เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) หรือ STT GDC Thailand ผู้นำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ ประกาศเดินหน้ารุกตลาดไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์แคมปัสในประเทศไทย พร้อมเปิดให้บริการเฟสแรกภายใต้โครงการ STT Bangkok 1 ในต้นปี 2564 ล่าสุด STT GDC Thailand เป็นดาต้าเซ็นเตอร์แห่งแรกในประเทศไทยที่คว้ามาตรฐานด้านการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์จาก The Telecommunications Industry Association (TIA) ซึ่งเป็นองค์กรรับรองมาตรฐานดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลก ด้วยมาตรฐาน TIA-942 Certification Rated-3 และยังพร้อมการันตีคุณภาพด้วยอีกมาตรฐานระดับสากล Uptime Institute Tier III Certification
โครงการไฮเปอร์สเกลดาต้าเซ็นเตอร์ STT Bangkok 1 ซึ่งเป็นโครงการเฟสแรกตั้งอยู่ที่หัวหมาก ใจกลางทำเลธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ มีขนาดพื้นที่รวม 30,000 ตารางเมตร พร้อมขีดความสามารถในการให้บริการ 20 เมกะวัตต์ โดยหลังจากที่แคมปัสแห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดแล้วจะมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 60,000 ตารางเมตร ด้วยขีดความสามารถในการให้บริการที่สูงขึ้นรวมเป็น 40 เมกะวัตต์ ทำให้สามารถรองรับการให้บริการเชื่อมต่อที่เป็นกลาง และมีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับผู้ใช้งานบนทุกแพลตฟอร์มของลูกค้า และองค์กรชั้นนำ
ทั้งนี้ มาตรฐาน TIA-942 Rated-3 แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานระดับสูงของการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ STT Bangkok 1 ที่ได้การรับรองครอบคลุมด้านโครงสร้างพื้นฐานของระบบโทรคมนาคม และการดำเนินงานสำคัญของดาต้าเซ็นเตอร์เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดดาวน์ไทม์ อาทิ การดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับทำเลที่ตั้ง โครงสร้างสถาปัตยกรรม โครงสร้างพื้นฐานของตัวอาคาร ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ ระบบป้องกันอัคคีภัย และระบบความปลอดภัยทางกายภาพ เป็นต้น สำหรับมาตรฐานการรับรองของ Uptime Institute ในระดับ Tier III ให้การรับรอง STT Bangkok 1 ในการออกแบบดาต้าเซ็นเตอร์ให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในระหว่างการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจในการใช้บริการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญขององค์กรได้อย่างปลอดภัยและมีเสถียรภาพสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ให้บริการคลาวด์และองค์กรธุรกิจต่างๆ ที่ต้องการใช้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีความปลอดภัย และสามารถเพิ่มพื้นที่ใช้งานเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจได้ทันที
นายศุภรัฒศ์ ศิวะเพ็ชรานาถ สิงหรา ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสที เทเลมีเดีย โกลบอล ดาต้าเซ็นเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในช่วงที่ภาคธุรกิจต่างๆ หยุดชะงักและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เราเห็นได้ชัดว่า ธุรกิจดิจิทัลมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สะท้อนจากยอดตัวเลขการใช้งานอินเทอร์เน็ตและปริมาณดาต้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและตอบสนองต่อเทคโนโลยีดิจิทัลที่มากขึ้น ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ของไทยจะมีโอกาสเติบโตจากความได้เปรียบด้านทำเลที่ตั้งของประเทศที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน และความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนบุคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศได้เป็นจำนวนมาก โดยคาดว่า ตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ของอาเซียนในปี 2567 จะมีมูลค่าสูงถึง 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit