กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งยกระดับเกษตรอุตสาหกรรม มอบหมาย กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สั่งการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม รวบรวมเครื่องจักรกลที่ทันสมัย รองรับความต้องการของผู้ประกอบการเกษตร โดยไม่ต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรที่มีราคาสูง เพื่อใช้ศึกษาความเป็นไปได้และทดสอบตลาดให้ตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า จาก นโยบายของ พลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับภาคเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก กระทรวงอุตสาหกรรม ภายในการดำเนินงานของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จึงเร่งการฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและการยกระดับภาคการเกษตรไปสู่เกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งพบว่าปัจจัยที่จำเป็น คือ เครื่องจักรกล ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในอุปสรรค์ที่ภาคการเกษตรประสบปัญหา จึงได้มอบหมายให้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เร่งรัดการดำเนินงานศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center :ITC 4.0) ทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยีเครื่องจักรที่ทันสมัย เพื่อการให้บริการที่รองรับกับความต้องการของผู้ประกอบการเกษตร จึงได้ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเยี่ยมชมความพร้อมศูนย์ ITC 4.0 ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก และรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการ เพื่อการให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายหลัก
ของการปฏิรูปอุตสาหกรรมผ่านการดำเนินงานของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center :ITC 4.0) คือ การให้บริการทดลอง ทดสอบ เพื่อการแปรรูปผลผลิตทางทางการเกษตรให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น โดยที่ผู้ประกอบการหรือเกษตรกรไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อเครื่องจักรที่มีราคาสูง เพื่อใช้ศึกษาความเป็นไปได้และทดสอบตลาดให้ตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการยกระดับเกษตรกรไทยให้เป็น "นักธุรกิจเกษตร" ที่เข้มแข็ง
ปัจจุบันศูนย์ ITC 4.0 ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการรวบรวมเครื่องจักรกลเพื่อให้บริการกับผู้ประกอบการและเกษตรกร อาทิ เครื่องสกัดด่วน (Hi Speed Extractor) เครื่องระเหยเข้มข้น (Falling Film Evaporator) เครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย (Spray Dryer) และเครื่องอบแห้งระบบปั้มความร้อน (Heat Pump Dryer) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้สร้างสรรค์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ของเกษตรกร นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ครบวงจร (Design Center) ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัย สอดรับความต้องการของตลาดด้วย
อย่างไรก็ดี การดำเนินงานที่ผ่านมา กสอ. โดย ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 2 ได้ดำเนินการให้คำแนะนำรวมทั้งสบันสนุนในด้านต่าง ๆ จนกระทั่งเกษตรกรสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดในธุรกิจจนประสบความสำเร็จ อาทิ นางวิมล ฟักทอง ผู้ประกอบการบริษัท เห็ดดีไลท์ ไทยออร์แกนิค จำกัด อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ที่ได้แปรรูปเห็ดหูหนูผ่านเครื่องอบแห้งระบบปั๊มความร้อน เพื่ออบเห็ดให้แห้งและพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์น้ำเห็ดเจลลี่เฟรช ทำให้รายได้จากการจำหน่ายเห็ดหูหนูแห้งราคา กก.ละ 250 บาท เพิ่มเป็น กก.ละ 500 บาท ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 40,000 บาทต่อเดือน และ นางรัตนากร แก้วสายัณห์ ผู้ประกอบการผลิตจำหน่าย “กล้วยตากรัตนากร” อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ที่ได้นำหัวปลีมาทดลองแปรรูปเป็นหัวปลีผงอัดแคปซูล สำหรับบำรุงน้ำนมของแม่ลูกอ่อน ด้วยวิธี Spray Dryer เครื่องทำแห้งแบบพ่นฝอย ทำให้รายได้จากการจำหน่ายหัวปลีสดเดิม กก.ละ 7 บาท เป็น กก.ละ 850 บาท นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4414 – 18 หรือ เข้าไปที่ www.dip.go.th