ตอบแทนสังคมด้วยจุดเริ่มต้นเล็กๆ กับ CARE Station ร้านสะดวกซื้อรักโลก จากความใส่ใจของ Carenation – Refill Station – PAVA architects ลดการสร้างมลพิษ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนข้างหลังอย่างยั่งยืน

จากกระแสรักษาสิ่งแวดล้อมที่มีมาอย่างต่อเนื่องดังจะเห็นได้ชัดจากการลดใช้ถุงพลาสติก หลอดพลาสติก และ แก้วน้ำพลาสติก ที่เริ่มต้นกันอย่างจริงจังในปี 2563 นี้ ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของการหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันอย่างจริงจัง จึงเป็นอีกหนึ่งที่มาของการปั้น CARE Station (แคร์ สเตชั่น) ร้านสะดวกซื้อรักโลก ลดการสร้างมลพิษ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนข้างหลังอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นโปรเจกต์สร้างสรรค์สังคมภายใต้แนวคิด "ถ้าคุณจะตายวันพรุ่งนี้ คุณอยากทิ้งอะไรไว้เบื้องหลัง?" เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของความใส่ใจทั้งต่อผู้คนและโลกใบนี้ และตอกย้ำให้คนหันมาใส่ใจโลกมากขึ้น โดยเริ่มเปิดบริการในงาน Bangkok Design Week 2020 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป ณ ร้าน CARE Station สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เอกมัย

สำหรับโปรเจกต์ CARE Station นับเป็นการจับมือกันระหว่าง Carenation (แคร์เนชั่น) ธุรกิจเพื่อสังคมที่โด่งดังจากโปรเจกต์ "พวงหรีดสานบุญ by Carenation" พวงหรีดกระดาษดีไซน์สร้างสรรค์ที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ Refill Station (ริฟิล สเตชั่น) ผู้จำหน่ายสินค้าทางเลือกที่ผลักดันเรื่องไลฟ์สไตล์ที่เป็นมิตรกับโลก และ PAVA architects (ภาวะ อาร์คิเทคส์) สถาปนิกที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบอย่างยั่งยืน ได้หันมาจับมือกันใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร จนกลายมาเป็น "ร้านสะดวกซื้อ" ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายภายในร้านทุกชิ้นยึดแนวคิด "ความยั่งยืน" ตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัย ทางออก 3-4 ซึ่งออกไปยังวัดธาตุทองและศูนย์การค้าเกตเวย์ สถานที่ทำบุญและอีกหนึ่งจุดนัดพบที่สำคัญย่านสุขุมวิท สำหรับบริการของ CARE Station ประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ Refill Station จำหน่ายของใช้เก๋ไก๋ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบรีฟิลที่ให้ลูกค้านำบรรจุภัณฑ์มาเติมเองหลากหลาย เช่น สบู่เหลวอาบน้ำ แชมพู น้ำยาซักผ้า ฯลฯ พวงหรีดสานบุญ by Carenation โชว์เคสพวงหรีดกระดาษแนวใหม่และรับสั่งจองพวงหรีด และ Online Donation Station จุดรับบริจาคแบบออนไลน์ เพื่อส่งต่อคุณภาพชีวิตไปยัง CARE Partners องค์กรการกุศลและโรงพยาบาลต่างๆ

CARE Station จึงไม่เป็นเพียงร้านสะดวกซื้อ แต่เรายังเป็นต้นแบบของการส่งเสริมแนวคิดลดการใช้ขยะในชีวิตประจำวัน ส่งเสริมให้ทุกการจับจ่ายใช้สอยได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม และสามารถส่งผลดีต่อสังคมในวงกว้าง เป็นพื้นที่แห่งการใส่ใจ หรือ "Caring Space" ที่ไม่ใช่แค่เพียงใส่ใจในการผลิต การใช้ แต่ยังใส่ใจไปถึงการจำหน่ายหน้าร้าน จนครบทุกกระบวนการ

Carenation (แคร์เนชั่น) เป็นโปรเจกต์ที่ก่อตั้งโดย ปริชญ์ รังสิมานนท์ และ สรณัญช์ ชูฉัตร สองผู้บริหารรักโลก ที่มีความตั้งใจที่อยากจะตอบแทนโลกใบนี้ โดยเริ่มต้นโครงการ "พวงหรีดสานบุญ by Carenation" พวงหรีดที่ผลิตจากกระดาษรีไซเคิลและป่าปลูกทดแทนสำหรับทำกระดาษโดยเฉพาะ อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีที่ออกแบบพวงหรีดให้ทันสมัย ลดขยะและลดภาระทางสิ่งแวดล้อม หรีดทุกพวงผ่านการทำด้วยมือของชาวบ้านในชุมชน เพื่อเสริมสร้างอาชีพให้กับชุมชน ที่สำคัญ การซื้อพวงหรีดทุกพวงจะมีสัดส่วนเงินบริจาคอย่างชัดเจน เพื่อมอบให้กับมูลนิธิและโรงพยาบาลต่างๆ ที่ลูกค้าเลือกเองได้ เช่น คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, มูลนิธิกระจกเงา ฯลฯ พร้อมมีใบเสร็จการบริจาคที่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ให้โอกาสการจากไปของใครสักคน ได้ยกระดับชีวิตของอีกหลายคนที่ยังคงมีชีวิตอยู่อีกด้วย

ด้าน Refill Station (รีฟิล สเตชั่น) หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งร้าน CARE Station ถือเป็นผู้นำและแรงบันดาลใจของร้านค้าในรูปแบบรีฟิลเพื่อลดการสร้างขยะพลาสติก โดยอุษาทิพย์ กันสิทธิ์ Area Manager ของร้านเล่าว่า ลูกค้าสามารถนำบรรจุภัณฑ์มาเติมสินค้าเองได้ในปริมาณที่ต้องการ พร้อมน้ำยาที่คัดสรรมาอย่างดีว่าเป็นมิตรต่อทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงของใช้ต่างๆ ที่ส่งเสริมไลฟ์สไตล์ไม่สร้างขยะ เช่น กล่องข้าวพับได้ ขวดน้ำซิลิโคน แปรงสีฟันไม้ไผ่ เป็นต้น ซึ่งสาขานี้นับเป็น Refill Station สาขาแรกที่ตั้งอยู่ในบริเวณสถานีรถไฟฟ้าอีกด้วย

นอกจากนี้ร้าน CARE Station แห่งนี้ ยังได้รับการออกแบบโดย PAVA architects (ภาวะ อาร์คิเทคส์) จากฝีมือของ 2 สถาปนิกรุ่นใหม่ พชรพรรณ รัตนานคร และ วารัตน์ ลิ่มวิบูลย์ ที่ตั้งใจรังสรรค์ให้พื้นที่นี้เป็นจุดเชื่อมต่อความใส่ใจของเราต่อสิ่งรอบตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ Sustainability หรือความยั่งยืน โดยให้ส่วนประกอบต่างๆ ในร้านคงแนวคิดความยั่งยืนไว้ทุกส่วน ตั้งแต่ชั้นวางของที่ทำจากไม้อัดยางและข้อต่อไม้เนื้อแข็งที่หาได้ง่ายตามท้องตลาดและใช้ในงานก่อสร้างโดยทั่วไป รวมทั้งโครงสร้างพื้น ผนัง ประตู และดวงโคม ทั้งหมดล้วนถูกออกแบบให้เหลือเศษวัสดุทิ้งน้อยที่สุด และติดตั้งแบบ Dry Process (ดราย โพรเซส) ซึ่งไม่ใช้กาวในการประกอบ ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถถอดประกอบได้ง่าย ทำให้นำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยไม่เกิดความเสียหาย พื้นที่แห่งนี้จึงมีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เข้ากับวิถีชีวิตในเมืองที่เร่งรีบและรวดเร็ว นอกจากนี้ CARE Station ยังถูกออกแบบให้เข้าถึงได้ง่ายและมองเห็นได้ชัดเจน พร้อมกับความเรียบง่ายขององค์ประกอบต่างๆ ในร้าน จะส่งเสริมให้การเลือกซื้อสินค้าจาก Carenation และ Refill Station สะดวกยิ่งขึ้น

สำหรับ CARE Station เปิดบริการเป็นครั้งแรกในงาน Bangkok Design Week 2020 ตั้งแต่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป และจะเปิดบริการทุกวัน เวลา 11:00 น. – 20:00 น. ณ สถานีรถไฟฟ้า บีทีเอสเอกมัย ภายในสถานีใกล้ทางออก 3-4 (วัดธาตุทอง-ศูนย์การค้าเกตเวย์) โดยมีความตั้งใจที่จะสะท้อนเจตนารมณ์ การทำผลงานดีไซน์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ที่สามารถช่วยออกแบบชีวิตให้ยั่งยืนได้ในระยะยาว ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ทาง facebook.com/CarenationThailand

HTML::image( HTML::image( HTML::image(

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit