บริษัท เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป จำกัด (CMG) ผู้นำเข้านาฬิกา CASIO G-SHOCK อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ประกาศเปิดตัวนาฬิกาสี่รุ่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมเชิญชวนเหล่าสาวกนาฬิการ่วมงาน Robinson The Ultimate Watch Fair 2020 สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ถึงวันที่ 6 เมษายน 2563 ภายใต้คอนเซ็ปต์ G-SHOCK House of Beats ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเสียงเพลง และสีดำแดง ซิกเนเจอร์ของ G-SHOCK
เริ่มต้นไฮไลท์สุดพิเศษของงานกันที่นาฬิกา G-SHOCK GM-6900 ซีรี่ส์ ที่มาพร้อมกับวงกรอบตัวเรือนโลหะจาก Metal Series ผสมผสานจอแสดงผลทรงกลมสามชุด ฉายา “Triple Graph” (ทริปเปิล กราฟ) บนหน้าปัด ที่จัดทำขึ้นสุดพิเศษในวาระครบรอบปีที่ 25 ของซีรี่ส์ 6900 ยอดนิยม
GM-6900 ออกแบบมาเพื่อหนุ่มสายแฟชั่น ให้ลุค สตรีท ลักชัวรี่ แต่ยังคงความเท่ห์อย่างไร้กาลเวลา ตัวเรือนนั้นผ่านการหล่อหลอมด้วยกระบวนการสร้างรูปทรงและขึ้นรูปถึง 20 ขั้นตอน ตลอดจนการตัดแต่งและขัดเงาอีกหลายขั้นตอน ลักษณะดุจกระจกเงา ปรากฏแนวเส้นละเอียดบนพื้นผิวที่ซับซ้อนเพื่อขับเน้นความโดดเด่นอย่างมีสไตล์ให้กับผู้ที่สวมใส่ โดยนาฬิกา GM-69000 นี้นำเข้ามาในประเทศไทยในจำนวนจำกัด พร้อมสามสีให้เลือกได้แก่ สายสีดำวงกรอบตัว เรือนสีเงิน สายสีดำวงกรอบตัวเรือนสีทอง และสายสีแดงโปร่งแสงนั้นเคียงคู่มากับวงกรอบตัวเรือนสีดำ ในราคาเริ่มต้นเพียง 8,000 บาท
G-SHOCK GGB100BTN-1A ถัดมากับนาฬิกาไฮไลท์อีกรุ่น ที่สายกิจกรรมแนวเอาท์ดอร์ แอดเวนเจอร์พลาดไม่ได้กับนาฬิกา MUDMASTER GGB100BTN-1A รุ่นใหม่ ดีไซน์โดยความร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์สโนว์บอร์ดชื่อดังอย่าง Burton พร้อมที่สุดของความทนทาน ABSOLUTE TOUGHNESS ด้วยโครงสร้างแบบ Carbon Core Guard และกรอบตัวเรือนแบบคาร์บอนสามชั้น จากวัสดุคาร์บอนที่แข็งแรงกว่าเหล็ก 10 เท่า และมีน้ำหนักเบากว่า 4 เท่า ออกแบบมาเพื่อให้ทนทานต่อภูมิประเทศที่เป็นภูเขาหิมะ สะท้านโคลนสะท้านฝุ่น ซึ่งยังมีปุ่มขนาดใหญ่ที่มีพื้นผิวต้านทานความลื่น สามารถใช้งานได้แม้ในขณะสวมถุงมือ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักสโนว์บอร์ดมืออาชีพอย่างแท้จริง
ในแง่ของดีไซน์ นาฬิกา MUDMASTER GGB100BTN-1A มีลวดลายเสมือนหิมะที่ปกคลุมบนต้นไม้ในป่า British Columbia ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานของช่างภาพสโนว์บอร์ดชื่อดังระดับโลก Dean Blotto Gray พร้อมด้วยโลโก้ของแบรนด์บนห่วงรัดสายนาฬิการวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ นาฬิการุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับความสามารถทางเทคโนโลยีต่าง ๆ โดยมีเซ็นเซอร์ 4 ตัว สำหรับการทำงาน ประกอบด้วย เข็มทิศ มาตรวัดความสูง เทอร์โมมิเตอร์ และมาตรวัดความเร่ง อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อ Bluetooth(R) ของนาฬิกาผ่านแอปพลิเคชันของ G-SHOCK ที่มีฟังก์ชั่นพิเศษภายในแอปมากมายทั้งสามารถระบุโลเคชัน การนับก้าว บอกเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกและอื่น ๆ ในราคา 16,500 บาท
อีกรุ่นที่พลาดไม่ได้ใน MUDMASTER ซีรีส์สุดแข็งแกร่งได้แก่รุ่น The British Army X G-SHOCK ที่ออกแบบร่วมกับพันธมิตรอย่างกระทรวงกลาโหม (HM Armed Forces) ของอังกฤษ พร้อมตอกย้ำปรัชญา Never Give Up ด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือชั้น สร้างขึ้นเพื่อให้ทนต่อพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดและมีโครงสร้างเป็น Carbon Core Guard ที่ล้ำสมัย พร้อมด้วยกรอบฝาครอบแบบคาร์บอนสามชั้นที่มีความทนทานแต่น้ำหนักเบา ทั้งนี้ ยังมีดีไซน์สุดเท่ห์ด้วยลวดลายพรางของกองทัพ และหน้าปัดสีดำซึ่งเป็นความต้องการจากกองทัพอังกฤษเพื่อไม่ให้ดึงดูดความสนใจเมื่อสวมใส่ในการปฏิบัติงาน
MUDMASTER รุ่นพิเศษนี้ ประกอบด้วยเคสตัวเรือนสองชั้นด้านหลังเป็นสแตนเลสสตีลแบบบาง และเรซินชั้นดีเพื่อป้องกันการรั่วซึมทำให้ทนต่อแรงกระแทกแต่ยังให้ความรู้สึกสบายเมื่อสวมใส่ในทุก ๆ วัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติใหม่ ๆ มากมายรวมถึงเทคโนโลยีในการบอกตำแหน่งและการติดตามกิจกรรม ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการเชื่อมต่อ Bluetooth(R) ผ่านแอปพลิเคชัน G- SHOCK พร้อมฟังก์ชั่นพิเศษภายในแอปมากมาย รวมถึงการระบุตำแหน่ง หน่วยความจำสำหรับบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ หน่วยความจำสำหรับการระบุตำแหน่ง การบอกข้อมูลพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก รวมถึงแคลอรี่ที่ถูกเผาผลาญ และฟังก์ชันอื่น ๆ ในราคาเพียง 16,500 บาท
สำหรับสาว ๆ ที่กำลังมองหานาฬิกาสุดชิค เพื่อ Mix & Match กับชีวิตประจำวัน พลาดไม่ได้กับนาฬิกา G-MS (จีมิส) คอลเลคชันใหม่ The Classy Summer ที่มาในตัวเรือนเรียบหรู บางเบา เหมาะกับข้อมือสาว ๆ พร้อมทั้งปุ่มปรับเวลาเพียงปุ่มเดียว จึงสามารถปรับเวลาได้อย่างง่ายดายได้หลากหลายดีไซน์ เน้นสีโทนคลาสสิก ขาว ดำ ครีม พร้อมแอคเซนท์สีเงิน ทอง และพิงค์โกลด์ ด้วยดีไซน์คงคอนเซ็ปต์ทันสมัย หรูหรา และคล่องตัว ทำให้การแต่งตัวในหน้าร้อนที่สีสันสดใสนี้ ง่ายดาย และสนุกสนานอย่างเต็มที่
นาฬิกา G-MS รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมระบบการบอกเวลารอบโลก และฟังก์ชัน Tough Solar ที่ชาร์จพลังงานด้วยแสงอาทิตย์ รวมถึงแสงจากโคมไฟฟลูออเรสเซนต์และแหล่งพลังงานแสงอื่น ๆ พร้อมห้าสไตล์สุดเรียบหรูให้เลือกสรร ในลุคแฟชั่นสบาย ๆ ใส่ได้ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นกรอบสีพิงค์โกลด์ IP ที่ผสมผสานกับสายเรซินสีดำ (MSG-S500G- 1A) กรอบสีทองสายเรซินสีขาว (MSG-S500G-7A) กรอบสีเงินสายเรซินสีครีม (MSG-S500-7A) หรือสไตล์ใหม่สายลูกโซ่ ทั้งกรอบสีพิงค์โกลด์สายลูกโซ่สีดำ (MSG-S500CG-1A) และ กรอบสีเงินสายลูกโซ่สีขาว (MSG- S500CD-7A) ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 6,400 บาท
พิเศษสุด สำหรับงาน Robinson The Ultimate Watch Fair 2020 ลูกค้าที่ซื้อนาฬิกา GM-6900 Metal Face สีใดก็ได้ จะได้รับฟรีทันที ลำโพง Bluetooth จาก G-SHOCK เอกสิทธิ์เฉพาะของทางแบรนด์ และลูกค้าที่ซื้อนาฬิกา MUDMASTER รุ่นคอลแลปส์ร่วมกับ Burton หรือ British Army จะได้รับฟรีเก้าอี้แคมป์ปิ้ง G-SHOCK รวมถึงส่วนลดพิเศษอีกมากมายสำหรับนาฬิการุ่นอื่น ๆ นอกจากนี้ พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่เข้าเยี่ยมชมบูธ CASIO G-SHOCK ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ จะได้ร่วมกิจกรรมเล่นเต้นกับเสียง กับเกมส์ Kinect (Xbox 360) Dancing Game เพื่อร่วมชิงรางวัลจาก G-SHOCK อีกด้วย เรียกได้ว่าพลาดไม่ได้เลยทีเดียว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนาฬิกา สามารถเข้าชมได้ที่งาน Robinson The Ultimate Watch Fair 2020 ณ บูธ CASIO G-SHOCK ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม ถึงวันที่ 6 เมษายน 2563 หรือผ่านทางเว็บไซต์ http://bit.ly/CASIO-RBS และ Facebook/Casio Watches Thailand