นายกตุ้ย เล่าว่า " ตัวอย่างกิจกรรมที่เราจัดแล้วประสบความสำเร็จก็คืองาน บางแสน21ฮาล์ฟมาราธอน งานวิ่งที่ใหญ่ที่สุดงานแรกของประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน ที่ได้รับรองรางวัลมาตรฐานงานวิ่งระดับโลก ไอเอเอเอฟ ซิลเวอร์ เลเบล โรดเรซ ซึ่งสหพันธ์กรีฑานานาชาติ(ไอเอเอเอฟ) มอบให้ โดยรางวัลนี้ไม่ได้จะได้มาง่ายๆ ต้องมีการจัดงานมาอย่างต่อเนื่อง 3 ปีก่อนถึงจะขอได้ให้เขามาพิจารณาให้ ซึ่งในปีแรกมีคนมาสมัครเพียง 800 คน แต่เราไม่ยอมแพ้ ก็ทำการโหมประชาสัมพันธ์ออกไปเพิ่มจนมีผู้เข้าร่วมวิ่งในปีนั้นกว่า 3,000 คน แต่ในปีนี้มีผู้ร่วมวิ่งทั้งหมด 12,000 คน จากการคัดเลือกจากผู้สมัครทั้งหมด ซึ่งกิจกรรมนี้ถือเป็นการสร้างแบรนด์โดยใช้หลักการการตลาดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักกีฬาวิ่งเข้ามา ด้วยการสร้างมารตรฐานให้เป็นที่ยอมรับ การที่เคยเห็นชีวิตพ่อในการทำงานเพื่อสวนรวม ซึ่งท่านอยากที่จะพัฒนาบ้านเมืองเพื่อทุกคนแต่วิธีการในบางครั้งของท่านอาจจะผิด ซึ่งเราก็ต้องยอมรับ เลยทำให้ผมเรียนรู้เป็นบทเรียนและจะไม่ทำตาม ทุกวันนี้หลักการที่ผมใช้ในการบริหารงานก็จะต้องเริ่มมาจาก การเห็นปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นแล้วตระหนักว่าควรได้รับการปรับปรุงแก้ไข จากนั้นก็เป็นส่วนของการจัดสรรคงบประมาณตามลำดับความสำคัญ โดยคำนึงถึงเสมอว่างบประมาณเหล่านั้นมาจากภาษีดังนั้นต้องทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่างปัญหาทำไมประชาชนในบางแสนทำไมป่วยเป็นมะเร็งมากขึ้น ผมก็ไปปรึกษาแพทย์หาสาเหตุ พบว่าสาเหตุหนึ่งมาจากการที่ประชาชนบริโภคอาหารในกล่องโฟม ถุงพลาสติกเป็นจำนวนมาก แล้วจึงหาแนวทางแก้ไข กำหนดให้เกิดนโยบายหาดบางแสนห้ามใช้กล่องโฟม 100 % เพื่อแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุและได้ผลพลอได้คือความสะอาด"
ติดตามชมเรื่องราวทั้งหมดนี้ได้ในรายการ "Perspective" ในคืนวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม 2563 เวลา 22.00 น.ทางช่อง 9 MCOT HD และ Facebook Live : PerspectiveTV
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit