บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ผู้ดำเนินธุรกิจการลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจการเงินและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ ที่ตอบโจทย์บริการทางการเงินในรูปแบบ Non-Bank ครบวงจร โดยล่าสุดได้มีการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านทางบริษัทย่อยบริษัท ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) โดยถือหุ้น 60% ในบริษัทร่วมทุน บริษัท แอสไพเรชั่น วัน จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารภายใต้โครงการอาคารสำนักงานให้เช่า Spring Tower มูลค่ารวม 2,500 ล้านบาท
คุณนลินี งามเศรษฐมาศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA เปิดเผยถึง แผนขยายการลงทุนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ในฐานะ Holding Company ว่า ภาพรวมธุรกิจของ AIRA Group หลังจากนี้ต่อไป ในอีก 3 ปีข้างหน้า (2563-2565) จะเริ่มเห็นภาพรวมการเติบโตที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของแต่ละธุรกิจที่ได้เข้าไปลงทุนในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันธุรกิจในเครือหลายบริษัท ที่สร้างผลกำไรให้กับ AIRA Group อาทิ เช่น 1.ธุรกิจลีสซิ่ง ซึ่งเป็นการให้บริการสินเชื่อแบบเช่าซื้อ สัญญาเช่าดำเนินงานและอื่นๆ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ไอร่า ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) 2. ธุรกิจแฟคตอริ่ง หรือการโอนและรับโอนสิทธิเรียกร้องภายในประเทศ (Domestic Factoring) บริษัทเป็นผู้ให้บริการเงินทุนหมุนเวียนระยะสั้นโดยการรับซื้อลดลูกหนี้การค้าโดยการรับโอนสิทธิเรียกร้องในการรับเงิน ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัท ไอร่า แฟคตอริ่ง จำกัด (มหาชน) 3.ธุรกิจหลักทรัพย์และที่ปรึกษาการเงิน ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไอร่า แอดไวเซอรี่ จำกัด
ส่วนธุรกิจอื่นๆนั้น บริษัทฯคาดว่าจะสามารถทยอยสร้างผลกำไรให้กับ AIRA Group ได้ในอนาคต อาทิ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้บริษัทย่อย บริษัท ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือหุ้น 60% ในบริษัทร่วมทุน บริษัท แอสไพเรชั่น วัน จำกัด ที่เป็นผู้บริหารจัดการโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า Spring Tower
สำหรับโครงการอาคารสำนักงานให้เช่า Spring Tower บนพื้นที่ทั้งหมด 2 ไร่ 3 งาน 97 ตารางวา เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าเกรด A สูง 27 ชั้น โดยชั้น 9 -27 เป็นโครงการอาคารสำนักงานที่รองรับการขยายตัวของบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ดังนั้น ด้วยด้วยทำเลย่านราชเทวี ซึ่งเป็นบริเวณย่านธุรกิจการลงทุนอยู่แล้ว จึงมีศักยภาพที่จะเติบโตเป็น Central Business Area ในอนาคต เชื่อว่าความต้องการของผู้เช่ายังคงมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่มาของการลงทุนในครั้งนี้ โดยล่าสุด Spring Tower มียอดการเช่าไปแล้วกว่า 60% และจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากค่าเช่าตั้งแต่ไตรมาส1/2563 เป็นต้นไป โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมียอดรายได้จากค่าเช่าเข้ามา เฉลี่ยประมาณ 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพผลตอบแทนจากการลงทุนที่เข้ามาต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับ AIRA Group
นอกจากนี้ AIRA Group ยังมีแผนในการต่อยอดเพื่อพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่า เพิ่มอีกอย่างน้อย 2 โครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาในการเลือกทำเลที่มีศักยภาพ โดยว่าทุกโครงการที่พัฒนาการลงทุน จะต้องสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่จะนำสินทรัพย์ จากโครงการ Office Building จัดตั้งเป็นกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT)ในอนาคต
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แคปปิตอล ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตลอดระยะเวลานับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ AIRA Group มีการลงทุนต่อเนื่องตามแผนที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่วันแรก แต่การลงทุนของบริษัทฯนั้น จะต้องใช้ระยะเวลาในการผลิดอกออกผล มิใช่แค่หว่านเมล็ดลงไปแล้วจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ทันที เช่นเดียวกับผลการดำเนินงานของ Group ที่จะต้องรอเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ทยอยออกมาในอนาคตเช่นเดียวกัน เพราะรูปแบบของ Holding Company คือบริษัทเพื่อการลงทุน และรอผลตอบแทนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่ง AIRA Group มีการศึกษาแผนมาอย่างดีก่อนจะลงทุนในทุกธุรกิจ และการลงทุนต้องใช้ระยะเวลาเติบโตจึงไม่สามารถสะท้อนผลกำไรออกมาได้ภายในระยะเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ จากความเชื่อมั่นของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่ต่างก็เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศนั้นๆ ที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจผ่านการร่วมลงทุนในแต่ละธุรกิจ กับ AIRA อาทิ บริษัท AIFUL Corporation ประเทศญี่ปุ่น ที่เข้ามาลงทุนร่วม ภายใต้ บริษัท AIRA & AIFUL Public Company Limited , บริษัท Eugene Investment &Securities ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทการเงินและวัสดุก่อสร้างชั้นนำจากประเทศเกาหลี และKenedix Asia Private Limited บริษัทจัดการกองทุนและบริหารสินทรัพย์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ที่เข้ามาร่วมลงทุนในบริษัท ไอร่า พร็อพเพอร์ตี้ หรือแม้แต่ Travelex ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ จากอังกฤษ ที่ดำเนินธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นต้น
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การที่บริษัทจากทั้งในและต่างประเทศต่างเข้ามาร่วมลงทุน เป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพและการดำเนินธุรกิจอย่างมีบรรษัทภิบาลของ AIRA Group ซึ่งจากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ AIRA มีแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่ง ยิ่งเป็นการการันตีศักยภาพสถานะทางการเงินของบริษัทฯได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงอยากจะฝากไปยังกลุ่มนักลงทุนว่า AIRA เป็นบริษัทฯที่มีสภาพคล่องทางการเงินสูง สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างคุ้มค่าเช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนอื่นๆในตลาดหลักทรัพย์
" ส่วนแผนความคืบหน้า ในการนำบริษัทในเครือ 2 บริษัทอย่าง บริษัท ไอร่า ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการสินเชื่อแบบเช่าซื้อ สัญญาเช่าดำเนินงานและผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ โดยปัจจุบันบริษัทมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างผลกำไรให้กับกลุ่มบริษัท และบริษัท ไอร่า แอนด์ ไอฟุล จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อส่วนบุคคล โดยตั้งเป้าที่จะนำทั้ง 2 บริษัทลูกเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และคาดว่าจะเริ่มมีความชัดเจนในเร็วๆนี้ ซึ่งหากทั้ง 2 บริษัทดังกล่าวสามารถระดมทุนแล้วเสร็จ จะส่งผลให้กลุ่ม AIRA Group มีอัตราการเติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ " ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไอร่า แคปปิตอล กล่าวทิ้งท้าย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit