คุณพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า "4 ปีที่ผ่านมา กลุ่มเซ็นทรัล ใส่ใจเรื่องการพัฒนาเด็กอย่างต่อเนื่อง จึงมุ่งมั่นสนับสนุนโครงการ 'Central-UNICEF Together for Every Child' ซึ่งสอดคล้องกับโครงการ 'เซ็นทรัลทำ' หรือกิจกรรมเพื่อสังคมของกลุ่มเซ็นทรัล ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนให้แก่พนักงานและคนทุกเพศวัยในสังคม โดยเฉพาะเด็ก สตรี คนชรา และผู้พิการ ทางกลุ่มเซ็นทรัลภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการที่ส่งเสริมความเข้าใจเรื่องการพัฒนาเด็กในช่วงปฐมวัยอย่างถูกวิธี เพื่อให้เด็กได้เติบโตขึ้นอย่างเต็มศักยภาพต่อไป"
ด้านนายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า "ด้วยสภาพสังคมที่เร่งรีบในปัจจุบัน ครอบครัวยุคใหม่อาจจะไม่ได้ดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยอย่างเต็มที่ บวกกับความรุดหน้าทางเทคโนโลยีและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ตลอดเวลา จนอาจทำให้การใช้เวลากับลูกน้อยลงกว่าเดิม และส่งกระทบต่อการสร้างเสริมพัฒนาการของเด็ก ผลสำรวจพบว่าเกือบ 1 ใน 5 ของเด็กไทยที่อายุน้อยกว่า 4 ปี ไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่ทั้งที่เป็นวัยที่ต้องการดูแลอย่างใกล้ชิด ในขณะเดียวกัน พ่อแม่จำนวนมากอาจยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลี้ยงลูก โดยยังมีพ่อแม่และผู้ดูแลเด็กเกือบครึ่งที่เห็นว่าการลงโทษทางร่างกายถือเป็นการฝึกวินัยที่ดีให้กับเด็ก ดังนั้น หนึ่งในภารกิจหลักของยูนิเซฟ คือการรณรงค์ให้ความรู้พ่อแม่ผู้ดูแลเด็กถึงวิธีการเลี้ยงดูลูกที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัย เพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดเนื่องจากสมองพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเป็นโอกาสที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะสามารถวางรากฐานการเรียนรู้ให้กับเด็กไปตลอดชีวิตได้"
พญ.จิราภรณ์ อรุณากูร กุมารแพทย์เวชศาสตร์วัยรุ่น คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี และเจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน กล่าวว่า "พ่อแม่ผู้ปกครองควรเข้าใจเรื่องการทำงานของสมองของเด็กและธรรมชาติของเด็กว่า สมองของเด็กจะมีการพัฒนาส่วนอารมณ์เร็วกว่าส่วนของเหตุผล หน้าที่ของพ่อแม่ คือการช่วยให้เด็กใช้สมองส่วนเหตุผลมากขึ้น ช่วยให้เขารู้จักควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นผ่านการเลี้ยงลูกเชิงบวก ซึ่งมีหลักการอยู่ 4 ข้อ ได้แก่
1) การเข้าใจธรรมชาติของเด็ก
2) การมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก เช่น ให้เวลาคุณภาพ กับเด็ก เล่น และทำกิจกรรมกับลูก รับฟังลูก
3) การสื่อสารเชิงบวก การคุยกับลูกอย่างใจเย็นให้ลูกรู้สึกตนเองเป็นที่รัก มีพ่อและแม่อยู่เคียงข้าง และ
4) การฝึกวินัยเชิงบวกเพื่อให้ลูกรู้จักกติกาและรู้ว่าสิ่งใดควรทำหรือไม่ควรทำ แทนที่จะลงโทษด้วยวิธีรุนแรง เช่น ตี ดุด่า ขู่ให้กลัว หรือเปรียบเทียบกับคนอื่น ซึ่งวิธีการเชิงลบนี้ จะส่งผลเสียต่อการพัฒนาสมองและอาจส่งผลต่อพฤติกรรมในระยะยาว"
ในฐานะ Friend of UNICEF พอลล่า เทย์เลอร์ บัทส์เทอรี่ คุณแม่ลูกสาม กล่าวว่า "สิ่งสำคัญ 3 อย่างที่จะช่วยให้สมองของเด็กพัฒนาได้เต็มที่ คือ โภชนาการที่ดี การเล่น และความรักและความเอาใจใส่จากพ่อแม่และครอบครัว และคนสำคัญที่จะทำให้เด็กมี 3 สิ่งนี้ก็คือพ่อแม่ และพ่อแม่ก็ยังเป็นของเล่นที่ดีที่สุดของลูกอีกด้วย เวลาลูกๆ อยากเล่นอะไร พอลล่าจะลงไปเล่นกับพวกเขาด้วยกันเลย เรื่องนี้สำคัญมากและเป็นเรื่องที่ลูกๆ จะจดจำมากที่สุดตอนที่พ่อแม่มาเล่นกับเขา"
ในปีนี้ งานเอ็กซ์โป #EatPlayLove มหัศจรรย์ พลังครอบครัว จะเวียนไปจัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลมากกว่า 11 แห่งทั่วประเทศ โดยจัดขึ้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวเป็นแห่งแรก ระหว่างวันที่ 12-19 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ดูแลเด็กเล็กในช่วงปฐมวัยอย่างถูกวิธี ผ่านการติดตามข้อมูลได้ที่ www.centralgroup.com และ http://www.unicef.or.th/eatplaylove
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit