยังทำให้จิตใจสงบ ช่วยให้สามารถทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างราบรื่นและมีสติ” ศุภกร กล่าว
ณรงค์ชัย แสงอัคคี นิสิตชั้นปีที่ 2 จากสาขาวิชาเดียวกัน วิชาเอกภาษาไทย เป็นนิสิตผู้มีความประพฤติดีอีกคนหนึ่งที่ทำกิจกรรมเพื่อประโยชน์ของสังคมมาโดยตลอด เช่น ได้รับพระราชทานรางวัลเยาวชนต้นแบบ คนดีของชุมชน จากทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมโครงการรณรงค์การใช้ภาษาไทยดีเด่น การเผยแพร่นวัตกรรมแก่นักเรียนในชนบท ฯลฯ
หลักธรรมที่สำคัญที่สุดที่ณรงค์ชัยยึดถือเป็นหลักประจำใจคือความกตัญญูกตเวที ณรงค์ชัยมองว่าการประพฤติดีสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เราปฏิบัติตามกฎระเบียบและบรรทัดฐานของสังคม ปฏิบัติตามหลักศีล 5 เพียงเท่านี้ก็ทำให้สังคมเป็นระเบียบเรียบร้อย
“ทุกคนมีความเก่งอยู่กับตัวอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญก็คือจะทำอย่างไรจึงจะนำความเก่งนั้นมาสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น และนำไปต่อยอดได้ การเป็นผู้ให้เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าผู้รับ เพราะทำให้เกิดความภาคภูมิใจทั้งต่อตนเองและครอบครัว” ณรงค์ชัย กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit