บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนเข้าซื้อกองทุนเปิดเค ซูเปอร์สตาร์ เพื่อการออมพิเศษ (K-SUPSTAR-SSFX) ให้เต็มสิทธิก่อนสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ปลื้มกองทุนมีเสียงตอบรับดี ขึ้นแท่นกองทุนขนาดใหญ่อันดับ 1 ในประเภท SSFX ย้ำให้ผู้ลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพตลาดหุ้นไทย เพราะยังคงมีความน่าสนใจในระยะยาว
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมาที่บริษัทได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ซูเปอร์สตาร์ เพื่อการออมพิเศษ (K-SUPSTAR-SSFX) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากลูกค้าผู้ลงทุนเป็นอย่างดีจนทำให้กองทุน K SUPERSTAR SSFX ขึ้นแท่นกองทุนที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในประเภทกองทุนเพื่อการออมพิเศษ ด้วยมูลค่า 1.25 พันล้านบาท จากมูลค่ารวมทั้งอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ 6.65 พันล้านบาท (ข้อมูล Morningstar ณ วันที่ 26 มิ.ย. 63) ทั้งนี้ ในช่วงโค้งสุดท้ายที่ผู้ลงทุนจะสามารถลงทุนในกองทุน K SUPERSTAR SSFX ซึ่งเปิดขายถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้เท่านั้น จึงอยากแนะนำให้ผู้ที่ยังลงทุนไม่เต็มสิทธิ รีบคว้าโอกาสนี้เพื่อรับสิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก 200,000 บาท พร้อมรับโอกาสทำกำไรจากการเติบโตของตลาดหุ้นไทยในระยะยาว
นายวศินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K SUPERSTAR SSFX มีนโยบายที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 65% ของพอร์ต ผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการแบบ Tactical Trading ที่ผู้จัดการกองทุนจะคอยจับจังหวะซื้อขายหุ้นเพื่อทำกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองว่าการลงทุนหุ้นไทยในเวลานี้ถือเป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าลงทุน เนื่องจากระดับราคาหุ้นยังมีความผันผวน ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และการอัดฉีดเงินของธนาคารกลางเข้าสู่ระบบทั่วโลก จึงทำให้เกิดสภาพคล่องสูง ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยยังคงมีความน่าสนใจในระยะยาว โดยหากอ้างอิงจากสถิติย้อนหลัง 10 ปี จะเห็นได้ว่าดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI) มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 9.16% ต่อปี ดังนั้น ผู้ลงทุนจึงสามารถเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ้นไทยได้ว่าระยะเวลาการลงทุนที่ยาวนานเพียงพอ จะสามารถเพิ่มโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีได้ นอกจากนี้ ในระหว่างการถือครองหน่วยลงทุนเป็นเวลา 10 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนด คาดว่ากองทุน K SUPERSTAR SSFX มีโอกาสสร้างผลตอบแทนในรูปของเงินปันผล และจ่ายปันผลตามนโยบายปีละไม่เกิน 4 ครั้ง
“ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทยลง และทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก็ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจโลกลงรวมถึงไทยด้วยนอกจากนี้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ได้ส่งผลกดดันตลาดขึ้นอีกรอบ อย่างไรก็ดี ผู้ลงทุนยังมีความหวังต่อการพัฒนาวัคซีน ซึ่งจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยยังคงคาดการณ์เป้าหมาย SET Index ในปีนี้ที่ระดับ 1350 จุด และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นแตะระดับ 1400 จุด หากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น” นายวศินกล่าว
นายวศินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K SUPERSTAR SSFX ได้ใช้รูปแบบการบริหารจัดการแบบเดียวกับกองทุน K-STAR-A(R) ซึ่งทำผลงานได้โดดเด่นติดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar ในประเภท Overall Rating (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 63) ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถวางใจได้ว่าเงินลงทุนจะได้รับการดูแลอย่างดีจากทีมผู้จัดการกองทุนหุ้นไทยที่มีศักยภาพสูง การันตีด้วยรางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทการลงทุนหุ้นไทย (Best Fund House - Domestic Equity) จาก Morningstar Awards 2020 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการกองทุนหุ้นไทย ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอ และสามารถเอาชนะตลาดในระยะยาวได้
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K SUPERSTAR SSFX สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่านแอป K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางดังกล่าว ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป บลจ.กสิกรไทย ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเมื่อลงทุนในกองทุน K SUPERSTAR SSFX ครบทุก 50,000 บาท รับ Cash Back 100 บาท (สูงสุด 400 บาท/ท่าน) เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาข้อมูลภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit