“ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง” เพื่อโรงเรียนพระดาบส

15 Jun 2020

“…ขณะนี้ ยังมีบุคคลอีกเป็นจำนวนมากที่มีความตั้งใจจริง มีศรัทธาขวนขวายหาความรู้เป็นวิชาชีพใส่ตน แต่ประสบปัญหา ไม่มีความรู้พื้นฐาน และไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะเข้าศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาวิชาชีพระดับต่างๆ ได้ หากมีช่องทางช่วยเหลือบุคคลเหล่านี้ ให้มีความรู้ วิชาชีพที่เขาปรารถนา ย่อมจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติได้…” พระราชดำรัสตอนหนึ่งของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้ทรงพระราชกำเนิด “โครงการพระดาบส” ที่ทรงพระราชทานแก่พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ เลขาธิการคนแรกของ “มูลนิธิพระดาบส” เมื่อปี พ.ศ. 2518

“ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง” เพื่อโรงเรียนพระดาบส

โรงเรียนพระดาบส มูลนิธิพระดาบส ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2519 ด้วยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระประสงค์จะช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือไม่มีวุฒิการศึกษาพื้นฐานพอที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับสูง ให้ได้มีวิชาชีพติดตัว และทำมาหารายได้เลี้ยงตนเองได้  โดยจัดการเรียนการสอนวิชาชีพระดับ “ประกาศนียบัตรพระดาบส” ในรูปแบบโรงเรียนประจำหลักสูตร 1 ปี (เริ่มเดือนเมษายน) มุ่งเน้นการฝึกทักษะวิชาชีพ เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานประกอบอาชีพได้จริงและฝึกทักษะชีวิตเพื่อให้สามารถดำรงตน จำนวนปีละประมาณ 150 คน โดยผู้ที่จะสมัครเข้าเรียนต้องเป็นผู้ด้อยโอกาสและขาดแคลนทุนทรัพย์ อายุ 18-35 ปี ไม่จำเป็นต้องมีวุฒิการศึกษา ไม่เสียค่าเล่าเรียน มีที่พักและอาหารให้ แต่ต้องมีความขยันหมั่นเพียรตั้งใจเล่าเรียน และประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี เคร่งครัดในระเบียบวินัยและยินดีเต็มใจรับผิดชอบภารกิจร่วมกับหมู่คณะ ปัจจุบันมีผู้เรียนสำเร็จการศึกษาไปแล้วกว่า 1,800 คน

เพื่อร่วมสืบสานพระราชปณิธาน โครงการ “ชลิต อินดัสทรี สานต่อ ก่ออาชีพช่าง” โดย บริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบรถยนต์และอะไหล่ยาง ภายใต้แบรนด์ “POP” ตระหนักถึงความสำคัญของพัฒนาด้านการศึกษาและการส่งเสริมสร้างวิชาชีพให้แก่เยาวชนไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมหลักสูตรวิชาช่างของโรงเรียนพระดาบส มูลนิธิพระดาบส ด้วยการบริจาคเงินพร้อมอุปกรณ์อะไหล่รถยนต์และอะไหล่ยาง เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนและการดำเนินงานของโรงเรียนพระดาบส มูลนิธิพระดาบส

โดยเมื่อเร็วๆนี้ พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข  กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิพระดาบส ได้ให้เกียรติเป็นผู้รับมอบเงินบริจาค พร้อมอะไหล่รถยนต์และอะไหล่ยาง จากนายชวิศ ยงเห็นเจริญ และนางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ ผู้ดำเนินโครงการ “ชลิต อินดัสทรี สานต่อก่ออาชีพช่าง” เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงเรียนพระดาบส มูลนิธิพระดาบส ช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและส่งเสริมวิชาชีพช่างให้แก่น้องๆเยาวชน โดยมี นายอัครเดช ชูจิตต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส, พลเรือตรีหญิง ปณิธิ จั่นทอง ผู้อำนวยการ สำนักงานมูลนิธิพระดาบส และนาวาอากาศเอก ธนกฤต เสงี่ยมงาม รองหัวหน้า สำนักงานมูลนิธิพระดาบส ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สำนักงานมูลนิธิพระดาบส

นายชวิศ ยงเห็นเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทชลิต อินดัสทรี จำกัด กล่าวว่า นอกจากการมอบเงินเพื่อสมทบเป็นทุนค่าเล่าเรียนให้กับน้องๆ และอุปกรณ์อะไหล่ยานยนต์ต่างๆเพื่อให้น้องๆได้นำไปลงมือฝึกปฏิบัติจริง ทางบริษัทชลิต อินดัสทรีฯ ยังยินดีรับนักเรียนช่างของโรงเรียนพระดาบสที่กำลังจะจบหลักสูตร เข้าฝึกงานในโรงงานของบริษัท ชลิต อินดัสทรี จำกัด ในแผนกต่างๆตามเหมาะสม อาทิ แผนกช่างซ่อมบำรุง ช่างไฟฟ้า เป็นต้น ช่วยเพิ่มโอกาสและช่วยสานฝันน้องๆเยาวชนที่ใฝ่ฝันอยากเป็นช่างฝีมือให้มีวิชาชีพและสามามารถสร้างรายได้ดูแลตนเองและครอบครัวได้

ด้านนางสาววิมลลักษณ์ ยงเห็นเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและกิจกรรมเพื่อสังคม กล่าวว่า โครงการ “ชลิต อินดัสทรี สานต่อ ก่ออาชีพช่าง” เป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัท โดยที่ผ่านมา บริษัทชลิต อินดัสทรี ฯ มีส่วนช่วยสร้างงานให้คนในชุมชนมีงานทำและมีรายได้เลี้ยงคนในครอบครัว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายให้ความสำคัญในการพัฒนาชุมชนและตอบแทนสังคม ด้วยการเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนกิจกรรมขององค์กรต่างๆรวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆเพื่อการพัฒนาสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา และการสร้างวิชาชีพแก่ผู้ด้อยโอกาสให้ได้ศึกษาหาความรู้และมีวิชาชีพติดตัวสามารถดำเนินชีวิตและดูแลครอบครัวได้

นายอัครเดช ชูจิตต์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนพระดาบส กล่าวว่า ที่นี่มีการเรียนการสอนที่แตกต่างจากหลักสูตรทั่วไปด้วยการมุ่งเน้นสร้างนักเรียนให้เป็นคนดีพร้อมกับการเรียนที่มุ่งเน้นการปฎิบัติจริงมากกว่าภาคทฤษฎีให้กลายเป็นมืออาชีพ ปัจจุบันโรงเรียนพระดาบส มีหลักสูตรช่าง 7 หลักสูตร ที่เปิดสอนสำหรับศิษย์พระดาบส (ชาย) ให้มีโอกาสเลือกเรียนในสาขาที่ตนมีความสนใจและความถนัดภายหลังจากจบการฝึกพื้นฐานช่างเรียบร้อยแล้ว ได้แก่

  • หลักสูตรวิชาชีพช่างยนต์
  • หลักสูตรวิชาชีพช่างไฟฟ้า
  • หลักสูตรวิชาชีพช่างอิเล็กทรอนิกส์
  • หลักสูตรวิชาชีพช่างซ่อมบำรุง
  • หลักสูตรวิชาชีพการเกษตรพอเพียง
  • หลักสูตรวิชาชีพช่างไม้เครื่องเรือน
  • หลักสูตรวิชาชีพช่างเชื่อม                                                                                  

นอกจากนี้ยังได้เปิดหลักสูตรเคหบริบาล สำหรับศิษย์พระดาบส (หญิง) เรียนรู้การดูแลสุขภาพพื้นฐานเพื่อดูแลผู้สูงอายุและเด็กหรืองานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และยังได้ร่วมกับกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข เปิดสอนระยะสั้นแก่บุคคลทั่วไปในหลักสูตรการนวดเพื่อสุขภาพและหลักสูตรต่อยอดผู้ช่วยแพทย์แผนไทย อีกด้วย

สำหรับผู้สนใจ อยากมีส่วนร่วมสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับน้องๆ สามารถติดต่อมูลนิธิพระดาบสโทรศัพท์ 02-282-7000 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.phradabos.or.th

HTML::image(