ก.เกษตรฯ แถลงความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนเรือตามประกาศกรมประมง ตั้งแต่วันที่ 2 ถึง 11 ธันวาคม 2562 ได้มีการขอใบรับรองแล้วในฝั่งอ่าวไทย 7,927 ราย และฝั่งอันดามัน 2,704 ราย รวมเป็นยอด ณ ขณะนี้ 10,631 ราย

12 Dec 2019
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มุ่งมั่นในการบริหารจัดการกองเรือประมงไทย ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการยกระดับการทำการประมงอย่างรับผิดชอบและถูกกฎหมาย เพื่อให้เกิดความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่องจนนำประเทศไทยไปสู่ใบเขียว จากสหภาพยุโรป เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2562 ที่ผ่านมานั้น ในช่วงแรกของการจัดการปฏิรูปกองเรือประมงไทย รัฐบาลได้มุ่งเน้นไปที่กองเรือประมงพาณิชย์หรือเรือประมงขนาดใหญ่ มาสู่รอบนี้ซึ่งเป็นการบริหารจัดการกองเรือขนาดเล็ก ซึ่งเป็นชาวประมงส่วนใหญ่ของประเทศ และหารายได้เลี้ยงชีพจากการทำการประมงอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลรับรู้ปัญหาของพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านตลอดมาเกี่ยวกับการเรียกร้องให้มีการเปิดให้จดทะเบียนเรือพื้นบ้าน ซึ่งมีอยู่มากกว่า 20,000 ลำ ในท้องที่จังหวัดชายทะเล รัฐบาลจึงประกาศให้มีการจดทะเบียนเรือพื้นบ้าน ทั้งที่มีทะเบียนเรือไทย และไม่มีทะเบียนเรือไทย ที่มีขนาดไม่ถึง 10 ตันกรอส นำเรือมาให้กรมเจ้าท่าตรวจสอบและทำเครื่องหมายที่แสดงอัตลักษณ์เรือ โดยยื่นคำขอ ณ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา ในพื้นที่จังหวัดชายทะเล ทั้ง 22 จังหวัด ภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2562

ด้าน นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีเรือที่มีทะเบียนเรืออยู่แล้ว เมื่อกรมเจ้าท่าตรวจวัดขนาดเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะทำการแก้ไขรายการในใบทะเบียนเรือและใบอนุญาตใช้เรือ หากมีขนาดสิบตันกรอสขึ้นไป ให้ทำการประมงพื้นบ้านได้จนกว่ากรมประมงจะเปิดให้มีการยื่นคำขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ รอบปีการประมง 2563 และในกรณีเรือที่ยังไม่มีทะเบียนเรือไทย เจ้าของเรือต้องมีหนังสือรับรองจากกรมประมง เพื่อประกอบการขอจดทะเบียนเรือไทยกับกรมเจ้าท่าภายหลังการตรวจวัดขนาด และจัดทำอัตลักษณ์เรือ

สำหรับการขอหนังสือรับรองจากกรมประมง มีหลักเกณฑ์และขั้นตอน ดังนี้

  • ช่วงเวลาในการยื่นคำขอ ตั้งแต่วันที่ 2 – 27 ธันวาคม 2562
  • สถานที่ยื่นคำขอ
  • ในกรุงเทพมหานคร ยื่น ณ สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมประมง
  • ในจังหวัดอื่น ยื่นได้ ณ สำนักงานประมงจังหวัด หรือสำนักงานประมงอำเภอท้องที่ติดทะเล ทั้ง 22 จังหวัด 100 อำเภอ

เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการยื่นคำขอ

1. แสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง

2. หนังสือมอบอำนาจ พร้อมแสดงบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงของผู้รับมอบอำนาจ พร้อมสำเนาบัตร ประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจ (กรณีที่มีการมอบอำนาจ)

3. หนังสือยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้ปกครอง (กรณีที่ผู้ขอยังไม่บรรลุนิติภาวะ)

4. ภาพถ่ายเรือประมงเต็มลำ ทั้งทางด้านซ้าย1รูปและด้านขวา1 รูป

หลักเกณฑ์ในการออกหนังสือรับรองเรือพื้นบ้าน ของกรมประมง

1. คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับหนังสือรับรองฯ

1) เป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย และมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี

2) ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 39 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

2. คุณสมบัติของเรือที่จะได้รับหนังสือรับรอง

1) เรือประมงจะต้องมีขนาดไม่ถึง 10 ตันกรอส

2) เป็นเรือที่ใช้ทำการประมง หรือทำการประมงและบรรทุกคนโดยสารเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์

3) เป็นเรือที่ไม่เคยถูกใช้ในการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการประมง

4) เป็นเรือที่ต้องไม่อยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยการประมง

3. หลักเกณฑ์ด้านการใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำ

1) มีความสอดคล้องกับขีดความสามารถในการทำการประมงและปริมาณผลิตผลสูงสุดของสัตว์น้ำที่สามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน

2) กรมประมงจะพิจารณาออกหนังสือรับรองให้จดทะเบียนเรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 1 คน ต่อ 1 ลำ

  • กรณีเรือที่ยังไม่มีทะเบียนเรือไทย และมีขนาดภายหลังการตรวจวัดขนาดและจัดทำอัตลักษณ์ของกรมเจ้าท่าแล้ว มีขนาดตั้งแต่สิบตันกรอสขึ้นไป ซึ่งจัดเป็นเรือประมงพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยการประมง เมื่อกรมประมงจะพิจารณาในการออกหนังสือรับรองอีกครั้งภายหลังได้รับข้อมูลการตรวจวัดขนาดเรือทั้งหมดจากกรมเจ้าท่า
  • และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของรัฐบาลในการเปิดให้จดทะเบียนเรือประมงแก่ชาวประมงพื้นบ้าน ในครั้งนี้กรมประมง ได้สั่งการให้ประมงจังหวัดบูรณาการในการทำงานกับหน่วยงานสังกัดกรมประมงในพื้นที่ อำนวยความสะดวกแก่ชาวประมงทั้งในพื้นที่ชายฝั่งทะเล เกาะแก่งต่าง ๆ ในทุกช่องทาง เพื่อให้เรือทุกลำได้รับการจดทะเบียนเบียนเรือเป็น 100 % ในทุกจังหวัด

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาสิทธิ์ของตนเอง ขอเน้นย้ำว่าให้พี่น้องชาวประมงที่เป็นเจ้าของเรือประมง พื้นบ้านทุกลำ ทั้งที่มีทะเบียนเรือและยังไม่มีทะเบียนเรือ ต้องไปแจ้งขอตรวจวัดขนาดและจัดทำอัตลักษณ์เรือต่อหน่วยงานกรมเจ้าท่าในท้องที่จังหวัดชายทะเล ภายในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ส่วนเรือที่ยังไม่มีทะเบียนเรือ ให้เจ้าของเรือหรือผู้รับมอบอำนาจ ยื่นขอหนังสือรับรองจากกรมประมง ณ สำนักงานประมงพื้นที่กรุงเทพมหานคร กรมประมง สำนักงานประมงอำเภอ หรือสำนักงานประมงจังหวัดท้องที่ติดทะเล ทุกจังหวัด ภายในวันที่ 27 ธันวาคม 2562 หากมีข้อสอบถามให้ติดต่อได้ที่กลุ่มทะเบียนและอนุญาตทาการประมง กองบริหารจัดการทรัพยากรและกำหนดมาตรการ กรมประมง เบอร์โทรศัพท์ 02-561 1418 ในวันและเวลาราชการ