โปรโมชั่นบัตรโดยสารไป-กลับกรุงเทพฯ - ดูไบ ชั้นประหยัดเริ่มต้นที่ราคา 15,000 บาท และ ชั้นธุรกิจเริ่มต้นที่ราคา 40,000 บาท สำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ถึง 3 มีนาคม 2563 สำหรับการเดินทางระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึง 30 กันยายน 2563 (ระยะเวลาตามเงื่อนไข) ข้อเสนอสุดพิเศษนี้มีให้เช่นเดียวกันสำหรับบัตรโดยสารชั้นหนึ่ง ผู้โดยสารชั้นประหยัดสำรองบัตรโดยสารในระยะเวลาของโปรโมชั่นสามารถเพลิดเพลินกับแพกเกจที่พัก 2 คืน ณ โรงแรม Aloft Me'aisam หรือ Aloft Dubai South ขณะที่ผู้โดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจที่สำรองบัตรโดยสารในช่วงเวลาเดียวกันรับแพคเกจที่พักจำนวน 2 คืน ณ โรงแรม JW Marriott Marquis หรือ Marriott Al Jaddaf
เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้สู่เมืองดูไบดินแดนแห่งท้องฟ้าสีคราม เมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบจุดหมายปลายทางระดับโลกสำหรับนักเดินทางในปี 2020 โดย Lonely Planet และอันดับที่ 4 ของเมืองที่ผู้คนไปเยือนมากที่สุดในโลกตามการจัดอันดับสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกประจำปี 2019 โดยมาสเตอร์การ์ด ด้วยระดับอุณหภูมิอันพอเหมาะระหว่าง 25-30 องศาเซลเซียส จึงทำให้ดูไบเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ สำหรับนักเดินทางที่วางแผนท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดที่กำลังมองหาสถานที่เพื่อพักผ่อนริมทะเล
ดูไบไม่เคยคลายมนต์เสน่ห์ที่ทำให้ผู้มาเยือนหลงไหล ไม่ว่าคุณจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนเมืองดูไบเป็นครั้งแรก หรือเคยสัมผัสเมืองแห่งนี้มาก่อนและประสงค์จะกลับไปเยือนอีกครั้ง กับจุดท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ สถานที่ด้านความบันเทิง กิจกรรมกลางแจ้ง และวัฒนธรรม รวมไปถึงบรรดาตึกระฟ้าและสถาปัตยกรรมที่งดงาม จึงกล่าวได้ว่าเมืองดูไบเปรียบเสมือนสวรรค์ของนักเดินทาง และไม่มีเวลาใดอีกแล้วที่จะเหมาะสมไปกว่านี้ในการไปเยือนดูไบ
สำหรับการสำรองบัตรโดยสาร กรุณาใส่รหัสโปรโมชั่นโค้ด DUBAI20 ก่อนทำการชำระเงิน โดยข้อเสนอพิเศษสำหรับที่พักโรงแรมจะได้รับการสำรองและยืนยันในลำดับถัดไป ข้อเสนอที่พักโรงแรมเป็นห้องพักเดี่ยวแบบเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่ เท่านั้น สำหรับบัตรโดยสารชั้นประหยัดอนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่เกิน 1 คน พักรวมในห้องเดียวกันได้ และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่เกิน 2 คน สำหรับบัตรโดยสารชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง ข้อเสนอดังกล่าวรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และมีจำนวนจำกัด เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
นอกจากนี้ สายการบินเอมิเรตส์ยังมอบความพิเศษยิ่งขึ้นกับข้อเสนอนี้ ด้วยการสนับสนุนค่าใช้จ่ายวีซ่าท่องเที่ยวดูไบระยะเวลา 30 วันสำหรับผู้ที่เดินทางจากประเทศไทย โดยผู้เดินทางจะต้องยื่นเอกสารคำร้องขอวีซ่า พร้อมกับเอกสารสำคัญต่าง ๆ เช่น สำเนาหนังสือเดินทาง และรูปถ่ายหน้าตรงขนาดเท่าหนังสือเดินทาง ที่สำนักงานสายการบินเอมิเรตส์ในประเทศที่ [email protected] ภายในวันที่ 03 มีนาคม 2563 โดยต้องดำเนินการออกบัตรโดยสารของเอมิเรตส์ก่อนการยื่นคำร้องขอวีซ่า เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ผู้โดยสารของสายการบินเอมิเรตส์ที่เดินทางไปเมืองดูไบในช่วงเวลาที่จัดโปรโมชั่น (วันที่ 14 กุมภาพันธ์ – 30 กันยายน 2563) จะได้รับน้ำหนักสัมภาระเพิ่มอีก 10 กิโลกรัม จึงหมดกังวลในเรื่องการจัดกระเป๋าและมีที่ว่างในกระเป๋าเพิ่มมากขึ้นสำหรับการชอปปิ้ง ในฐานะที่เป็นเมืองท่าการบินและเมืองท่องเที่ยวชั้นนำ ดูไบนำเสนอการผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยอาคารสุดตระการตา แลนด์มาร์กที่โดดเด่น อาหารนานาชาติเลิศรส และแหล่งชอปปิ้งชั้นนำระดับโลก นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถขยายงบประมาณการเดินทางด้วย My Emirates Pass – สิทธิพิเศษสำหรับผู้โดยสารเอมิเรตส์ที่เปลี่ยนบัตรที่นั่ง (บอร์ดดิ้งพาส) ของเอมิเรตส์เป็นแพ็คเกจสมาชิกสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มอบส่วนลดและสิทธิประโยชน์ ณ สถานที่ต่าง ๆ มากกว่า 500 แห่งทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยผู้ที่เดินทางไปหรือผ่านเมืองดูไบ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 สามารถรับข้อเสนอและเพลิดเพลินไปกับส่วนลดสูงสุดถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ณ ร้านค้ามากมาย และรับส่วนลดสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการใช้บริการด้านสันทนาการต่าง ๆ เพียงแสดงบัตรที่นั่ง (บอร์ดดิ้งพาส) และบัตรประจำตัว
เพื่อประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายและราบรื่นตลอดเส้นทาง ด้วยบริการรถรับ-ส่ง ณ สนามบินมากกว่า 75 แห่งทั่วโลก ห้องรับรองสุดหรูภายในสนามบิน และบริการเหนือระดับระหว่างการเดินทาง ผู้โดยสารชั้นธุรกิจที่เดินทางด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777 จะได้รับความผ่อนคลายไปกับที่นั่งที่กว้างและรับกับสรีระยิ่งขึ้นซึ่งสามารถปรับเอนในตำแหน่งนอนราบเพื่อการนอนหลับอย่างสบาย เพลิดเพลินและผ่อนคลายไปกับ "ice" ระบบความบันเทิงบนเที่ยวบินที่ได้รับรางวัลของเอมิเรตส์ นำเสนอช่องรายการโทรทัศน์และรายการบันเทิงล่าสุดมากถึง 4,500 ช่อง ในหลายภาษา ในขณะที่ชั้นธุรกิจบนเครื่องบินแอร์บัส A380 มอบประสบการณ์เสมือนส่วนพักผ่อนชั้นเลิศ ด้วยบริการมินิบาร์ส่วนตัวให้กับผู้โดยสาร และส่วนรับรองบนเครื่อง A380 ที่ผู้โดยสารสามารถเลือกเพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่เป็นส่วนตัวหรือพบปะสังสรรค์ และพักผ่อนได้อย่างเต็มที่บนที่นั่งที่ปรับเป็นเตียงนอนราบ พร้อมชุดเครื่องนอนและผ้าห่มแสนสบาย
ผู้โดยสารชั้นประหยัดสามารถสัมผัสถึงความสบายในการเดินทางอันเป็นแบบฉบับของเอมิเรตส์ที่พรั่งพร้อมไปด้วยความพิเศษที่เหนือกว่า ด้วยชุดอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมั่นใจเมื่อถึงจุดหมายปลายทางพร้อมความรู้สึกที่สดชื่น และผ้าห่มเนื้อนุ่มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้ครอบครัวที่เดินทางพร้อมกับเด็กรู้สึกอุ่นสบายเหมือนอยู่ที่บ้าน บริการมื้ออาหารบนเครื่องบินที่ได้แรงบันดาลใจจากจุดหมายปลายทาง อาหารจะเสิร์ฟให้ผู้โดยสารที่เป็นเด็กก่อนซึ่งแสดงถึงความใส่ใจในการให้บริการ และจินตนาการจะไม่ขาดตอนสำหรับผู้โดยสารรุ่นเยาว์ด้วยความบันเทิงบนเที่ยวบินตลอดเส้นทาง ซึ่งนำเสนอรายการการ์ตูน ภาพยนตร์แอนิเมชันและดิสนีย์คลาสสิก พร้อมปลุกไฟในการผจญภัยให้กับนักเดินทางรุ่นเยาว์กับแพกเกจ Lonely Planet Kids ของเอมิเรตส์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวเกร็ดความรู้และทักษะสร้างสรรค์ที่น่าสนใจมากมาย
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายการบินเอมิเรตส์ รวมทั้งการสำรองที่นั่ง และเงื่อนไขต่าง ๆ สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.emirates.com/th
เกี่ยวกับสายการบินเอมิเรตส์
สายการบินเอมิเรตส์ (www.emirates.com/th) ได้รับเลือกให้เป็นสายการบินที่ดีที่สุดในโลกจาก 'สกายแทร็กซ์' ในงานประกาศรางวัลสกายแทร็กซ์ เวิลด์ แอร์ไลน์ ประจำปี 2559 (2016 Skytrax World Airline Awards) โดยได้ให้บริการเชื่อมโยงกรุงเทพฯและดูไบ ด้วยการบริการ 5 เที่ยวบินต่อวัน และสองเที่ยวบินต่อวันจากภูเก็ตสู่ดูไบ ในปัจจุบันสายการบินเอมิเรตส์ให้บริการเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่ดูไบ จำนวน 35 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ด้วยเครื่องบิน A380 ทั้งนี้เอมิเรตส์ให้บริการสู่มากกว่า 158 เส้นทางใน 84 ประเทศทั่วโลกและประกาศผลกำไร 237 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับปีงบประมาณ 2561-2562 เอมิเรตส์ปฏิบัติการด้วยฝูงบินขนาดใหญ่ ประกอบด้วยเครื่องบิน Boeing และ Airbus ทั้งหมด 271 ลำ นับเป็นสายการบินที่ให้บริการด้วยฝูงบิน A380 ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สายการบินเอมิเรตส์มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศไทยตั้งแต่ได้เข้ามาให้บริการเที่ยวบินแรกสู่กรุงเทพฯ ใน พ.ศ. 2533 โดยได้ช่วยกระตุ้นและสนับสนุนด้านการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศทั้งยังให้การเชื่อมต่อกับเส้นทางอื่นๆ ในเครือข่ายอีกมากมาย นอกจากนี้เอมิเรตส์ยังมีศักยภาพในการขนส่งสินค้าในเส้นทางสู่ประเทศไทยสูงถึง 750 ตันต่อสัปดาห์ต่อเที่ยวบิน สายการบินได้ให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 ระหว่าง กรุงเทพฯ-ดูไบ และ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง ตั้งแต่ปี 2552 และได้ตอกย้ำความสำเร็จในประเทศไทย ด้วยการเปิดให้บริการเที่ยวบินตรงทุกวันสู่ภูเก็ตเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2555 จากนั้นจึงเพิ่มจำนวนเป็น 2 เที่ยวบินต่อวันในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 และตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2019 เป็นต้นมา สายการบินเอมิเรตส์ได้เปิดบริการเส้นทางการบินกรุงเทพฯ-พนมเปญ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสายที่เดินทางระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชาอีกด้วย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเที่ยวบินและการสำรองที่นั่ง สามารถเยี่ยมชม www.emirates.com/th หรือติดต่อ 02-664 1040
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit