นับเป็นการเพิ่มมูลค่า “กล้วยไข่” ที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ “กล้วยไข่กรอบแก้ว” จากกล้วยไข่ในสวน ราคากิโลกรัมละเพียง 3 บาท สร้างสรรค์เป็นสแน็คกล้วยชั้นเยี่ยม รสชาติหลากหลาย ตอบโจทย์คนรักสุขภาพในยุคปัจจุบัน พอมีโอกาสเข้าไปขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นได้ไม่นาน ลูกค้าต่างชื่นชอบ สร้างรายได้ให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน 300,000 – 400,000 บาทต่อเดือน ทำให้สมาชิกกว่า 15 ครัวเรือนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ที่สำคัญชาวสวนกล้วยไข่ยังมีออร์เดอร์ต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพราะทางกลุ่มวิสาหกิจรับซื้อพร้อมประกันราคาให้อีกด้วย
หากย้อนไปดูที่มาของความสำเร็จของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้จะพบว่า เกิดจากความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือเกษตรกร ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และผู้นำในชุมชนบ้านลำสินธุ์ ตำบลลำสินธุ์ อำเภอศรีนครินทร์ จังหวัดพัทลุง
นางประทิ่น นาคมิตร วัย 64 ปี ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เล่าว่า ปี พ.ศ.2540 เข้ามารับช่วงต่อเป็นประธานกลุ่ม ด้วยความตั้งใจหลัก คือ นำพากลุ่มให้อยู่รอด และช่วยเหลือเกษตรกรในท้องถิ่นให้มีรายได้ ซึ่งตอนนั้นเห็นกล้วยน้ำว้า และกล้วยไข่ ราคาตกต่ำมาก จากกิโลกรัมละ 40 บาท ลดลงเหลือเพียงกิโลกรัมละ 3 บาท สมาชิกทุกคนลงมติเป็นเสียงเดียวกัน 'ควรนำมาแปรรูป’
ผู้นำกลุ่มพลิกโฉมกล้วยให้กลายเป็นขนมกินเล่นแบบสแน็ค โดยเลือกใช้กล้วยไข่ เปลี่ยนเมนูพื้นๆ จากกล้วยฉาบ กล้วยเชื่อม กล้วยกวน ให้เป็นกล้วยกรอบแก้ว ปรุงรสแตกต่างจากท้องตลาดมี รสเค็ม รสหวาน รสปาปริก้า รสบาร์บีคิว ต้มยำ และรสสาหร่าย แข่งกับขนมสมัยใหม่ได้
“ผลิตภัณฑ์กล้วยกรอบแก้ว มีแบบม้วน แบบแว่น แบบสไลด์ และแบบแท่ง กรรมวิธีทำไม่ยากหัวใจสำคัญอยู่ที่การเลือกกล้วยไข่ ต้องใช้กล้วยไข่ปลูก 7 เดือน ตัดก่อนกล้วยจะสุก 3 วัน กล้วยภาคใต้ลูกเล็ก เนื้อแน่น กรอบ สาเหตุที่เลือกใช้กล้วยลักษณะนี้ รสชาติจะไม่หวาน แต่จะให้ความมัน ปรุงรสชาติแล้วเข้ากันดี”
สำหรับกรรมวิธีทำกล้วยกรอบแก้ว ผู้นำกลุ่ม เผยว่า ขั้นตอนแรก นำกล้วยสดล้างน้ำสะอาด จากนั้นนำไปปอกเปลือก แช่ในน้ำมะนาวเพื่อไม่ให้ผิวกล้วยดำ ล้างน้ำสะอาดอีกที นำไปสไลด์เป็นแผ่นบางๆ ทอดลงกระทะน้ำมันความร้อน 160 องศา ประมาณ 5 นาที ปรุงรสชาติตามต้องการ จากนั้นเข้าตู้อบอีก 3 -10 นาที ซับน้ำมันและไล่ความชื้นเพื่อป้องกันเชื้อรา
ด้านการตลาด นางประทิ่น ย้ำว่า ทางกลุ่มพัฒนาสินค้ามาเรื่อยๆ ลงพื้นที่ออกบูธทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขายได้บ้าง ไม่ได้บ้าง กระทั่งปี พ.ศ. 2552 ขณะที่กำลังอยากเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายและยกระดับสินค้าให้เป็นที่รู้จัก มีผู้บริหารเซเว่นฯ เข้ามาสอบถามว่า
อยากลองนำกล้วยกรอบแก้วมาขายในเซเว่นไหม? จึงไม่รอช้ารีบตอบตกลงทันที
หลังได้รับการติดต่อจากผู้บริหารเซเว่นฯ ผู้นำกลุ่มมองการณ์ไกลว่า ช่องทางร้านสะดวกซื้อนับเป็นโอกาสขยายตลาดค้าปลีกที่รวดเร็ว เลยตัดสินใจยกเครื่องโรงงานสร้างใหม่เพื่ออนาคต เปลี่ยนอุปกรณ์ตั้งแต่กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ เนื้อที่โรงงานใหม่ประมาณครึ่งไร่ ใช้ระยะเวลาพัฒนาสินค้าร่วมกับซีพี ออลล์ เกือบ 1 ปีเต็ม โดยทีมงานเซเว่นฯ เข้ามาแนะนำเรื่องของการตลาด การพัฒนาคุณภาพสินค้า และบรรจุหีบห่อให้น่าสนใจ สะดุดตาผู้บริโภค
“ปี พ.ศ. 2553 สินค้าถูกนำไปวางขายที่ร้านเซเว่นฯ เริ่มสาขาภาคใต้ก่อนจะกระจายไปภาคอื่นๆ ปัจจุบันกระจาย 1,500 สาขา กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลำสินธุ์ เป็นชุมชนกลุ่มแรกของจังหวัดพัทลุง ที่สามารถเป็นคู่ค้ากับบริษัทค้าปลีกระดับประเทศ ส่งผลถึงยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แบรนด์กล้วยเมืองลุงเริ่มเป็นที่รู้จัก ปัจจุบันทางกลุ่มฯ จะใช้กล้วยไข่ดิบรับซื้อจากเกษตรกรวันละ 300 กิโลกรัมนำมาแปรรูป มีการประกันราคาให้ด้วย เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7-12 บาท ออร์เดอร์จากร้านเซเว่นฯ ช่วยสร้างรอยยิ้มให้ชาวสวน ไม่ต้องโค่นต้นกล้วยในยามที่ราคาตกต่ำ”
นับตั้งแต่เป็นคู่ค้ากับเซเว่นฯ นางประทิ่น บอกด้วยรอยยิ้มว่า ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง รายได้เฉลี่ยเดือนละ 300,000 – 400,000 บาท ส่งผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิก 15 ครอบครัวดีขึ้น ส่วนเกษตรกรต่างแฮปปี้ เพราะทางกลุ่มช่วยประกันราคากล้วย และมีเงินกองทุนฟื้นฟูพัฒนาเกษตรกร ดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อปี ทั้งหมดนี้เป็นพลังความร่วมมือในการพัฒนาระหว่างผู้ผลิตสินค้า และทีมงานจำหน่ายสินค้าของเซเว่นฯ ทำให้ผลิตภัณฑ์ “กล้วยไข่กรอบแก้ว”ในวันนี้ ได้รับมาตรฐานมากมาย ทั้งมาตรฐาน มพช. โอทอป 5 ดาว อย. ฮาลาล และ HACCP และมีโอกาสขยายตลาดไปในต่างประเทศ ล่าสุดได้ส่งสินค้าไปจำหน่ายในประเทศเวียดนาม จีน สิงคโปร์ รวมถึงญี่ปุ่น
เห็นแล้วภาคภูมิใจที่สินค้าไทยไปได้ไกลถึงต่างแดน โดยสามารถรับชมเรื่องราวของ SME กล้วยเมืองลุง ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=aseH2wWdy3w
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit