นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีต่าง ๆ มีการพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด การคุกคามของเทคโนโลยี (Disruptive Technology) มีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและรูปแบบธุรกรรมทางเศรษฐกิจ กระบวนการผลิต การค้า การบริการ และกระบวนการทางสังคมอื่น ๆ รวมถึงลักษณะของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการเชื่อมโยงอุปกรณ์เข้ากับอินเทอร์เน็ต ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตของมนุษย์ในสังคมปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากการที่ประชาชนสื่อสารผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ มากขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องเร่งปรับตัวเพื่อก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ธุรกิจประกันภัยของไทยก็ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องปรับตัวในช่วงของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation) การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย ตลอดจนการบริการ และการประชาสัมพันธ์มีมากขึ้น อีกทั้งยังจำเป็นต้องสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เน้นความสะดวกและง่ายต่อการเข้าถึง
ขณะเดียวกัน ในยุคการบริการและการสื่อสารไร้พรมแดนนี้ ข้อมูลที่ถูกเก็บจากระบบดิจิทัล จะต้องมีการกำกับดูแลเพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างเหมาะสม ไม่ให้เกิดการล่วงละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และเกิดความเสียหายต่อเจ้าของข้อมูล รวมถึงส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในปี 2563 ภาคธุรกิจประกันภัยจะมีความเกี่ยวข้องในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะในฐานะผู้จัดเก็บรักษา เพื่อนำไปใช้ในการรับประกันภัย การบริการด้านสินไหมทดแทน ตลอดจนการนำข้อมูลไปประมวลผลที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการประกันภัย ดังนั้น จึงต้องทำความเข้าใจถึงกฎหมายดังกล่าวอย่างถ่องแท้ เพื่อให้เตรียมตัวปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง
สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและมีนโยบายในการเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจ เพื่อสร้างความความตื่นตัวและสร้างความตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายที่จะเกิดขึ้น การจัดสัมมนาในครั้งนี้ เป็นการจัดสัมมนาใหญ่ในรอบ 2 ปี เนื่องในโอกาสครบรอบ 52 ปีการก่อตั้งสมาคมประกันวินาศภัยไทย จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "Insurance in a digital world: Innovate the Future" เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้มีโอกาสพบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และประสบการณ์ร่วมกัน รวมทั้งเสริมสร้างให้เกิดความเข้าใจที่ดีเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยไทย ให้มีความมั่นคงและยั่งยืนเคียงคู่เศรษฐกิจของประเทศต่อไป นายอานนท์กล่าว