นางจุฬารัตน์ นิรัติศยกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือเบโด้ (BEDO) กล่าวว่า "จากแนวนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือเบโด้ (BEDO) จึงได้ดำเนินงานพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ "ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว ตามหลัก BEDO Concept ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยส่งเสริมให้ประชาชนปลูกไม้ต่างๆ รวมทั้งไม้เศรษฐกิจในที่ดินกรรมสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของตนเอง ทั้งนี้ พื้นที่ตั้งจะต้องไม่ตั้งอยู่ในเขตของกรมป่าไม้ และ กรมอุทยานแห่งขาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งในการดำเนินการจะส่งเสริมให้เจ้าของพื้นที่ปลูกพันธุ์กล้าไม้ที่มีความสมบูรณ์และมีความเหมาะสมตามระบบภูมินิเวศ เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ โดยการปลูกพืชทุกระดับชั้น ปลูกพืชพื้นล่าง อาทิ สมุนไพร ไม้ดอก ไม้หัว และพืชผักพื้นบ้านต่างๆ ให้สามารถเก็บกินเก็บขายได้ พร้อมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนแหล่งพันธุกรรรมเพื่อการอนุรักษ์ สำคัญ คือ ส่งเสริมการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในการเป็นแหล่งวัตถุดิบ เพื่อนำมาต่อยอดเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์และบริการตาม BEDO Concept ซึ่งมีหลักสำคัญ 3 ประการ ได้แก่
1) การใช้ทรัพยากรชีวภาพชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นวัตถุดิบหลัก
2) การผลิตที่เป็นมิตรกับความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งแวดล้อม
3) การปันรายได้บางส่วนไปอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งทรัพยากรชีวภาพ
"ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว" จึงเป็นอีกหนึ่งกลไกของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ความสำคัญกับการเสริมกำลังให้กับเศรษฐกิจฐานราก นอกจากประชาชนจะอยู่ดีกินดี มีทรัพยากรที่มีความหลากหลายทางชีวภาพเป็นสินทรัพย์แล้ว ยังก่อให้เกิดการฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้ เพื่อเติมเต็มพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ร้อยละ 15 ตามแนวนโยบายของรัฐบาลสำหรับพื้นที่จังหวัดสกลนคร ถือเป็นชุมชนต้นแบบการสร้างพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ ในรูปแบบ"ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว" ตัวอย่างเช่น ชาวบ้านใน ต.บะฮี อ.พรรณานิคม และ ต.ท่าก้อน อ.อากาศอำนวย สมาชิกในชุมชนจะช่วยกันดูแลบริหารจัดการพื้นที่แบบผสมผสาน โดยปลูกพืชพื้นถิ่น พืชหัว พืชสมุนไพร และไม้ยืนต้น บนพื้นฐานระบบนิเวศเดิมที่เป็นป่าเต็งรัง ส่งผลให้ในปัจจุบันสภาพป่าครอบครัวของสมาชิกแต่ละรายมีความอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตหลากหลาย อุดมไปด้วยของป่าตามฤดูกาล เช่น สมุนไพร พืชหัว (อาทิ กระเจียว) เห็ด ผักหวาน ไข่มดแดง และแมลงทางเศรษฐกิจอีกหลายชนิด ที่สร้างรายได้และสร้างความสุขให้ชุมชนบนพื้นฐานความพอเพียง อีกทั้งได้ขยายเครือข่ายการดำเนินงานไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์และใกล้เคียงอีกด้วย ซึ่งชุมชนทั้ง 2 แห่งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชุมชนต้นแบบตามหลัก BEDO Concept ยังมีตัวอย่างชุมชนในอีกหลายพื้นที่ของจังหวัดสกลนครที่ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็งจากพืชท้องถิ่นและมรดกทางภูมิปัญญาจากการทอผ้า การย้อมคราม ซึ่งจะมาร่วมแบ่งปันข้อมูลและสร้างเครือข่าย"ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว" ร่วมกันในวันนี้ด้วย
ปัจจุบันได้เกิดพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ "ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว" จำนวน 2,431 ชุมชน แบ่งเป็นภาคเหนือ 828 ชุมชน ภาคกลาง 82 ชุมชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 830 ชุมชน ภาคตะวันออก 157 ชุมชน ภาคตะวันตก 258 ชุมชน ภาคใต้ 258 ชุมชน คิดเป็นจำนวน 119,538 ไร่"
สำหรับการจัดกิจกรรม Road Show สร้างการรับรู้การดำเนินงานพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ "ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว ตามหลัก BEDO Concept" ที่จัดขึ้นในวันนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้การใช้แอปพลิเคชันพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์"ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว" และรับทราบข้อมูลที่น่าสนใจในการดำเนินงานพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ "ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว ตามหลัก BEDO Concept" จากชุมชนต้นแบบหลายแห่ง อาทิ สกลนคร สงขลา สุพรรณบุรี พร้อมทั้งได้รับฟังเสวนาวิชาการจากผู้เชี่ยวชาญ เรียนรู้ถึงประโยชน์ของไม้มีค่าในท้องถิ่น ขั้นตอนในการดำเนินงานและแนวทางการนำไปสู่ความสำเร็จ สามารถนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์บนฐานความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเองได้อย่างอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการแจกกล้าไม้ และเมล็ดไม้ เพื่อให้ชุมชนที่มาร่วมงาน ได้นำกลับไปปลูกยังพื้นที่ของตนเองอีกด้วย
ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรม Road Show สร้างการรับรู้การดำเนินงานพื้นที่สีเขียวนอกเขตอนุรักษ์ "ชุมชนไม้มีค่า-ป่าครอบครัว ตามหลัก BEDO Concept" ไปยัง 4 ภูมิภาค โดยในครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2562 ณ วัดโป่งคำ จังหวัดน่าน และวันเสาร์ที่ 7 กันยายน 2562 ณ โรงแรมรามาการ์เด้นท์ กรุงเทพมหานคร
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit