ก่อนหน้านี้บริษัทได้จัดส่งหนังสือถึงพนักงาน ใจความสำคัญคือเรียกให้พนักงานเข้าไปรายงานตัวว่า ตนเป็นพนักงานของบริษัท ณ สำนักงานใหญ่ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งเดียวของบริษัท ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายมาโดยตลอด คือ เลขที่ 33/4 อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ ชั้น 29 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และเพื่อชี้แจงถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในส่วนบริหาร โดยบริษัทไม่มีนโยบายให้แบ่งแยกออฟฟิศออกเป็นหลายแห่งหรือทำงานนอกสถานที่ เพราะต้องการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
โดยในช่วงเช้าวันพุธที่ 28 สิงหาคม 2562 นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ อดีตกรรมการ IFEC ที่ปัจจุบันไม่ได้มีอำนาจใดๆในบริษัทแล้ว ซึ่งเป็นไปตามประกาศ ก.ล.ต. และมิได้มีรายชื่อปรากฎในหนังสือรับรองบริษัทได้มายื่นเอกสาร แจ้งให้บริษัทจ่ายค่าระบบสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยนายทวิชได้ไปต้อนรับทั้งสอบถามว่า "ทำไมส่งหนังสือมาหน้าเดียว ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย" และแจ้งถึงวิธีที่ถูกต้องว่าการจะจ่ายอะไรนั้นจะต้องมีรายละเอียดที่ชัดเจน ซึ่งนายวิชัยก็มิได้ส่งรายละเอียดมา
การที่นายวิชัยกับพวกส่งเอกสารมาขอเงินค่าใช้จ่ายนั้น จึงไม่มีเหตุผลอันสมควรที่บริษัทจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายตามคำสั่งนายวิชัยกับพวกแต่อย่างใด ทั้งก่อนหน้าหนี้ตั้งแต่ที่กรรมการและผู้บริหารภายใต้การนำของนายทวิช เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ก็ไม่เคยจ่ายเงินเดือนให้แก่กลุ่มบุคคลซึ่งอ้างตนว่าเป็นพนักงาน IFEC ไม่รู้จักหรือมีการปฎิบัติงานใดๆกับพนักงานกลุ่มดังกล่าว และไม่ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวได้รับเงินเดือนจากใครและใครเป็นผู้อนุมัติ หรือทำงานภายใต้การบริหารของใคร และพึ่งทราบว่ามีการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานบางกลุ่มเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนแล้ว ในขณะที่พนักงานส่วนที่เหลือไม่ได้รับการจ่ายเงินเดือน สร้างความไม่พอใจให้พนักงาน และต่อต้านไม่ฟังคำสั่งของคณะกรรมการชุดใหม่ที่ปฎิบัติหน้าที่โดยชอบธรรมเพื่อประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้น
ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีพนักงานบริษัทหลายราย ทยอยติดต่อขอเข้ามารายงานตัวต่อบริษัท ซึ่งบริษัทได้ชี้แจงให้ทราบ และพนักงานกลุ่มดังกล่าวก็มีการตอบรับที่ดีต่อบริษัท มิได้มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น หากแต่ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2562 นายวิชัย 'ผู้ไม่มีอำนาจถูกต้องตามกฎหมาย-ไม่ดำรงตำแหน่งใดๆ และไม่ใช่พนักงานของ IFEC' ได้เรียกกลุ่มพนักงานให้ไปรวมตัวร้องเรียนที่ ก.ล.ต. และทำตัวเป็นแกนนำพากลุ่มพนักงานมาที่สำนักงานใหญ่ในช่วงบ่าย โดยมิได้มาในลักษณะของพนักงานมารายงานตัวตามที่บริษัทได้มีหนังสือแจ้งไปยังพนักงานเป็นรายบุคคล หากแต่นำพนักงานประมาณ 20 กว่าคนรวมถึงบุคคลซึ่งไม่ใช่พนักงาน มาแสดงท่าทีคุกคามต่อบริษัทและพนักงานซึ่งปฎิบัติงานอยู่ในขณะนั้น ไม่ปฎิบัติตนในลักษณะที่วิญูญชนทั่วๆไปกระทำกัน เป็นข่าวเสียหายแก่บริษัท
พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่คณะกรรมการยอมรับไม่ได้และจะไม่นิ่งเฉย โดยจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อตอบโต้การกระทำอันไม่สมควรนี้
ทั้งนี้นายทวิชในนามบริษัทเคยให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการในบริษัทย่อยไปแล้วว่าคืบหน้ากว่า 75% เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ทั้งในสื่อออนไลน์และสื่อหนังสือพิมพ์ที่มีผู้อ่านและรับสารนั้นเป็นจำนวนมาก จึงไม่สมเหตุสมผลหากกลุ่มผู้อ้างตัวว่าได้รับความเสียหายจะกล่าวหาว่าบริษัทตั้งใจปกปิดไม่รายงานความคืบหน้า
นายทวิชกล่าวเพิ่มเติมว่า "ในฐานะตัวแทนคณะบริหาร ขอให้ผู้รับข่าวสารพิจารณารับข้อมูลอย่างระมัดระวังเพราะข้อมูลที่ไม่ได้ออกจากทางบริษัทอาจเป็นข้อมูลที่ปั้นแต่งขึ้นมาจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี ที่อาจเจตนาขัดขวางการแก้ไขปัญหาของบริษัท ส่วนเรื่องการไม่ได้รับเงินเดือน หากบุคคลเหล่านั้นเป็นพนักงานของบริษัทจริง ก็ขอเชิญให้มารายงานตัวตามหนังสือที่ได้ส่งแจ้งไว้ บริษัทจะเร่งพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามจริงเพราะเข้าใจว่าทุกคนก็มีภาระที่ต้องดูแลและมีสิทธิ์ได้รับเงินค่าจ้างตามที่ได้ทำงานมา แต่บริษัทก็ต้องตรวจสอบและทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามขั้นตอนด้วย ซึ่งผลจะออกมาช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือของพนักงานเอง"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit