นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CPL ผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้โปรดักส์) ภายใต้แบรนด์ "แพงโกลิน" ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ CPL กำลังศึกษาธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Internet of Thing หรือ IoT เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม ที่ปัจจุบันต้องการการบริการด้านระบบเทคโนโลยี เพื่อให้การทำงานในส่วนต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ต้องยอมรับว่า ธุรกิจฟอกหนัง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักและดั้งเดิมของ CPL นั้นอยู่ในภาวะซบเซาต่อเนื่องยาวนาน แม้ว่าล่าสุดจะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากคำสั่งซื้อของลูกค้าหลักๆ ที่ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง แต่ก็ยังอยู่ในช่วงของการประคองตัว บริษัทฯ จึงมองหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามาเสริม นอกเหนือจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลหรือเซฟตี้ โปรดักส์ ภายใต้แบรนด์ "แพงโกลิน" ที่เราเชื่อว่ายังมีโอกาสขยายตัวตามโครงการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่องบประมาณรายจ่ายปี 2563 ผ่านการพิจารณาและจะมีการกระตุ้นการเบิกจ่ายมากขึ้น โดยในปีนี้ตั้งเป้าหมายว่า รายได้จากธุรกิจเซฟตี้ โปรดักส์ จะเติบได้ 10% จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้ราว 700 ล้านบาท ซึ่งจากการให้บริการด้านเซฟตี้ โปรดักส์ ของแพงโกลิน ทำให้เรามีความเชี่ยวชาญและคุ้นเคยกับหน่วยงานภาคอุตสาหกรรม ทำให้รู้ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้ และเห็นช่องทางการขยายธุรกิจใหม่ในกลุ่ม IoT ภายใต้การขับเคลื่อนของ CPL" นายภูวสิษฏ์กล่าว
ทั้งนี้ เบื้องต้นพบว่า ฐานลูกค้ามีความต้องการบริการด้านการติดตามตรวจสอบด้านความปลอดภัยเชิงรุก (Active Safety Monitoring) และสนใจด้านการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตภายใน บริษัทฯ จึงได้ตั้งแผนกธุรกิจ Engineering Solution ซึ่งดำเนินการภายใต้แบรนด์ "แพงโกลิน" เพื่อศึกษาปัญหา ความต้องการและพัฒนา IoT Solution เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าในภาคอุตสาหกรรม พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอุปกรณ์ตรวจสอบด้านความปลอดภัยเชิงรุกสำหรับให้บริการกับลูกค้าในกลุ่มดังกล่าว โดยล่าสุด แพงโกลินเริ่มทำการตลาดติดตั้งระบบดับเพลิงและอุปกรณ์กันตกจากที่สูง ซึ่งเป็นการรับงานในลักษณะงานโครงการ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพีแอล กรุ๊ป กล่าวด้วยว่า ในเบื้องต้นบริษัทฯ ยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายรายได้หรือยอดขายจากธุรกิจใหม่ โดยรายได้หลักของ CPL ยังมาจากธุรกิจฟอกหนังและธุรกิจเซฟตี้ โปรดักส์ อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่า ช่องทางธุรกิจใหม่ในกลุ่ม IoT นั้น มีโอกาสเติบโตจากความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเสริมระบบการทำงานเดิมให้มีประสิทธิภาพขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการกระบวนการผลิตที่ดีขึ้น แต่ยังรวมถึงการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัย การควบคุมต้นทุนการผลิต การแจ้งเตือนเรื่องการซ่อมบำรุงและอื่นๆ ซึ่งสอดรับไปกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
เกี่ยวกับ ซีพีแอล กรุ๊ป
CPL เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในผู้ผลิตหนังวัวฟอกสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของแบรนด์ชั้นนำของโลก อาทิเช่น อาดิดาส (ADIDAS), ลาคอสต์ (LACOSTE), ทิมเบอร์แลนด์ (TIMBERLAND), พูม่า (PUMA) และอื่นๆ ที่สั่งซื้อเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตรองเท้ากีฬา และรองเท้าลำลอง ซึ่งปัจจุบัน ปริมาณการผลิตหนังวัวฟอกสำเร็จรูปของบริษัทฯ อยู่ที่ 2.5 ล้านตารางฟุตต่อเดือน คิดเป็นการใช้กำลังการผลิตราว 85% โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ จีน, เวียดนาม, อินโดนีเซีย และอินเดีย รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่เป็นฐานการผลิตรองเท้าแบรนด์ชั้นนำ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจด้วยการผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ได้แก่ รองเท้านิรภัย (Safety Shoes) ภายใต้แบรนด์ "แพงโกลิน" และสินค้าอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) ซึ่งนำเข้าจากต่างประเทศ-จัดซื้อภายในประเทศ รวมทั้งเป็นสินค้ารับจ้างผลิต (OEM)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit