เกษตรกรชาวสวนผลไม้ในภาคตะวันออก ปลูกทุเรียน มังคุด สับปะรด เป็นผลไม้เศรษฐกิจหลัก ในการตัดแต่งกิ่งทำให้มีเศษกิ่งไม้จำนวนมาก อีกทั้งบางครั้งประสบปัญหาผลไม้ร่วงหล่นจากต้นก่อนการเก็บเกี่ยว โดยมีสาเหตุจากภัยธรรมชาติ โรคและแมลงรบกวน หรือการปลิดผลบางส่วนทิ้งเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เศษวัสดุเหล่านี้สามารถนำมาแปรรูปด้วยการนำไปเผาให้เป็น “ถ่านผลไม้ดูดกลิ่น” ที่ยังคงรูปทรงของผลไม้ชนิดนั้นๆ เป็นการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ช่วยสร้างรายได้เสริมให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี ถังอบถ่านที่คิดค้นขึ้นเองโดยเกษตรกร ยังมีข้อจำกัดบางประการด้านความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งหากได้รับการปรับปรุงจะช่วยให้ถังอบมีความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงาน ทำงานได้ง่ายขึ้น และได้ผลิตภัณฑ์ถ่านดูดกลิ่นที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (180/2549)
นอกจากนี้ถังอบถ่านแนวตั้งโดยทั่วไปเป็นถังขนาด 200 ลิตร หุ้มฉนวนกันความร้อน มีปล่องตรงกลางสำหรับให้ความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้วิ่งผ่าน และมีท่อสำหรับนำควันไฟที่เกิดจากการเผากลับไปยังห้องเผาไหม้ เป็นการทำให้ไม้กลายเป็นถ่านด้วยการใช้ความร้อนไล่ความชื้นเนื้อไม้ในเตาเผา เรียกว่า “กระบวนการคาร์บอนไนเซชัน” เนื่องจากเป็นระบบปิด จึงไม่มีการลุกติดไฟของเนื้อไม้ ถ่านที่ได้มีคุณภาพสูง ขี้เถ้าน้อย แต่ผลิตน้ำส้มควันไม้ไม่ได้เนื่องจากควันถูกเผาไหม้หมด
ด้วยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำภูมิปัญญาเตาอบถ่านของเกษตรกรมาพัฒนาต่อยอดด้วยองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้เป็นนวัตกรรม “ถังอบถ่านแนวตั้งประสิทธิภาพสูง”
โดยถังอบประสิทธิภาพสูงที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วยถัง 2 ชั้นแนวตั้ง ขนาด 200 ลิตร ชั้นนอกใส่เชื้อเพลิง ชั้นในใส่เศษวัสดุ มีฝาปิดมิดชิดและปล่องควันสูงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ติดตั้งเครื่องบันทึกอุณหภูมิภายในถังและปากปล่อง เพื่อแสดงการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิระหว่างการเผา พร้อมทั้งพัฒนาโปรแกรมวัดอุณหภูมิ KU Furnace Ind ที่ทำงานภายใต้ application “Blynk” เพื่อตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิการเผา (Real Time)
ข้อดีของถังอบถ่านแนวตั้งประสิทธิภาพสูง
คุณสมบัติถ่านที่ได้จากถังอบถ่านประสิทธิภาพสูง
“ถังอบถ่านแนวตั้งประสิทธิภาพสูง” เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เป็นผลสำเร็จจากการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เข้าไปพัฒนาต่อยอดให้ได้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย สนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจใหม่ BCG ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการส่งเสริมการกระจายรายได้และความเจริญไปสู่ภาคส่วนต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง
HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit