เนื่องในศุภมงคลสมัย ๑๕๐ ปี แห่งการพระราชทานสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร คณะวัดราชบพิธสถิตมหารสีมาราม ประกอบด้วยคณะสงฆ์ นำโดย เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชน ตลอดจนหน่วยงานภาคี เช่น โรงเรียนวัดราชบพิธ ราชบพิธสมาคม และองค์กรภาครัฐภาคเอกชน ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน และประชาชนทั่วไปร่วมแต่งกายผ้าไทยเข้าร่วมงานสมโภช "ศุภมงคลสมัย ๑๕๐ ปีแห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย โดยเปิดให้ประชาชนร่วมงานได้ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มกราคม - ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ณ เขตพุทธาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดรับการบำเพ็ญพระกุศลสมโภชพระอาราม ในวันอังคารที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๒ และวันพุธที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๓ ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จแทนพระองค์ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลฉลองพระอาราม ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในวันพุธ ที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๓
เจ้าประคุณ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงานสมโภชพระอาราม ได้กล่าวถึงรายละเอียดที่น่าสนใจในการจัดงานว่า "เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองวาระสำคัญ ๑๕๐ ปี แห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เผยแพร่ประวัติความเป็นมาและศิลปกรรมอันงดงามวิจิตรภายในวัดซึ่งล้วนเป็นศิลปกรรมชั้นเอก มีความประณีตงดงาม ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติของพระอารามหลวงแห่งนี้ อีกทั้งพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ที่มีกับวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ตลอดจนเผยแพร่เกียรติคุณเจ้าอาวาสในทุกยุคให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน ข้อมูลเหล่านี้ ล้วนเป็นประโยชน์แก่นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ถือเป็นโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้ตระหนักถึงคุณค่าทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ และความเป็นไทยของวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม อันแฝงอยู่ในสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในวัด เพื่อสืบทอดคุณค่าความเป็นไทย และเกิดความภาคภูมิใจในมรดกทางศิลปวัฒนธรรมไทย ตลอดจนเป็นโอกาสอันดีที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะได้รู้จักวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามมากขึ้น นำไปสู่การเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในสายตาของชาวต่างประเทศ สามารถนำชื่อเสียงเกียรติคุณของประเทศไทย
ดังนั้นคณะวัดราชบพิธสถิตมหารสีมาราม จึงมีมติจัดงานสมโภช "ศุภมงคลสมัย ๑๕๐ ปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" โดยภายในงานมีกิจกรรมที่สนใจประกอบด้วย
ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน และประชาชนทั่วไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเฉลิมฉลองวาระอันสำคัญยิ่ง โดยเชิญชวนร่วมแต่งกายผ้าไทยเข้าร่วมงานสมโภชพระอาราม เนื่องใน "ศุภมงคลสมัย ๑๕๐ ปีแห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" สามารถเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการได้ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มกราคม เป็นต้นไป - วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ศกนี้ ติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงานได้ทางเฟซบุ๊กเพจ สมโภช 150 ปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
เกี่ยวกับวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่ที่แขวงวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ใกล้ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้านตะวันออกจดถนนเฟื่องนคร ด้านตะวันตกจดถนนอัษฎางค์ ด้านเหนือจดถนนราชบพิธ และด้านใต้จดคลองหลอด ย้อนไปเมื่อพุทธศักราช ๒๕๑๒ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชศรัทธาสถาปนาไว้เป็นพระอารามประจำรัชกาลของพระองค์ เป็นวัดที่ ๑ ในรัชกาลที่ ๕ ก่อพระฤกษ์เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๔๑๒ โดยมีพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร ทรงเป็นเจ้าอาวาสยุคที่ ๑ในครั้งอดีต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างถาวรวัตถุสถานสำหรับพระอารามอย่างงดงามวิจิตรด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมชั้นเอก ทรงเอาพระราชหฤทัยใส่ในการสร้างและทำนุบำรุงในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะในเขตพุทธาวาส ซึ่งมีไพทียกพื้นขึ้นเป็นสัดส่วน มีอาคารสำคัญประกอบไปด้วยพระอุโบสถ พระเจดีย์ พระวิหาร พระวิหารทิศ พระวิหารคด และศาลาราย ซึ่งล้วนแล้วด้วยกระเบื้องเบญจรงค์ประดับเป็นเอกลักษณ์จำเพาะพระอาราม นอกไพทียังมีพลับพลา ศาลา ตึก และกำแพงพร้อมเสาสีมา เป็นสิ่งปลูกสร้างอันงดงามลงตัวอยู่โดยรอบ บ้างก็ได้รับพระราชทานสถาปนาขึ้นในรัชกาลที่ ๕ บ้างก็ได้รับพระราชทานสถาปนาขึ้นในรัชกาลต่อๆ มาตราบจนถึงรัชกาลปัจจุบัน ด้วยอำนาจแห่งพระราชศรัทธาและพระมหากรุณาเป็นปฐมเหตุครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคตแล้ว วัดราชบพิธยังคงได้รับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์จากพระมหากษัตริย์ทุกรัชกาล กล่าวคือ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงทำนุบำรุงพระอารามอย่างยิ่งโดยเฉพาะในเขตสังฆาวาส เพื่อถวายเป็นเครื่องสนองพระคุณแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า เจ้าอาวาสยุคที่ ๒ ซึ่งเป็นพระราชกรรมวาจาจารย์เมื่อพระองค์ทรงผนวช ทรงพระราชศรัทธาเลื่อมใสและพระราชทานกัปปิยภัณฑ์บำรุงเสนาสนะและพระภิกษุสามเณรมิได้ขาด ครั้นถึงรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงซ่อมแซมพระอารามครั้งใหญ่ แทนการสร้างวัดประจำรัชกาล จึงนับได้ว่าพระอารามนี้เป็น พระอารามประจำรัชกาลที่ ๕ และอนุโลมเป็นพระอารามประจำรัชกาลที่ ๗ ด้วย ดังมีพระบรมอัฐิส่วนหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมราชสรีรางคารของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระราชสรีรางคารของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ บรรจุที่ใต้ฐานพุทธบัลลังก์พระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถอยู่เป็นสำคัญ ตราบถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทรแม้เป็นชั่วระยะสมัยสั้นๆ แต่ก็ยังทรงพระราชศรัทธาเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอมาทรงเยี่ยมพระอาราม เมื่อถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์อย่างยิ่งยวด ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ มาทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินและทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวารโอกาสต่างๆ เป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยแห่งเจ้าอาวาสยุคที่ ๔ คือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ วัดราชบพิธเป็นวัดที่มีศิลปกรรมชั้นเอกซึ่งประณีตงดงามเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ดังนั้นย่อมต้องได้รับการทำนุบำรุงปรับปรุงซ่อมแซมอยู่เสมอ แต่กระนั้นก็มิใช่การง่ายนัก ด้วยการจะธำรงรักษามรดกศิลปกรรม อันงามวิเศษเช่นนี้ ย่อมต้องใช้ทุนทรัพย์มหาศาล และอาศัยความชำนาญเชิงช่างเฉพาะทางอย่างชั้นสูง แม้พระอารามจะได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่เมื่อวาระ ๑๐๐ ปีแห่งการสถาปนา ในพุทธศักราช ๒๕๑๓ และในพุทธศักราช ๒๕๒๔ เนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี แต่กาลเวลาก็ยังให้เกิดสภาพชำรุดทรุดโทรมเกิดขึ้นเป็นลำดับ โดยพุทธศักราช ๒๕๕๘ ทางวัดได้ริเริ่มโครงการบูรณปฏิสังขรณ์พระอาราม โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงรับเป็นประธานกิตติมศักดิ์โครงการทันวารกาล ๑๕๐ ปี แห่งการสถาปนาวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในปีพุทธศักราช ๒๕๖๓
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit