ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนในมหาวิทยาลัยให้สามารถก้าวไปเป็นสตาร์ทอัพ เพื่อเป็นนักรบทางเศรษฐกิจใหม่ที่จะนำประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยีของโลก เพราะ "Youth" is a "Future Changer" จึงมอบหมายให้ NIA ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบในการส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพมาอย่างต่อเนื่อง จัดตั้ง "กองทุนยุวสตาร์ทอัพ" เพื่อให้การสนับสนุนเยาวชนในการพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ตลอดจนเป็นเวทีแสดงความสามารถของคนรุ่นใหม่ เช่นYouth Ted Talk, Youth Policy Pitching และ Meet CEOs"
กองทุนยุวสตาร์ทอัพ เป็นการผสมผสานการทำงานระหว่าง NIA ร่วมกันกับกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้นักศึกษา อาจารย์ นักวิจัย และผู้ประกอบการที่อยู่ในเครือข่ายมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาสามารถต่อยอดแนวคิดพัฒนาสู่การเป็นสตาร์ทอัพที่สร้างมูลค่าสูงให้กับประเทศ ผลักดันมหาวิทยาลัยไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยผู้ประกอบการ รวมไปถึงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งในกับระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพทั้งในมิติพี่เลี้ยง ที่ปรึกษา นักลงทุน ความร่วมมือจากศิษย์เก่า กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มการค้าในพื้นที่ ฯลฯ โดยจะประกอบไปด้วย
1) การพัฒนา บ่มเพาะ การประกวดแข่งขันการนำเสนอแผนธุรกิจของนักศึกษาระดับประเทศ และการสร้างเครือข่ายพันธมิตรร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้โครงการStartup Thailand League และ 2) เงินอุดหนุนสมทบบางส่วนแบบให้เปล่า ซึ่งแบ่งเป็น 3 โปรแกรม คือ 1) INCUBATORS INCENTIVE PROGRAM ทุนให้เปล่าทุนไม่เกินร้อยละ 90 ของมูลค่าโครงการ รายละไม่เกิน 1,500,000 บาท เพื่อช่วยเหลือและให้คำปรึกษาในการจัดตั้งบริษัทและพัฒนาต้นแบบ ซึ่งเป็นการให้ทุนเพื่อพัฒนาแนวคิดใหม่ทั้งด้านเทคโนโลยีและการทำธุรกิจผ่านศูนย์บ่มเพาะที่รับได้รับการรับรองจาก NIA 2) UNIVERSITY SEED GRANT PROGRAM ทุนให้เปล่าไม่เกินร้อยละ 85 ของมูลค่าโครงการ รายละไม่เกิน 700,000 บาท เพื่อพัฒนาต้นแบบ ซึ่งเป็นการพิสูจน์ความคิดใหม่ทั้งด้านเทคโนโลยีและด้านการทำธุรกิจ (Prove of Concept Idea, POC) และ 3) INNOVATION LABS PROGRAM ทุนให้เปล่าไม่เกินร้อยละ 85 ของมูลค่าโครงการ รายละไม่เกิน 500,000 บาท เพื่อนำไปซื้อบริการด้านการทดสอบจากห้องวิจัยของมหาวิทยาลัย/สถาบันวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชน
สำหรับผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมกองทุนยุวสตาร์ทอัพจะต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในประเทศไทยที่มีนิสิตนักศึกษาปัจจุบันในระดับตรี โท หรือ เอก จากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา หรือบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาไม่เกิน 2 ปี เป็นผู้ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 30 และเป็นผู้มีอำนาจลงนาม นอกจากนี้ ยังรวมถึงสตาร์ทอัพระดับอุดมศึกษาที่เคยผ่านการอยู่ภายใต้การบ่มเพาะทางธุรกิจของเครือข่ายร่วมพัฒนาผู้ประกอบการ สนใจข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 017 5555 ต่อ 410 หรืออีเมล์ [email protected]