“RISE” เร่งสปีดขับเคลื่อนองค์กรด้วย Deep Tech จับมือพันธมิตรคอร์ปอเรท – เทคสตาร์ทอัพ พร้อมเดินหน้า “RISE Innovation Week 2019”

24 Sep 2019
RISE สถาบันเร่งสปีดนวัตกรรมองค์กรระดับภูมิภาค นำทัพจัด "RISE Innovation Week 2019" ระหว่าง วันที่ 23 – 27 กันยายน 2562 ประกาศผลักดันพร้อมเร่งสปีดให้กับองค์กรพันธมิตรด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงจากทั่วโลก ชูกลยุทธ์ "ซูเปอร์คอนเนกชั่น" เพื่อให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างหน่วยจากภาครัฐและเอกชน กับเทคสตาร์ทอัพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียไปในทิศทางเดียวกัน
“RISE” เร่งสปีดขับเคลื่อนองค์กรด้วย Deep Tech จับมือพันธมิตรคอร์ปอเรท – เทคสตาร์ทอัพ พร้อมเดินหน้า “RISE Innovation Week 2019”

นายแพทย์ศุภชัย ปาจริยานนท์ หรือ หมอคิด ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RISE กล่าวถึงการจัดงาน RISE Innovation Week 2019 ครั้งนี้ว่า "งานนี้นับเป็นงานสัมมนาที่รวมนวัตกรรมจากทั่วโลก และเชื่อมต่อเข้าหาองค์กรคอร์ปอเรท ที่ต้องการพัฒนาองค์กร ต่อยอดในอนาคตอย่างไม่หยุดนิ่ง เช่นเดียวกันกับ RISE ที่เราเป็นผู้เร่งสปีดนวัตกรรมองค์กร จึงมองเห็นโซลูชั่นใหม่ๆ นำมาปรับ ต่อยอด และสร้างสรรค์ให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ ที่น่าลงทุน โดยตลอด 5 วัน จะอยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์หลัก 3 ส่วน ได้แก่ 1) TOUR การจัดให้กับกลุ่มสตาร์ทอัพได้เยี่ยมชมองค์กร เพื่อให้เข้าใจถึงปัญหาและความต้องการขององค์กรและทรัพยากรที่องค์กรมีอยู่ สามารถนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆให้องค์กร 2) TALK ช่วงทอล์คจากเหล่าวิทยากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีขั้นสูงจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก และ 3) TALENT ช่วงเวลาที่เปิดโอกาสให้ทั้งกลุ่มคอร์ปอเรทและกลุ่มเทคสตาร์ทอัพได้พบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยน รวมไปถึงหารือทางธุรกิจกับองค์กรที่สนใจจะร่วมงานด้วยแบบตัวต่อตัว"

นายแพทย์ศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในแต่ละวันของ RISE Innovation Week 2019 มีเนื้อหา อาทิ วันที่ 23 กันยายน 2562 หัวข้อ Corporate Innovation การแสดงวิสัยทัศน์จากกลุ่มคอร์ปอเรทที่เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมองค์กร วันที่ 24 กันยายน 2562 หัวข้อ Robotics and IoT วันที่ 25 กันยายน 2562 หัวข้อ Quantum Technology วันที่ 26 กันยายน 2562 หัวข้อ Artificial Intelligence (AI) และวันที่ 27 กันยายน 2562 หัวข้อ Exponential Technologies ซึ่งประกอบด้วยประเด็นต่างๆ อาทิ Blockchain, Biotech, PharmTech, MedTech ซึ่งแต่ละวันจะเน้นเรื่องการนำเทคโนโลยีขั้นสูง หรือ Deep Tech มาใช้ในกลุ่มธุรกิจองค์กร โดยไฮไลต์ในครั้งนี้เรียกว่าอยู่ที่การจับคู่กลุ่มธุรกิจกับกลุ่มเทคสตาร์ทอัพที่ใช่เพื่อให้เขาเหล่านั้นได้มาเจอกันอย่างถูกที่ถูกเวลา"

ด้าน นายธนา สราญเวทย์พันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป AI and Robotics Ventures (ARV) บริษัทฯ ภายใต้ ปตท.สผ. กล่าวว่า "เมกะเทรนด์แห่งยุคนี้ในเรื่องของ Robotic และ IoT เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีความสำคัญต่อการก้าวทันแห่งโลกธุรกิจอย่างยิ่งยวด เรื่องเหล่านี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในวงกว้าง ทั้งองค์กรคอร์ปอเรทในอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ วงการเกษตร (AgTech), การศึกษา (EdTech), สุขภาพ (HealthTech) หรือแม้แต่พลังงาน (EnergyTech) ซึ่ง ARV เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดหานวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่องค์กรต่างๆ โดยเน้นในแง่ของพลังงาน เรามองเห็นว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่เราเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทยที่สามารถสร้างโดยฝีมือคนไทยและถูกใช้จริงมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น การใช้หุ่นยนต์โดรนใต้น้ำในการซ่อมบำรุงแทนการใช้คน ลดการเสี่ยงอันตรายได้เป็นอย่างดี ในชื่อ Autonomous Underwater Vehicle ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ใต้น้ำไร้สายฝีมือคนไทยตัวแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือแม้กระทั่งวงการเกษตร กับการใช้โดรนในการพ่นสารเคมี ซึ่งจะลดอัตราการเสี่ยงการเกิดโรคให้กับมนุษย์ในอนาคต ซึ่งการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มา จะเป็นผลดีในการจัดการ ทั้งการบริการ ซ่อมบำรุง ที่เราสามารถรู้ล่วงหน้าวางแผนและควบคุมในการซ่อมบำรุงตามระยะเวลาใช้งานได้

ศ.ดร.นพ.ภัทรชัย กีรติสิน ผอ. สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในวิทยากรรับเชิญ พูดถึงการนำ AI และ Robotics มาใช้ในวงการการแพทย์ว่า "ตอนนี้มีเทรนด์การพัฒนาแอปพลิเคชันแนว Telemedicine แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในโลกได้อย่างครอบคลุม อาทิ วัณโรค ซึ่งเป็นสาเหตุเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก ก็ยังไม่ได้มีการพูดถึงหรือพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาโรคนี้ รวมถึง Telemedicine ก็ไม่สามารถแก้ไขโรคนี้ได้จริง โดยส่วนตัวมองว่าแนวทางการประสานงานกัน ทั้ง 3 ฝ่าย คือ ฝั่งการรักษา ฝั่งเทคโนโลยี และผู้ลงทุน ควรมีจุดเชื่อมกันเพิ่มขึ้น เช่น การได้มาพบกัน หน่วยงาน หรือเวที ที่รวม นักวิทยาศาสตร์สายสุขภาพ นักพัฒนาเทคโนโลยี โดยควรเป็นการลงทุนระยะยาว ที่ไม่ควรฉาบฉวย ซึ่งต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมหาศาล เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ได้ผลมากที่สุด"

สำหรับ RISE Innovation Week 2019 มีเนื้อหาสัมมนาในแต่ละวัน ดังนี้

  • วันที่ 23 กันยายน ธีม Corporate Innovation เรียนรู้การนำนวัตกรรมมาใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคตเพื่อสร้างสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ รวมทั้งการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม
  • วันที่ 24 กันยายน ธีม Robotics and Internet of Things ได้รับการสนับสนุนจาก AI and Robotics Ventures (ARV) องค์กรใหม่ของ ปตท.สผ. นำเสนอเมกะเทรนด์ทางเทคโนโลยีในด้าน HealthTech, EdTech และ AgTech พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมที่สามารถนำมาใช้พัฒนาอุตสาหกรรมหลักต่าง ๆ ได้ ผ่าน AI Robotics และ IoT นอกจากนี้จะมีการเวิร์คช็อปทดลองเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์
  • วันที่ 25 กันยายน ธีม Quantum Technology พบกับผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Quantum Technology จากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก อาทิ Google, Huawei, Tencent, Baidu ฯลฯ มาเล่าถึงการประยุกต์ใช้ Quantum Technology ในองค์กร ที่สามารถพัฒนาองค์กรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้อย่างก้าวกระโดด
  • วันที่ 26 กันยายน ธีม Artificial Intelligence (AI) ร่วมแชร์ข้อมูลและประสบการณ์ที่จะเป็นตัวช่วยในการเพิ่มความสามารถทางด้าน AI ให้แก่องค์กรและหน่วยงานรัฐบาล รวมถึงช่วงพิเศษ RISE.AI Demo Day ที่ผู้ร่วมงานจะได้ร่วมฟังโชว์เคสจากสตาร์ทอัพ AI จากทั่วโลกกว่า 30 ทีม ที่ทำงานร่วมกับองค์กรและภาครัฐ และวันสุดท้าย
  • วันที่ 27 กันยายน ธีม Exponential Technologies เทคโนโลยี ที่กำลังรวบรวม Blockchain, Biotech, PharmTech, MedTech ในวันเดียว ที่จะเข้ามาเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันให้เกิดความเปลี่ยนแปลง และ มาร่วมมือกันสร้างอนาคตในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

RISE Innovation Week 2019 ยังคงเป็นเสวนาที่พร้อมขับเคลื่อนองค์กรอย่างเป็นรูปธรรมและเกิดขึ้นจริง เตรียมพบกันใหม่ในปี 2020 โดยองค์กรหรือบุคคลที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง https://www.innoweek.riseaccel.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 099-190-1468

HTML::image( HTML::image( HTML::image(