การพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนขนาดเล็กและห่างไกลให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในคาบเรียนภาษาอังกฤษ เป็นโอกาสสำคัญที่เด็กๆ จะได้ฝึกใช้ภาษาอังกฤษจากคุณครูประจำวิชา ไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ หรือกลุ่มคุณครูภาษาอังกฤษที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นวิทยากรชาวไทยในโครงการ "บูธแคมป์" โดยกระทรวงศึกษาธิการและบริติช เคานซิล ได้สานต่อ โครงการบูธแคมป์ เทอร์โบ หรือโครงการอบรมการสอนภาษาอังกฤษใหม่สุดเข้มข้น 30 ชั่วโมง ให้แก่คุณครูภาษาอังกฤษที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงเนื้อหาให้แก่ครูจำนวนมากขึ้น โดยนำร่องมุ่งเน้นการอบรมครูที่อยู่ในโรงเรียนขนาดเล็กและห่างไกล
นางสาวแสงแข คงห้วยรอบ หนึ่งในไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ของโครงการบูธแคมป์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ร่วมอบรมในโครงการบูธแคมป์โดยกระทรวงศึกษาธิการและบริติช เคานซิล ได้นำเนื้อหาจากการอบรมมาปรับใช้ในชั้นเรียน ทำให้เห็นผลลัพธ์ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของเด็กๆ ที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ทั้งความสนใจในวิชาภาษาอังกฤษที่เพิ่มขึ้น และการวัดผลการเรียนภาษาอังกฤษที่ไม่จำกัดอยู่ในรูปแบบเดิม จึงมีความมุ่งหวังที่จะสานต่อโครงการดังกล่าว ให้คุณครูภาษาอังกฤษระดับชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ได้เข้าถึงองค์ความรู้ดังกล่าวเช่นกัน เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการสอนภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางสาวแสงแข กล่าวเพิ่มว่า โครงการบูธแคมป์ เป็นหลักสูตรอบรมการสอนภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาเข้มข้น ที่คุณครูจะต้องเข้าอบรม (Face to face training) เป็นเวลา 90 ชั่วโมง หรือกว่า 3 สัปดาห์ ซึ่งด้วยระยะเวลาดังกล่าว อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณครูในบางโรงเรียนไม่สามารถเข้าร่วมอบรมทั้งหลักสูตรได้ ตนและกลุ่มไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ จึงร่วมกันกับกระทรวงศึกษาธิการ พัฒนาโครงการบูธแคมป์ เทอร์โบ ที่มีจุดเด่นในการกระชับระยะเวลาการอบรมจาก 90 ชั่วโมง เหลือ 30 ชั่วโมง แต่ยังคงเนื้อหาที่สำคัญจากโครงการบูธแคมป์ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนการสอนภาษาอังกฤษจากเดิมที่เน้นความถูกต้องของภาษา จำหลักไวยากรณ์และท่องศัพท์ มาเป็นการสอนที่เน้นทักษะในการสื่อสาร รวมถึงออกแบบการวัดผล (Assessment for learning) ในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้นักเรียนสนุกกับกิจกรรม และไม่รู้สึกกดดันกับการวัดผลผ่านการสอบในรูปแบบเดิม ๆ ซึ่งสามารถแบ่งเนื้อหาออกเป็น 3 หลักสูตร ดังนี้
ในบูธแคมป์ เทอร์โบ การอบรมของแต่ละหลักสูตรถูกกระชับเวลาให้เหลือหลักสูตรละ 12 ชั่วโมง เมื่อนำไปประกอบกับการสอนแบบจุลภาค (Microteaching) หรือการแชร์ผลลัพธ์การสอนกับเครือข่ายแบบออนไลน์ ตามหลัก วางแผน-สอน-ประเมิน อีก 12 ชั่วโมง และการประยุกต์เนื้อหาเข้าไปใช้ใน ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่ครูทุกคนต้องทำเป็นประจำอยู่แล้วอีก 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จะทำให้คุณครูได้พัฒนาการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการบูธแคมป์ เทอร์โบ ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา มีจำนวนคุณครูที่เข้าร่วมอบรมกว่า 12,000 คน ซึ่งไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ได้บันทึกเทปหลักสูตรอบรมการสอนภาษาอังกฤษ โดยการสนับสนุนจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ และเตรียมเผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้คุณครูทั่วประเทศได้เข้าถึงเนื้อหาการอบรม อีกทั้งยังเตรียมขยายผลโครงการอบรมเข้าไปในพื้นที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนอีกด้วย นางสาวแสงแข กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน นางสาวกนกรัตน์ โชคเกิด คุณครูวิชาภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนไทรแก้ววิทยา อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หนึ่งในไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ กล่าวว่า หนึ่งในความท้าทายของคุณครูภาษาอังกฤษในโรงเรียนขนาดเล็ก และห่างไกล คือความหลากหลายของพื้นฐานทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียน และการวางแผนการสอนให้เหมาะสมกับนักเรียนทุกคนในชั้นเรียน ซึ่งเนื้อหาการอบรมในโครงการบูธแคมป์ เทอร์โบ เปรียบเสมือนเครื่องมือการสอนที่ถูกออกแบบมาให้นำไปใช้ได้ในหลากหลายบริบท คุณครูจึงสามารถนำองค์ความรู้จากการอบรมไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับชั้นเรียนของตัวเองได้ นอกจากนี้การติดตามการทำงานอย่างใกล้ชิดภายในเครือข่ายไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ และชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ยังทำให้ผลการดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเกิดการแชร์ผลลัพธ์การสอนซึ่งกันและกัน นำไปสู่การปรับปรุงการสอนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
มร. แอนดรูว์ กลาส ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า บูธแคมป์เทอร์โบ จากความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ที่เกิดขึ้นหลังจากโครงการบูธแคมป์ได้สิ้นสุดไปแล้วนั้น ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการยกระดับการศึกษาภาษาอังกฤษในประเทศไทย และตัวเครือข่ายของไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์กว่า 30 คน ในฐานะผลผลิตที่สำคัญจากโครงการบูธแคมป์ ถือเป็นกลุ่มบุคคลากรที่เป็นความหวังในการขยายผลลัพธ์ของโครงการบูธแคมป์ให้ครูได้เข้าถึงได้มากขึ้น ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และเป็นมันสมองสำคัญในการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งเป็นหลักสำคัญของการสร้างความยั่งยืนในการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษของประเทศไทย โดย บริติช เคานซิล ยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนและพัฒนาบุคลากรกลุ่มไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ ได้เข้าร่วมงานประชุมวิชาการในระดับนานาชาติหลากหลายเวที เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับบุคลากรระดับนานาชาติ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้พัฒนาการเรียนการสอนต่อไป
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ บริติช เคานซิล ประเทศไทย โทร. 02-657-2211 และเว็บไซต์ www.britishcouncil.or.th
เกี่ยวกับโครงการศูนย์อบรมภาษาอังกฤษระดับภูมิภาค (บูธแคมป์)
โครงการศูนย์อบรมภาษาอังกฤษระดับภูมิภาค หรือ "บูธแคมป์" เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการ และบริติช เคานซิล เพื่อยกระดับการสอนภาษาอังกฤษของคุณครูระดับประถมและมัธยมศึกษาทั่วประเทศ กว่า 17,000 คน จากครูภาษาอังกฤษทั่วประเทศกว่า 40,000 คน เปลี่ยนการสอนภาษาอังกฤษจากเดิมที่เน้นความถูกต้องของภาษา จำหลักไวยากรณ์และท่องศัพท์ มาเป็นการสอนที่เน้นทักษะในการสื่อสาร ให้ สามารถฟัง พูด อ่าน และเขียนด้วยภาษาอังกฤษได้จริง โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่งของโครงการ ได้มีการจัดตั้งศูนย์การอบรมพัฒนาครูภาษาอังกฤษระดับภูมิภาคทั้งหมด 15 ศูนย์ทั่วประเทศ รวมทั้งการคัดเลือกครูที่มีศักยภาพโดดเด่นจำนวน 30 คน เพื่ออบรมอย่างเข้มข้นให้เป็นไทยมาสเตอร์เทรนเนอร์ ทำหน้าที่เป็นวิทยากรร่วมกับวิทยากรของ บริติช เคานซิล ตลอดระยะเวลาโครงการ และเป็นกำลังสำคัญในการสานต่อการยกระดับการสอนภาษาอังกฤษระดับประถมและมัธยมศึกษาในประเทศไทย
เกี่ยวกับบริติช เคานซิล
บริติช เคานซิล คือ องค์กรนานาชาติเพื่อส่งเสริมการศึกษา ศิลปะ และวัฒนธรรมแห่งสหราชอาณาจักร เราทำงานกับประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศทั่วโลกผ่านงานด้านศิลปะ วัฒนธรรม ภาษาอังกฤษ การศึกษา และภาคประชาสังคม ในปีที่ผ่านมาเราสื่อสารโดยตรงกับผู้คนมากกว่า 80 ล้านคน และสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ และสิ่งพิมพ์กับผู้คนกว่า 791 ล้านคน เราสร้างประโยชน์แก่ประเทศที่เราทำงานด้วยผ่านทรัพยากรทางวัฒนธรรมของสหราชอาณาจักร เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนให้ดีขึ้นโดยการสร้างโอกาส สร้างเครือข่าย และสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน บริติช เคานซิล ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2477 ภายใต้พระบรมราชานุญาตและพระราชบัญญัติองค์การอิสระแห่งสหราชอาณาจักร เราได้รับเงินสนับสนุนร้อยละสิบห้าโดยรัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit