อโรม่า จับมือฮาริโอะ กรุ๊ป เปิดตัว ฮาริโอะ คาเฟ่ โชว์ศิลปะการชงกาแฟ กับ Slow Bar แบบชิค แอนด์ คูลแนวเจแปนนิส แห่งที่ 3 ของโลก

16 Mar 2020

อโรม่า จับมือฮาริโอะ กรุ๊ป เปิดตัว  ฮาริโอะ คาเฟ่ โชว์ศิลปะการชงกาแฟ กับ Slow Bar แบบชิค  แอนด์ คูลแนวเจแปนนิส แห่งที่ 3 ของโลก

อโรม่า กรุ๊ป ตอกย้ำศักยภาพผู้นำธุรกิจกาแฟและเครื่องดื่มครบวงจร ร่วมมือกับฮาริโอะเจ้าของแบรนด์อุปกรณ์การชงกาแฟระดับโลก เปิดตัว Hario Cafe Bangkok ต่อยอดพัฒนาตลาดการดื่มกาแฟ Specialty

ระดับพรีเมี่ยม ในราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยประสบการณ์ที่พิเศษสุดจากบาริสต้ามืออาชีพที่คอยแนะนำการดื่มกาแฟด้วยเทคนิคการชงทั้งแบบ drip, syphon, cold brew ประจำที่ร้านตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการเครื่องดื่มพิเศษ อื่นๆ ที่ พร้อมเสิร์ฟให้สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟ ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ ในแบบ Slow life แต่ครบคุณภาพ มั่นใจศักยภาพการเติบโตของตลาดกาแฟที่โตต่อเนื่อง ในระดับ 10-15 % ต่อปี เพราะเทรนด์การดื่มกาแฟยังเป็นกระแส ที่แรง แม้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ จะอยู่ในระยะที่คนไทย ยังหวั่นวิตกกับสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต และทรัพย์สิน รวมถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นอย่างมาก  ซึ่งนักการตลาดต้องเร่งเตรียมแผนและทำการบ้านอย่างหนักหลังเหตุการณ์คลี่คลายในปีนี้

นายกิจจา วงศ์วารี กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป (Aroma Group)ผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร เปิดเผยถึงความร่วมมือกับกลุ่มฮาริโอะในครั้งนี้ว่า “เพราะเรามองว่า ปัจจุบันการดื่มกาแฟของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก จากที่เคยดื่มกาแฟสำเร็จรูปในบ้าน หรือในที่ทำงาน ตามมาด้วยรูปแบบร้านกาแฟสมัยใหม่ พร้อมอุปกรณ์การชงที่ทันสมัย สะดวกรวดเร็ว มีที่นั่งพัก พบปะพูดคุยทั้งเรื่องส่วนตัว หรือทำงานนอกออฟฟิศ  และร้านกาแฟคั่วบดอีกมากมายในเวลาต่อมา  ล้วนแล้วแต่บ่งบอกถึงการพัฒนาประสบการณ์ดื่มกาแฟที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ การเปิดตัวของร้านกาแฟ Specialty Coffee ที่แต่ละร้านจะสรรรหาเมล็ดกาแฟคุณภาพจากแหล่งต่าง ๆ มาคั่วตามกรรมวิธีเฉพาะ พร้อมใช้วิธีการชงแบบคลาสสิก อาทิ Coffee Press หรือ เพิ่มความพิเศษแบบ Syphon มาเสริฟให้บริการลูกค้า ดูจะเป็นประเด็นที่เด่นชัด ชี้ให้เห็นถึงความพร้อมที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับการดื่มกาแฟของคนไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย และเชื่อว่าเทรนด์ความนิยมกาแฟพิเศษนี้จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น สอดรับไปกับการแสวงหาวิถีชีวิตคุณภาพแบบสโลว์ไลฟ์ ของคนเมือง”

ความร่วมมือกับฮาริโอะ กรุ๊ป  ผู้นำของอุปกรณ์การชงกาแฟคุณภาพระดับเวิลด์คลาส ที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านสินค้าและบุคคลากรในตลาดมานานเกือบ 100 ปี จากประเทศญี่ปุ่น ในการเปิดตัว Hario Cafe Bangkok ร้านกาแฟ specialty ในรูปแบบ Slow Bar แบบชิค  แอนด์ คูลแนวเจแปนนิส ซึ่งนับเป็นสาขาที่ 3 ของโลก ต่อจากญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ในครั้งนี้ของกลุ่มอโรม่า จึงถือเป็นโอกาสอันดี เพราะนอกจากจะเป็นการร่วมมือกันผลักดันให้ผู้ที่สนใจ หรือรักการดื่มกาแฟกลุ่ม specialty  เติบโตเพิ่มมากขึ้นด้วยการมอบประสบการณ์ที่ดีในการดื่มกาแฟ specialty จากบาริสต้ามืออาชีพใน Hario Cafe  พร้อมคัดสรรเมล็ดกาแฟระดับพรีเมี่ยมจากแหล่งถิ่นต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงเมล็ดกาแฟพิเศษ หายาก ตาม Seasonal มาคอยบริการให้ลูกค้าได้สัมผัสเมล็ดพิเศษๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ หรือจะเลือกดื่ม  house blend ตัวหลักที่ได้รับรางวัลเหรียญทอง  จาก International Coffee Tasting Competition 2019 อย่าง Victory Series : Infinity Blend เป็นกาแฟ และ House Blend ต่าง ๆเฉพาะที่ Hario Cafe Bangkok เท่านั้น เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ที่สุดพิเศษในคาเฟ่แบบ slow bar แห่งนี้ ที่พร้อมโชว์ศิลปะการชงทั้งแบบ drip, syphon, cold brew  มาเสิร์ฟให้ลูกค้า พร้อมกลุ่มเครื่องดื่ม อื่น ๆ  อีกหลากหลายเมนู  ที่เข้ามาร่วมสร้างสีสัน สำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟ ได้สนุกไปกับการดื่ม ในราคาที่เข้าถึงได้ ควบคู่ไปกับการให้ความรู้กับลูกค้าเสมือนเป็น Coffee Community  โดยลูกค้า สามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลต่างๆกับบาริสต้า ที่คอยให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อาทิ กรณีหากลูกค้าอยากจะดริปเอง หรือสนใจอยากการศึกษากรรมวิธีการชงกาแฟ แบบง่าย ๆ ด้วยตัวเอง รวมถึง ขั้นตอนต่างๆ ในการทำเครื่องดื่ม กับบาริสต้าที่คอยสอน และดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมให้คำปรึกษา แนะนำ การใช้อุปกรณ์การชงที่ทันสมัย จากการสร้างสรรค์และพัฒนาโดย  Hario ที่บาริสต้าใช้ประจำอยู่ที่ร้าน ให้ลูกค้าที่สนใจ สามารถหาซื้อไปใช้ในการรังสรรค์เครื่องดื่มด้วยตัวเองที่บ้านได้โดยสะดวก แม้เพิ่มเริ่มหัด”นายกิจจา กล่าวและเพิ่มเติมว่า

อย่างไรก็ดี เนื่องจากสภาพโดยรวมของตลาดในขณะนี้ ยังอยู่ในช่วงการชะลอจากผลกระทบภาวะการแผ่ระบาดไวรัสโควิด-19 ซึ่งในระหว่างนี้ คงต้องรอดูนโยบายการฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อีกครั้ง แต่ก็เชื่อว่า ตลาดร้านกาแฟในปีนี้  อัตราการเติบโตน่าจะอยู่ใน ราว 10-15% ทุก ๆปี ด้วยศักยภาพของตลาดที่ยังอยู่ในกระแสที่ดี และพฤติกรรมการดื่มรวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ขยายฐานลูกค้าอายุน้อยลงจากอดีต สำหรับกลุ่มอโรม่า ในปีนี้น่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่แล้ว อีกประมาณ 20 %  จากการขยายฐานกลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และทีมงานที่มีศักยภาพเฉพาะทาง  ตามแผนงาน ที่ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนา เพื่อเป็นแบบอย่าง และแรงบันดาลใจ ให้กับธุรกิจกาแฟไทย ที่นำพาความสำเร็จ และประสบการณ์สดใหม่เกี่ยวกับธุรกิจกาแฟมามอบให้กับลูกค้า พร้อมพัฒนาศักยภาพด้วยการนำเทรนด์และแนวคิดใหม่ๆเข้ามา เพื่อทำให้สินค้าและบริการของครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจกาแฟยิ่งขึ้น”นายกิจจากล่าวสรุป

Aroma Group คือผู้นำธุรกิจกาแฟคั่วบด และเครื่องดื่มแบบครบวงจร ที่มีความเชี่ยวชาญ และสั่งสมประสบการณ์มาอย่างยาวนานกว่า 60 ปี ธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตั้งแต่การคัดสรรและจัดจำหน่ายวัตถุดิบชั้นดี การจำหน่ายเครื่องมือ และอุปกรณ์คุณภาพสูง สถาบันสอนพัฒนาธุรกิจร้านกาแฟ ไปจนกระทั่งธุรกิจร้านกาแฟเพื่อรังสรรค์รสชาติกาแฟชั้นเลิศให้แก่ผู้บริโภค จวบจนทุกวันนี้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากมาย เช่น โรงแรมชั้นนำ ร้านอาหาร ซูปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และร้านเบเกอรี่ ทั้งจากตัวแทนจำหน่ายสินค้า Aroma กว่า 2,000 ราย ร้านค้าปลีกกว่า 7,000 ร้านค้า และ Aroma shop กว่า 30 ร้านค้า พร้อมเสียงตอบรับที่มากขึ้นทุกวัน

อโรม่า จับมือฮาริโอะ กรุ๊ป เปิดตัว  ฮาริโอะ คาเฟ่ โชว์ศิลปะการชงกาแฟ กับ Slow Bar แบบชิค  แอนด์ คูลแนวเจแปนนิส แห่งที่ 3 ของโลก