Moet Hennessy ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ จะทำงานร่วมกับ Sacha Lichine ประธาน Chateau d'Esclans ซึ่งจะรับผิดชอบดูแลการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงแผนพัฒนาในอนาคต หลังเป็นพันธมิตรระยะยาวกับ Moet Hennessy
Alix AM PTE Limited ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ของ Sacha Lichine มาตั้งแต่ปี 2551 ได้ยกหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่ 50% ให้กับ Moet Hennessy ขณะที่ Sacha Lichine ก็ได้สละหุ้น 5% ของทั้งหมดที่ถืออยู่ให้บริษัทด้วย โดย Chateau d'Esclans มีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ใจกลางดินแดน Vars อันเป็นสถานที่วิเศษกลางหุบเขา Esclans ในเขต La Motte ซึ่งเป็นที่ตั้งของตัวปราสาทดั้งเดิมที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานจนสามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงก่อนศตวรรษที่ 12 ส่วนปราสาทที่เห็นกันทุกวันนี้เป็นหลังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการออกแบบ Tuscan Villa ที่สร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันปราสาทกินอาณาบริเวณรวม 267 เฮกตาร์ โดยแบ่งพื้นที่ 74 เฮกตาร์ออกเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตไวน์ AOP Cotes de Provence คุณภาพเยี่ยม และในเร็วๆ นี้จะมีการขยายพื้นที่ไร่องุ่นเพิ่มอีก 60 เฮกตาร์เพื่อผลิตไวน์คุณภาพเดียวกัน
Sacha Lichine ซื้อกิจการผลิตไวน์ Chateau d'Esclans มาเมื่อปี 2549 และได้เข้าไปสร้างอิทธิพลในอุตสาหกรรมการผลิตไวน์โรเซ่ระดับไฮเอนด์ของโลก ด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงานปลูกองุ่นที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของการผลิตไวน์โรเซ่ Cotes-de-Provence คุณภาพอันดับหนึ่ง จนทำให้ Sacha Lichine ประสบความสำเร็จในการสร้างผลิตภัณฑ์ลักชัวรีส่งออกขายทั่วโลก จากวัตถุดิบองุ่นสายพันธุ์ Grenache และ Vermentino ซึ่งล้วนปลูกในสถานที่แห่งนี้ บนผืนดินแหล่งผลิตไวน์ที่ไร้คู่แข่งทั้งในด้านความซับซ้อนและความเชี่ยวชาญ ส่วนประกอบไวน์โรเซ่เหล่านี้ล้วนผ่านการหมักด้วยกรรมวิธีเดียวกันจนได้ไวน์ชั้นเลิศในถังไม้โอ๊ค demi-muid (ความจุ 500 ลิตร)
ผลลัพธ์จากความใส่ใจเรื่องคุณภาพ ส่งผลให้ไวน์โรเซ่และฝ่ายผลิตไวน์ของ Chateau d'Esclans เป็นที่ยอมรับจากการอ้างอิงในระดับนานาชาติและพิชิตตำแหน่งแนวหน้าในตลาดไวน์ของสหรัฐ นอกเหนือไปจาก Garrus ไวน์โรเซ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก และ Whispering Angel ไวน์โรเซ่ฝรั่งเศสที่ขายดีที่สุดในสหรัฐแล้ว Sacha Lichine ยังเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญไวน์โรเซ่สไตล์โพรวองซ์ และได้รับการยอมรับด้วยรางวัลมากมาย
Sacha Lichine - ประธาน Chateau d'Esclans
"ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้จับมือกับ Moet Hennessy ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนา Chateau d'Esclans อย่างต่อเนื่องด้วยการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัทที่ยอดเยี่ยม อันที่จริงแล้ว เราจะเดินหน้าสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั่วโลกของเราด้วยไวน์โรเซ่สไตล์โพรวองซ์ชั้นเลิศ เมื่อผมซื้อ Chateau d'Esclans ในปี 2559 ผมตั้งเป้าที่จะผลิตไวน์โรเซ่ให้เป็นไวน์ที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นการผนึกกำลังร่วมกับทีมงาน Chateau d'Esclans จึงทำให้ผมสามารถสร้างพอร์ตแบรนด์ไวน์ที่มีชื่อเสียงในฝรั่งเศสและทั่วโลก และจากนี้ไปจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอีกหลายปีข้างหน้า"
Philippe Schaus – ซีอีโอ Moet Hennessy
"เรารู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Chateau d'Esclans สถานที่โด่งดังที่ใช้ผลิตไวน์โรเซ่คุณภาพสูงในภูมิภาคตอนใต้ของฝรั่งเศส ความจริงแล้ว Sacha Lichine ได้ปฏิวัติโลกแห่งไวน์โรเซ่สไตล์โพรวองซ์ และเป็นผู้นำในการพัฒนาแบรนด์ในระดับนานาชาติ รวมถึงแสดงให้เห็นวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมของชายผู้มีความเชื่อมั่นและค่านิยมที่เข้มแข็ง Moet Hennessy จะให้การสนับสนุนทีมงานของเราทั่วโลก เพื่อช่วยเหลือ Sacha Lichine ในเส้นทางที่สวยงามนี้ต่อไป"
เกี่ยวกับ Moet Hennessy
Moet Hennessy เป็นธุรกิจไวน์และสุราในเครือของ LVMH ซึ่งเป็นเครือสินค้าหรูหราชั้นแนวหน้าของโลก Moet Hennessy คือบริษัทไวน์และสุราระดับหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยเป็นเจ้าของแบรนด์หรูรวมกันถึง 21 แบรนด์ ที่ล้วนเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติในเรื่องของความรุ่มรวยของถิ่นกำเนิด คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และความเชี่ยวชาญที่หล่อหลอมผ่านการผลิตภายใต้แบรนด์ดังต่อไปนี้ Hennessy, Moet & Chandon, Veuve Clicquot, Dom Perignon, Ruinart, Krug, Mercier, Belvedere, Glenmorangie, Ardbeg, Chandon, Newton, Terrazas de los Andes, Cloudy Bay, Cape Mentelle, Numanthia, Ao Yun, Volcan De Mi Tierra, Woodinville Whiskey Company, Clos19 & Château du Galoupet.
นอกจากนี้ LVMH ยังเป็นเจ้าของ Chateau Cheval Blanc, Chateau d'Yquem, Le Clos des Lambrays, Cheval des Andes et Colgin Cellars ผ่านทาง "LVMH Vins d'Exceptions" ซึ่งเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงด้วย
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1034652/Moet_Hennessy_Logo.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1037586/Chateau_d_Esclans.jpg
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit