ICHI กางแผนปี 63 เร่งปั๊มยอดขายในประเทศ และ OEM ดันเป้ารายได้โต 7% หลังงบปี 62 กำไรโตสวย 829.4% ชูความสำเร็จตลาดชาในประเทศ

03 Mar 2020

ICHI เปิดกลยุทธ์ปี 2563 ตั้งเป้ารายได้โต 7% จากแผนรุกตลาดเครื่องดื่มในประเทศต่อเนื่อง เตรียมเปิดตัว Ichitan Icy Mint และขยายไลน์เครื่องดื่ม เปิดตัวแบรนด์สภากาแฟควบคู่กลยุทธ์การตลาดที่สามารถมัดใจผู้บริโภคได้อย่างเหนียวแน่น ขณะที่ประสิทธิภาพการผลิตเหนือระดับ หนุนตลาด OEM ปีนี้สดใส มีลูกค้าจ่อคิวขยายออเดอร์เพิ่ม ด้านงบปี 2562 กำไรโตแกร่งอยู่ที่ 407.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 829.4% รายได้อยู่ที่ 5,334.2 ล้านบาท รับความสำเร็จจากชาเขียวกลุ่ม Mainstream ส่วนชาชิซึโอกะ ครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในตลาดพรีเมี่ยม

ICHI กางแผนปี 63 เร่งปั๊มยอดขายในประเทศ และ OEM ดันเป้ารายได้โต 7% หลังงบปี 62 กำไรโตสวย 829.4% ชูความสำเร็จตลาดชาในประเทศ

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตันกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจในปี 2563 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากแผนการตลาดที่รัดกุม และมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมเปิดตัว “อิชิตันรหัสล่า โซยอน ลุ้นซิ่งมอเตอร์ไซค์ Free Fire” แคมเปญใหญ่ต่อเนื่องเอาใจลูกค้าคอเกม E-Sport ร่วมกับ Garena Free Fire เริ่ม 10 เมษายน – 30 มิถุนายนนี้ หลังประสบความสำเร็จจากปี 2562 ที่ผ่านมา และเตรียมเพิ่มรสชาติใหม่ๆ เข้าพอร์ตแต่ละกลุ่มสินค้าในปีนี้อีก ประเดิมด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ชาเขียว ได้แก่ Ichitan Icy Mint รสชาติน้ำผึ้งมะนาวผสมมินต์ เพิ่ม Cooling ที่ให้ความเย็นขั้นสุด เพื่อสร้างความแตกต่าง พร้อมสื่อสารการตลาดผ่าน TVC Online และในช่องทางที่หลากหลายมากขึ้น

รวมถึง ขยายไลน์เครื่องดื่มโอเลี้ยงรสชาติแท้ๆ ภายใต้แบรนด์ “สภากาแฟ” ชูคอนเซ็ปท์ “ดื่มแล้ว ชื่นใจ เป็นที่หนึ่ง ได้ทุกวัน” ขนาด 280 ml. ในราคาขวดละ 10 บาท เจาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด และกลุ่มลูกค้าแรงงาน ในช่วงเริ่มต้นกระจายสินค้าผ่าน Makro และร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ

ส่วนธุรกิจรับจ้างผลิต หรือ OEM ปีนี้มีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากมุ่งเน้นใช้ประสิทธิภาพการผลิตของ อิชิตัน กรีน แฟคทอรี่ ซึ่งเป็นโรงงานที่มีเครื่องจักรทันสมัย จำนวน 7 สายการผลิตแบบขวด และมีกำลังการผลิตสูงสุด 1,500 ล้านขวด/ปี ภายใต้มาตรฐานการผลิตในระดับโลก ให้มีกำลังการผลิตอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง โดยในปี 2563 นี้ มี 2 ลูกค้ารายใหญ่เข้ามาเพิ่มเติม ได้แก่ แบรนด์ COCO BURI เครื่องดื่มน้ำมะพร้าว ผสมชิ้นเนื้อ เจาะตลาดในประเทศไทย และเตรียมส่งออกไปยังจีน รวมทั้งแบรนด์ BING-ZU (ปิงจู่) ชาเขียวพร้อมดื่มรสชาติน้ำผึ้งมะนาว และรสชาติต้นตำรับ ที่กำลังจะเข้าไปขยายตลาดในประเทศจีน สนับสนุนอัตรากำลังการผลิตให้เพิ่มขึ้น และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร

ด้านผลประกอบการงวดประจำปี 2562 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2562) มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 407.5 ล้านบาท เติบโต 829.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 43.8 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.6% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 7.6% ส่วนรายได้จากการขายอยู่ที่ 5,334.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 2.5% เนื่องจากตลาดในประเทศเติบโตดี 9.8% ส่วนตลาดส่งออกลดลง (12.7)% เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าชะลอตัว

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสด จากผลการดำเนินงานประจำปี 2562 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม (ส่วนที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ผู้ได้รับเงินปันผลไม่ได้รับเครดิตภาษี) กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 7 พฤษภาคม 2563 วันที่จ่ายปันผลวันที่ 21 พฤษภาคม 2563

“ผลงานปี 2562 สะท้อนความมุ่งมั่นในการปรับกลยุทธ์ของเรา โดยมุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไรที่ดี และความสำเร็จในการจัดแคมเปญการตลาดที่แตกต่างควบคู่การบริหารต้นทุนการขายและต้นทุนการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้ชาเขียวกลุ่ม Mainstream มีการเติบโตที่ดี และชาชิซึโอกะ สามารถครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์หนึ่งในตลาดชาพรีเมี่ยมได้อย่างต่อเนื่อง” นายตัน ภาสกรนที กล่าวทิ้งท้าย