องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หรือ (อพวช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กลับมาเปิดให้บริการทุกพิพิธภัณฑ์ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ และพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ตามปกติอีกครั้ง โดยเปิดให้บริการทุกวันอังคาร – ศุกร์ เวลา 09.30 -16.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.30 -17.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม 2563 เป็นต้นไป แต่ยังคงมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมจำกัดจำนวนผู้เข้าชม พร้อมโชว์ หอยทากจิ๋วลายตาข่าย และหอยทากจิ๋วเมืองออน ซึ่งเป็นหอยทากจิ๋ว 2 ชนิดใหม่ที่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยของ อพวช. จัดแสดงไว้ในถ้ำจำลองที่มีลักษณะโครงสร้างเหมือนสถานที่พบจริง ณ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ดีขึ้นตามลำดับ อพวช. จึงกลับมาเปิดให้บริการทุกพิพิธภัณฑ์อีกครั้งในเดือนมิถุนายน เฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ ตลอดระยะเวลาทดลองกลับมาเปิดให้บริการมีผู้เข้าชมให้การตอบรับจองเข้าชมเป็นจำนวนมาก แต่อยู่ในปริมาณที่กำหนดวันละประมาณ 3,000 คนต่อวัน อีกทั้งผู้เข้าชมให้ความร่วมมือในการเข้าชมแบบ New Normal เป็นผลทำให้ในเดือนกรกฎาคม อพวช. ตัดสินใจกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ และเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมอีก 1 เท่าตัว แต่ยังคงเน้นมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเช่นเดิม ซึ่งขอความร่วมมือผู้สนใจจองเข้าชมผ่านทางเว็บไซต์ www.nsm.or.th ล่วงหน้า
ทั้งนี้ อพวช. ได้ปรับปรุงพื้นที่ให้บริการใหม่ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึกไว้บริการ ที่สำคัญคือ ยังพัฒนาชุดนิทรรศการและกิจกรรมใหม่ล่าสุด ออกมารองรับการเปิดให้บริการในครั้งนี้ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ กับนิทรรศการอุโมงค์พลังงาน เป็นนิทรรศการปรับปรุงใหม่ให้มีความทันสมัย สนุกสนาน นำเสนอรูปแบบพลังงานทั้งมวลบนโลกใบนี้ตั้งแต่พลังงานจากดวงอาทิตย์ พลังงานที่ทดแทนไม่ได้ พลังงานใต้พิภพและพลังงานทดแทนได้ และ “Traditional Thai Toy” Gallery : ของเล่น ภูมิปัญญาไทย” แบ่งการจัดแสดงของเล่นตามประเภทการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 10 ประเภท อาทิ ประเภทลูกข่าง ความเฉื่อย สปริง ประเภทเสียง แรงและการเคลื่อนที่ เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา นิทรรศการ “เลื้อย-คลาน…เล่าขานทุ่งรังสิต” ซึ่งเป็นนิทรรศการที่นำบางส่วนของผลการวิจัยในโครงการ “ความหลากชนิดของสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในพื้นที่ทุ่งหลวงรังสิต” มาจัดแสดงเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักรู้ถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศของ ทุ่งหลวงรังสิต ซึ่งส่งผลกระทบความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย และนิทรรศการ “Land Snail & Land Slug” นิทรรศการที่จัดแสดงความหลากหลายทางชีวภาพของหอยทากบกและทากบกที่พบในประเทศไทย พร้อมโชว์ หอยทากจิ๋วลายตาข่าย และหอยทากจิ๋วเมืองออน ซึ่งเป็นหอยทากจิ๋ว 2 ชนิดใหม่ที่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยของ อพวช. เมื่อต้นปีที่ผ่านมา (ม.ค. 2563) ซึ่งจัดแสดงไว้ในถ้ำจำลองที่มีลักษณะโครงสร้างเหมือนสถานที่พบจริง
พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ กับการเปิด Innovation studio เรียนรู้การ Unplugged Coding กับกิจกรรมชุด Kids Can Code ฝึกเรียนรู้การฝึกทักษะ Coding เบื้องต้น พร้อมสนุกไปกับการทำภารกิจผ่านการสร้างสรรค์ผลงานจากจินตนาการ ทดลองควบคุมหุ่นยนต์ด้วยอุปกรณ์ไร้สาย และเปิดโลกเทคโนโลยีผ่านนิทรรศการ NSM Studio ที่จะเปิดโอกาสให้น้อง ๆ ได้เรียนรู้กระบวนการการผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์ด้วยการทดลองและสัมผัสกับอุปกรณ์จริงอย่างเข้าใจและสนุกสนาน
พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า กับกิจกรรม “The Museum’s World Extreme” ตามหาตัวอย่างชิ้นงาน 9 สิ่งที่ถูกบันทึกว่าเป็นที่สุดในโลก ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เช่น บอกชื่อแบคทีเรียที่อยู่ได้ที่อุณหภูมิสูงถึง 121 องศาเซลเซีลส ใต้มหาสมุทรแปซิฟิก, เท้าไดโนเสาร์ชนิดใดมีน้ำหนักและความยาวมากที่สุดที่เคยพบมาบนโลก, บอกชื่อดอกไม้ยักษ์สีแดงที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งพบได้ทางใต้ของประเทศไทย เป็นต้น กิจกรรม “Plant scavenger at RAMA 9 Museum, NSM” ตามหาพันธุ์พืชในป่าไทยเป็นการสำรวจสวนป่า ส่วนจัดแสดงนิทรรศการป่าในประเทศไทยด้านในอาคารพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เพื่อรู้จักพืชแต่ละชนิดอยู่ในป่าประเภทใดบ้าง “Museum trail” 3 ตอนใหม่ คือ 1. ชีวาพึ่งพาน้ำ 2.อาชีพสร้างสรรค์ จุดประกายความรู้ 3. พืชเพื่อชีวิต ที่จะช่วยให้เข้าใจซึมซับเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ในพิพิธภัณฑ์ผ่านการสำรวจอย่างสร้างสรรค์ พิเศษสุดกับการเปิดตัว Science show การแสดงทางวิทยาศาสตร์ตอนใหม่ชุด "การปรับตัวเพื่ออยู่รอด" เพื่อช่วยให้เข้าใจการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตบนโลกของเรา
ผศ.ดร.รวินฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ในการกลับมาเปิดให้บริการตามปกติครั้งนี้ อพวช. มอบส่วนลดพิเศษ 50% สำหรับค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์พระรามเก้าเป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนและส่งเสริมการเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์กับ อพวช. และขอเชิญชวนผู้ที่กำลังมองหากิจกรรมในช่วงวันหยุดต่อเนื่องในเดือนกรกฎาคม สามารถมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ทั้ง 4 แห่งของ อพวช. โดยจองเข้าชมออนไลน์ล่วงหน้าได้ที่ http://booking.nsm.or.th หรือสแกนคิวอาร์โค้ดด้านล่าง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 577 9999 ต่อ 2122 ,2123
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit