นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวกรณี นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย เสนอให้เพิ่มสวัสดิการแก่เจ้าหน้าที่งานระบายน้ำ เขตคันนายาว เนื่องจากเจ้าหน้าที่เหล่านี้ได้รับเงินเดือนและค่าตอบแทนน้อย ไม่เพียงพอกับการดำรงชีวิตว่า ในส่วนของลูกจ้างสำนักการระบายน้ำ ได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง บำเหน็จและเงินช่วยเหลือลูกจ้างกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2557 ประกอบด้วย เงินทำขวัญ บำเหน็จปกติ บำเหน็จพิเศษ บำเหน็จรายเดือน บำเหน็จพิเศษรายเดือน บำเหน็จตกทอด และเงินช่วยเหลือค่าทำศพ เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการศึกษาของบุตร เงินตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ การประกันสังคมเงินทุนสนับสนุนการศึกษาแก่บุตรข้าราชการและลูกจ้างประจำกรุงเทพมหานคร อาคารสงเคราะห์ข้าราชการและลูกจ้างประจำของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ความเห็นชอบในหลักการกำหนดเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานเสี่ยงภัยตามแผนงานจัดการระบายน้ำและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการรับมือกับอุทกภัยทั้งจากน้ำฝน น้ำหนุน และน้ำหลาก เพื่อเป็นสวัสดิการให้แก่ผู้ปฏิบัติงานภาคสนาม หากได้รับความเห็นชอบ จะเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง เงินเพิ่มพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานกู้ภัย พ.ศ.2548 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
นางช่อทิพย์ สิทธิพูล ผู้อำนวยการเขตคันนายาว กทม. กล่าวว่า อัตราลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มงานระบายน้ำ ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตคันนายาว มี 72 อัตรา ประกอบด้วย ลูกจ้างประจำ 39 อัตรา โดยได้รับค่าจ้างในการบรรจุเป็นลูกจ้างประจำครั้งแรก เดือนละ 12,696 บาท อีกทั้งจะมีการเลื่อนตามอัตราเงินเดือนของแต่ละปี ส่วนลูกจ้างชั่วคราว กลุ่มงานระบายน้ำ ฝ่ายโยธา จำนวน 33 อัตรา ได้รับอัตราค่าจ้างเป็นรายเดือนๆ ละ 12,000 บาท นอกจากนี้ ทั้งลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราว ยังได้รับเงินค่าตอบแทนค่าอาหารนอกเวลาราชการเฉลี่ยทุกคน เดือนละ 2,000 บาท รวมทั้งได้จัดทำประกันอุบัติเหตุกรณีเสียชีวิต วงเงินคนละ 100,000 บาท ตลอดจนได้รับการช่วยเหลือตามสิทธิต่าง ๆ ที่พึงได้รับจากกรุงเทพมหานคร รวมทั้งครอบครัวด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit