แม้จะได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผกผัน 1,063 ล้านบาท (51 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) จากตลาดขนส่งทางอากาศ (เฟรท) ระหว่างประเทศที่อ่อนตัวลงและวิกฤตในฮ่องกง 68 ล้านบาท (68 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) และค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขายเทอร์มินัล (อาคารผู้โดยสาร) ภายในประเทศ 55 ล้านบาท (1,147ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) แต่ผลประกอบการแควนตัสกรุ๊ปยังแข็งแกร่งอยู่ซึ่งเกิดจากหลากหลายปัจจัยได้แก่ ความมีวินัยในการดำเนินงาน โครงการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานที่ยังคงดำเนินต่อไป และการเติบโตด้านส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดหลักๆ หลายแห่ง โดยแควนตัสกรุ๊ปได้ปรับกลยุทธ์ครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2563 จากผลกระทบในการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยการปรับลดเที่ยวบินในตลาดที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังคงความยืดหยุ่นในการสามารถปรับเพิ่มหรือลดเที่ยวบินตามความเหมาะสม
มร.อลัน จอยส์ ประธานกรรมการบริหาร แควนตัส กรุ๊ป เผยถึงผลการดำเนินในรอบครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2563 ว่า "แควนตัสกรุ๊ปพอใจผลประกอบการจากการดำเนินงานในครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2563 ที่ยังคงดีและการดำเนินงานของเรายังมีความแข็งแกร่งอยู่ ในตลาดภายในประเทศออสเตรเลียเราประสบกับดีมานด์ด้านการเดินทางที่ลดลงและการเปลี่ยนแปลงจากการขายเทอร์มินัล (อาคารผู้โดยสาร) ภายในประเทศ อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วการดำเนินงานของทั้งสายการบินแควนตัสและสายการบินเจ๊ทสตาร์เป็นไปด้วยดี สำหรับในตลาดต่างประเทศ รายได้การเติบโตของผู้โดยสารได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในฮ่องกงและผลกระทบของตลาดขนส่งทางอากาศ (เฟรท) จากสงครามการค้า ส่วนในเส้นทางระยะไกลพิเศษเพิร์ธ-ลอนดอนยังคงมีทิศทางที่สดใส และในส่วนของแควนตัสรอยัลตี้มีผลประกอบการดีเช่นเดียวกัน โดยการยกเครื่องโปรแกรมสะสมคะแนนแควนตัสฟรีเคว่นฟลายเออร์ได้ช่วยยกระดับปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกเพิ่มมากขึ้นซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในความสำเร็จของโปรแกรมในระยะยาว"
โดยพื้นฐานแล้วเส้นทางบินภายในประเทศออสเตรเลียแควนตัสกรุ๊ปยังคงความแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามความผันผวนที่เกิดขึ้นทำให้รายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีลดลง 981ล้านบาท (47 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ไปอยู่ที่ 13,455 ล้านบาท (645 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในการนี้มีสัญญาณบวกจากดีมานด์การเดินทางในช่วงไตรมาสที่สอง
เส้นทางบินภายในประเทศออสเตรเลียมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายสนามบินเพิ่มสูงขึ้นทำให้รายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีลดลงร้อยละ 2.7 ไปอยู่ที่9,701 ล้านบาท (465 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) สายการบินแบบพรีเมี่ยมยังคงมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดองค์กรรวมถึงตลาดเอสเอ็มอีคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ26 สำหรับสมาชิกแควนตัสบิสสิเนสรีวอร์ดส (Qantas Business Rewards) รายได้จากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ยังคงมีอัตราการเติบโตโดยคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังของงบประมาณในปีนี้จะเติบโตร้อยละ 10 รวมทั้งแควนตัสกรุ๊ปกำลังประเมินการเพิ่มเครื่องบินแอร์บัส A320 ไปให้บริการในตลาดรัฐออสเตรเลียตะวันตก
สายการบินเจ๊ทสตาร์เส้นทางภายในประเทศออสเตรเลียมีรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีคิดเป็น 3,751 ล้านบาท (180 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ลดลงร้อยละ 16 เนื่องจากดีมานด์ในตลาดลดลง รวมทั้งความผกผันจากอัตราแลกเปลี่ยนและเหตุประท้วงหยุดงาน อย่างไรก็ตามเจ๊ทสตาร์มีรายได้ผู้โดยสารต่อคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และจากสมาชิกคลับเจ๊ทสตาร์ (Club Jetstar) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10
แควนตัสกรุ๊ปเส้นทางบินต่างประเทศมีรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้น 84 ล้านบาท (4 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ไปอยู่ที่ 3,375 ล้านบาท (162 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยสายการบินแควนตัสเส้นทางบินต่างประเทศมีรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 ไปอยู่ที่ 2,541 ล้านบาท (122 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากรายได้ต่อหน่วยมาจากการที่สายการบินคู่แข่งลดจำนวนเที่ยวบินลงราวร้อยละ 2 นอกจากนั้นสายการบินแควนตัสยังได้ประโยชน์เพิ่มจากการเปลี่ยนเครื่องบินที่ให้บริการจากโบอิ้ง 747 เป็นโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์และการเปิดให้บริการเที่ยวบินระยะไกลพิเศษ เส้นทางบินเพิร์ธ-ลอนดอนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีรวมทั้งการเปิดเที่ยวบินใหม่บริสเบนไปชิคาโกและซานฟรานซิสโกที่เริ่มจำหน่ายตั๋วโดยสารในครึ่งปีแรก และการร่วมมือทางธุรกิจกับสายการบินอเมริกันแอร์ไลน์สซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย
แควนตัสรอยัลตี้ยังคงเดินหน้ามีกำไรด้วยผลการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ไปอยู่ที่ 4,080 ล้านบาท (196 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยการยกเครื่องโปรแกรมสะสมคะแนนฟรีเคว่นฟลายเออร์ได้ช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกได้ดียิ่งขึ้น มีสมาชิกที่ไม่เคยแลกคะแนนสะสมระยะทางมาก่อนแลกคะแนนเป็นการเดินทางในช่วงเวลา 18 เดือนที่ผ่านมากว่า 400,000 เที่ยวบิน มีที่นั่งในห้องโดยสารพรีเมี่ยมจากการแลกคะแนนเพิ่มขึ้นร้อยละ 22 รวมถึงการใช้เครดิตการ์ดและจำนวนลูกค้าจากซูเปอร์มาเก็ตวูลเวิร์ทส (Woolworths) ที่เพิ่มขึ้นซึ่งมาจากการเป็นพันธมิตรร่วมกันด้วย นอกจากนั้นยังมีรายได้ในธุรกิจใหม่ ได้แก่ เครดิตการ์ดแควนตัส ประกันสุขภาพ และความร่วมมือด้านประกันภัยรถยนต์ที่เปิดตัวในเดือนตุลาคมที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นด้วย
ในปีงบประมาณครึ่งปีแรกแควนตัสกรุ๊ปบรรลุเป้าทุกประการ โดยเงินสดหมุนเวียนที่มีความแข็งแกร่งได้ช่วยให้หนี้สุทธิอยู่ในระดับต่ำที่ 110,479 ล้านบาท (5,300 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) โดยหนี้มีการปรับลดดีขึ้นและสภาพคล่องด้านเงินสดในระยะสั้นยังมีความแข็งแกร่งอยู่ที่ 35,435 ล้านบาท (1,700 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) และอีก20,851 ล้านบาท (1,000 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ในทรัพย์สินอื่นที่ไม่สามารถถอนได้
ในปีงบประมาณครึ่งปีแรก สายการบินแควนตัสเส้นทางบินต่างประเทศได้รับการส่งมอบเครื่องบินโบอิ้ง 787-9 จำนวน 3 ลำ ทำให้มีเครื่องบินรุ่นนี้ประจำฝูงบินทั้งหมด 11 ลำ รวมทั้งมีการปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง 747 จำนวน 1 ลำ และมีอีก 6 ลำที่รออยู่ ส่วนในโครงการซันไร้ซ์ แควนตัสได้เลือกเครื่องบินแอร์บัส A350-1000 โดยมียอดสั่งซื้อมากถึง 12 ลำ ขึ้นอยู่กับการสรุปยอดในเชิงธุรกิจโดยคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2563
ในครึ่งปีแรกปีงบประมาณนี้ แควนตัสกรุ๊ปมีกำหนดจ่ายเงินปันผลและการซึ้อหุ้นจากตลาดเป็นเงิน 13,460 ล้านบาท (647 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ตามกรอบด้านการเงิน แควนตัสกรุ๊ปมีมติจ่ายเงินปันผลเพิ่มอีก 7,307 ล้านบาท (351 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) เพิ่มขึ้น 3.75 บาท (13.5 เซนต์) ต่อหุ้น (เพิ่มขึ้นจาก 2.50 บาท (12 เซนต์) ในปีงบประมาณครึ่งปีแรกปี 2562) โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 9 เมษายน 2563 ตามเวลาบันทึก ณ 3 มีนาคม 2563 และในส่วนของการซื้อหุ้นคืนอีก 3,126 ล้านบาท (150 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย)
เมื่อมีดีมานด์ลดลงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แควนตัสกรุ๊ปได้ดำเนินการทันที โดยมร.จอยส์ กล่าวว่า "การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้แควนตัสกรุ๊ปยกเลิกเที่ยวบินไปประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนชั่วคราว และในเส้นทางอื่น เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยขณะนี้เราได้ปรับลดเที่ยวบินไปเอเชียจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมลงราวร้อยละ 15 และจากการที่ต้องปรับลดเที่ยวบินในบางเส้นทางลงทำให้กระทบบุคลากรของเราบางส่วน โดยเราเปิดโอกาสให้หยุดพักร้อนประจำปี นอกจากนั้นดีมานด์การเดินทางภายในประเทศออสเตรเลียช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้มีอัตราลดลงในการนี้แควนตัสกรุ๊ปได้ปรับเที่ยวบินสายการบินแควนตัสและสายการบินเจ๊ทสตาร์ในช่วงครึ่งปีหลังปีงบประมาณ 2563 ลดลงร้อยละ 2 อย่างไรก็ตามเส้นทางสำคัญๆ อย่างเช่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด"
"สิ่งสำคัญในการดำเนินงานของแควนตัสกรุ๊ปคือการที่เรามีความยืดหยุ่นในการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เราสามารถปรับลดจำนวนเที่ยวบินได้ และในขณะเดียวกันก็สามารถปรับเพิ่มจำนวนเที่ยวบินเมื่อมีความต้องการในการเดินทางกลับมา ซึ่งเราทราบดีว่าจะต้องกลับมา ท้ายที่สุดเมื่อมองในมุมกว้างแล้ว แควนตัสกรุ๊ปเรายังมีความแข็งแกร่งกว่าผู้ประกอบการอีกหลายๆ ราย ซึ่งช่วยให้เรามีความมั่นใจในธุรกิจของเราแม้ว่าจะมีปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ จากภายนอกก็ตาม" มร.จอยส์กล่าว
จากสภาวการณ์ต่างๆ เช่น การลดเที่ยวบินและค่าใช้จ่ายด้านน้ำมันที่ลดลงทำให้แควนตัสกรุ๊ปคาดการณ์ว่า ภาพรวมผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2563 จะอยู่ที่ราว 2,079-10,388 ล้านบาท (100-500 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย) ก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี ทั้งนี้เป็นการคาดการณ์ตามสถานการณ์ปัจจุบันโดยจะมีการอัพเดทอีกครั้งในการประกาศการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ในเดือนเมษายน
การคาดการณ์ปัจจุบันสำหรับปีงบประมาณ 2563
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit