ตลอดระยะเวลา 5 วัน 4 คืน บรรยากาศภายในค่ายเต็มไปด้วยความสนุกสนาน เด็กๆ ได้ความรู้คู่ประสบการณ์ชีวิตผ่านกิจกรรม อาทิ เดินสำรวจธรรมชาติ, ดูพันธุ์ไม้ป่า, ศึกษาลำธาร และโลกของแมลง สัตว์ตัวเล็กที่รักษาสมดุลธรรมชาติ, ส่องนก, เล่นกีฬาชนเผ่า, นอนเต็นท์, ตักบาตร, ทดลองทำอาหาร และทำงานศิลปะจากวัสดุธรรมชาติ เป็นต้น โดยมีพี่เลี้ยงและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
งานนี้เหล่าบรรดาผู้ปกครองของเด็กๆ ที่เข้าร่วม "ค่ายเด็กใฝ่ดี" รุ่นที่ 16-17 เผยถึง ความรู้สึกและการเปลี่ยนแปลงของลูกๆ ตนเองก่อนและหลังเข้าค่าย ..ชมพรรณ กุลนิเทศ คุณแม่ของ เด็กชายนนทพัทธ์ กุลนิเทศ และเด็กหญิงนัทธมน กุลนิเทศ กล่าวว่า "ที่ตัดสินใจให้ลูกไปเข้าค่ายเด็กใฝ่ดี เพราะคิดว่าอยากให้ลูกมีความเข้าใจและได้ความรู้คู่กับความรักในธรรมชาติ และมิตรภาพ จากเพื่อนๆ และการดูแลของพี่ๆ ในค่าย หลังจากกลับมาลูกเล่าให้ฟังว่า ชอบที่ได้ฝึกทำหลายอย่างด้วยตัวเอง ได้อยู่กับธรรมชาติที่ปกติอยู่ในเมืองไม่มีโอกาสได้เห็นสักเท่าไหร่ การเข้าค่ายได้ไปจับหิน ดูใบไม้ ดูแมลงพันธุ์หายาก ที่ต้องเข้าไปดูในป่าที่อุดมสมบูรณ์เท่านั้นถึงจะได้เห็น และเข้าใจมากกว่าคำบอกเล่าหรืออ่านจากตำรา ลูกยังแชร์ให้คนในครอบครัวฟังอีกว่า แมลงหายากที่มีอยู่เฉพาะในป่าและธรรมชาติที่สมบูรณ์มีชื่ออะไรบ้าง ถ้าเราไม่ได้เข้าป่า ก็จะไม่มีทางได้เห็นและไม่รู้ว่าธรรมชาติของเราสมบูรณ์แค่ไหน และถ้าเราไม่ช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ พันธุ์ไม้ สัตว์ป่าก็จะสูญพันธุ์ในที่สุด"
ใจปลื้ม วงศ์เจริญ คุณแม่ของ เด็กชายวิธ อยู่วิทยา เผยถึงที่ตัดสินใจให้ลูกไปค่ายเด็กใฝ่ดี เพราะอยากให้ลูกได้ความรู้ที่ไม่ใช่จากในตำราหรือพ่อแม่บอกเล่าเพียงอย่างเดียว "แม่เห็นว่า การเรียนรู้คู่ธรรมชาติบางทีผู้ปกครองก็ไม่สามารถสอนได้ การให้เค้าได้ไปเจอของจริงและเรียนรู้ อยู่กับธรรมชาติและเพื่อนใหม่ จะช่วยให้ลูกได้ฝึกฝนตัวเอง ทั้งวิธีคิดและความรู้ นอกจากนี้ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดอีกอย่างก็คือ เค้ากล้าตัดสินใจในเรื่องพื้นฐานได้เองมากขึ้น ช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น อ่อนโยนขึ้น คือปกติน้องจะไปไหนมาไหนกับแม่ตลอด ยิ่งเค้าเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง เวลาจะคิดหรือตัดสินใจอะไรก็จะมาปรึกษาแม่ หลังจากเข้าค่ายลูกมีความมั่นใจในการคิดเพิ่มขึ้น และใช้เวลาว่างในช่วงปิดเทอมให้เป็นประโยชน์ได้มากกว่าการนั่งเล่นสื่อโซเชี่ยลอยู่ที่บ้านค่ะ"
ด้าน ทศพล จินันท์เดช คุณพ่อของ เด็กชายปีย์ จินันท์เดช เล่าว่า "ความตั้งใจในการไปเข้าค่ายของลูกในครั้งนี้ ก็เพราะอยากให้เค้าได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มีความมั่นใจ เพราะในมุมของพ่อ ความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ ซึ่งค่ายเด็กใฝ่ดีปลูกฝังให้เด็กๆ เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ธรรมชาติให้อะไรกับเรา และเราสามารถใช้ประโยชน์อะไรจากธรรมชาติได้บ้าง การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ต้องปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆ และสังคมที่ไม่เคยรู้จักให้ได้ ซึ่งทั้งหมดที่พูดมา ลูกได้ลองทำเองในค่ายมาแล้ว และเค้าก็มาแชร์ประสบการณ์ให้คนในบ้านฟัง รู้จักตั้งคำถาม ตอบคำถาม และกล้าแสดงออกมากขึ้น"
ได้ยินประสบการณ์ตรงแบบนี้แล้ว ผู้ปกครองที่กำลังมองหากิจกรรมทางเลือกให้ลูกๆ ได้ฝึกพัฒนาการ สร้างรากฐานทางความคิดและจิตใจที่หาในเมืองใหญ่ไม่ได้! สามารถสมัครเข้าร่วมค่ายเด็กใฝ่ดี รุ่นที่ 18 รุ่นที่ 19 และรุ่นที่ 20 ในเดือนตุลาคมนี้ ณ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงราย โดยกรอกใบสมัครออนไลน์ได้ที่ https://forms.gle/i7E3F6crTy8iqEfi7 หรือโทร.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณพร 081-466-9841 หรือ 02-252-7114 ต่อ 320 (ศูนย์พัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้), Facebook : Faidee Kids Camp ก่อน 30 กันยายน 2562 #ค่ายเด็กใฝ่ดี #faideekidscamp
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit