โดยมีวัตถุประสงค์ในการลงนามโครงการดังกล่าว เพื่อศึกษาลักษณะทางอุทกวิทยา และอุทกธรณีวิทยา รวมทั้งงานศึกษาและวิเคราะห์ด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเศรษฐศาสตร์ เพื่อใช้ในการวางแผนการพัฒนาแหล่งน้ำใต้ดินมาใช้ในการผลิตน้ำประปาสำหรับอุปโภคและบริโภค ในพื้นที่เมืองดิลี ให้มีความเหมาะสมและยั่งยืนอีกทั้งการเข้ารับงานเป็นที่ปรึกษาดังกล่าวยังสอดคล้องกับแผนการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่คาดว่าจะเข้าประมูลงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศมูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้
ดังนั้นบริษัทจึงคาดว่าเป้ารายได้ในปี 2562 จะเติบโต 10-15% จากปี 2561 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,667 ล้านบาท เนื่องจากมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ประมาณ 3,200 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 30% และที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง
"การที่บริษัทได้รับงานโครงการศึกษาความเหมาะสมเบื้องต้นสำหรับแหล่งน้ำใต้ดินของประเทศติมอร์ เลสเต ยังแสดงถึงศักยภาพของบริษัทที่สามารถรับงานได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากในช่วงก่อนหน้านี้เราได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ "Kingdom Group" เพื่อร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart cities) และการเข้ารับงานอย่างต่อเนื่องนี้จะเป็นปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานของปีนี้ให้เป็นไปตามเป้าที่เราตั้งไว้" นายชวลิต กล่าว
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit