ทั้งนี้ระบบ API จะทำหน้าที่ในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเคลมของผู้เอาประกันที่ไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยสามารถใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถเช็กสิทธิ์และใช้สิทธิ์ตามกรมธรรม์ เรียกร้องสินไหมทดแทนโดยไม่ต้องสำรองจ่ายเงิน ซึ่งในปัจจุบันจะเริ่มใช้กับผู้เอาประกันภัยกลุ่มที่รักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และเตรียมเปิดให้บริการแก่ผู้เอาประกันภัยรายเดี่ยวที่รักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยนอกเร็ว ๆ นี้ โดยในอนาคตยังจะขยายการให้บริการไปยังผู้เอาประกันภัยกลุ่มและรายเดี่ยวที่รักษาพยาบาลแบบผู้ป่วยใน (IPD) อีกด้วย
"ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นับเป็นการพัฒนานวัตกรรมด้านการบริการครั้งสำคัญและเป็นจุดเริ่มต้นในการยกระดับการเคลมให้เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์เคลม(E-Claim) เพื่อช่วยตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคปัจจุบันผ่านระบบเทคโนโลยี ที่จะมาช่วยเพิ่มคุณภาพการบริการและอำนวยความสะดวกรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้น พร้อมมั่นใจได้ถึงความโปร่งใส และความปลอดภัยของข้อมูล" นายสาระ กล่าว
นพ.พณะ จันทรกมล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับเมืองไทยประกันชีวิต นำร่องใช้ระบบ API เพื่อยกระดับบริการผู้ป่วยนอก หรือ OPD ของโรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนลสำเร็จแห่งแรกในครั้งนี้เพราะนอกจากที่โรงพยาบาลมุ่งมั่นพัฒนาด้านการรักษาผู้ป่วยภายใต้มาตรฐานสากลมาโดยตลอดในเรื่องของด้านบริการเพื่ออำนวยความสะดวกก็สำคัญเป็นอย่างยิ่งและการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยนี้ ทำให้เกิดผลดีหลายด้าน ทั้งด้านบริการที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วย และรวดเร็วมากขึ้น ผู้ใช้บริการสามารถวางใจได้ เพราะข้อมูลที่ทำผ่านระบบนั้น อยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่เชื่อถือได้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าประกันได้อย่างครบครันและได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ ยังช่วยในด้านของการรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด เดินหน้าธุรกิจแบบใส่ใจโลก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นนโยบายที่โรงพยาบาลกำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในองค์กร เพื่อพัฒนาองค์กรให้เป็น Eco-friendly Office เพราะระบบ APIทำให้โรงพยาบาลลดการใช้กระดาษได้อีกด้วย
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit