การดูแลตนเองก่อนออกเดินทางไปยังจุดหมาย ผู้ขับขี่ควรเช็กสภาพอากาศทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน ผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศในสถานที่ต่างๆ แบบ Real-time ช่วยให้ผู้ขับขี่วางแผนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีค่าฝุ่นละอองสูงเข้าขีดอันตรายได้ สวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกวิธีทุกครั้งเมื่อขับขี่ โดยเลือกประเภทที่มีคุณสมบัติป้องกันฝุ่น PM 2.5 รวมไปถึงงดการขับขี่เป็นระยะเวลานาน เพื่อเลี่ยงการเผชิญฝุ่น PM 2.5 และลดความเสี่ยงจากการสูดดมสารก่อมะเร็งและแก๊สพิษชนิดต่างๆ การตรวจเช็กเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพเหมาะสมเสมอเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดการปล่อยมลภาวะทางอากาศได้
ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เองก็สามารถมีส่วนร่วมในการช่วยลดค่าฝุ่นได้ เริ่มจากการตรวจเช็กสภาพรถ เปลี่ยนไส้กรอง น้ำมันเครื่อง เพื่อลดการปล่อยมลภาวะ โดยจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษ 60% ของฝุ่น PM 2.5 เกิดจากการสันดาปไม่สมบูรณ์ของเครื่องยนต์ดีเซล ลดการเร่งเครื่องยนต์เกินความจำเป็นเพื่อลดการเผาผลาญเครื่องยนต์
แท้จริงแล้วปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 มีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยในบางกรณี เช่น แรงลมพัดฝุ่นจากทิศทางอื่นเข้ามา ทำให้ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น โครงสร้างของตึกหลายแห่งในเมือง ที่ปิดกั้นทางเดินลมทำให้อากาศและฝุ่นไม่ได้กระจายหรือระบายออก เป็นต้น อย่างไรก็ตามทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ตามวิธีดังกล่าว ซึ่งสามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
นอกจากนี้ "กรุงศรี มอเตอร์ไซค์" นำโดย นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) พร้อมทีมผู้บริหาร ยังร่วมส่งต่อความห่วงใยแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยการมอบหน้ากากอนามัย N95 จำนวน 6,000 ชิ้น แก่ผู้ขับขี่และเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ บริเวณสี่แยกเพลินจิต ถนนวิทยุ รวมไปถึงพ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็กๆ โรงเรียนสวนลุมพินี และกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีป้องกันฝุ่นละออง PM 2.5 ที่สูงเกินมาตรฐานและสามารถเกิดอันตรายแก่ร่างกายได้