สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เข้าตรวจสอบการดำเนินงานของ บลจ.เอเชีย เวลท์ ซึ่งประกอบธุรกิจ (1) นายหน้าซื้อขายตราสารหนี้ (2) นายหน้าซื้อขาย ค้าและจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน (LBDU) และ (3) จัดการกองทุนส่วนบุคคล
จากการตรวจสอบพบข้อบกพร่องอย่างมากในการเป็นนายหน้าซื้อขายตราสารหนี้ในระบบงานการวิเคราะห์และคัดเลือกตราสารหนี้ที่จะนำมาเสนอขายแก่ลูกค้า ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของผู้บริหาร 2 ราย ดังนี้
(1) นายศุภกร สุนทรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารซึ่งเป็นผู้บริหารสูงสุดและประธานคณะกรรมการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Committee) บกพร่องในการกำกับดูแลและติดตามการดำเนินงานของ Wealth Committee ซึ่งมีหน้าที่วิเคราะห์และคัดเลือกตราสารหนี้เพื่อเสนอขายให้แก่ลูกค้า แต่นายศุภกรไม่ได้พิจารณาปัจจัยสำคัญที่แสดงถึงความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร นอกจากนี้ ในการเสนอขายตราสารหนี้ของบริษัทแม่ ซึ่งเข้าข่ายมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ นายศุภกรไม่ได้กำกับดูแลให้มีการดำเนินการโดยคำนึงถึงประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เช่น ไม่ได้วิเคราะห์หรือมีเอกสารหลักฐานสนับสนุนว่าผลตอบแทนทีบริษัทแม่จ่ายให้แก่ลูกค้าเหมาะสมหรือไม่
(2) นางอภิรติ ชัยรัตน์ อดีตกรรมการผู้จัดการ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดในสายงานบริหารความมั่งคั่ง มีหน้าที่กำกับดูแลให้มีการวิเคราะห์และตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ออกตราสารหนี้ตามเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด ก่อนนำเสนอ Wealth Committee แต่พบกรณีที่ฝ่ายงานภายใต้การดูแลของนางอภิรตินำเสนอเอกสารหรือข้อมูลไม่ถูกต้องครบถ้วน โดยนางอภิรติมิได้สั่งการให้มีการกระทำการใดเพิ่มเติม จึงพิจารณาได้ว่านางอภิรติไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ระมัดระวัง และรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ
การกระทำดังกล่าวของบุคคลทั้ง 2 ราย เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน ก.ล.ต. จึงสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่เป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนของนายศุภกร เป็นเวลา 3 ปี และนางอภิรติ เป็นเวลา 2 ปี
การที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องข้างต้นเป็นเหตุให้ บลจ.เอเชีย เวลท์ ฝ่าฝืนมาตรา 113 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ซึ่งคณะกรรมการเปรียบเทียบได้มีคำสั่งเปรียบเทียบบริษัทไปแล้ว* และยังเป็นผลให้นายศุภกรและนางอภิรติซึ่งเป็นผู้บริหารในขณะนั้น เข้าข่ายมีลักษณะต้องห้ามเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน** โดยบุคคลทั้งสองยังมีความผิดตามมาตรา 283 แห่ง พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ด้วย ซึ่งจะเสนอคณะกรรมการเปรียบเทียบพิจารณาเปรียบเทียบความผิดต่อไป ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้สั่งการให้ บลจ.เอเชีย เวลท์ ปรับปรุงกระบวนการคัดเลือกตราสารหนี้ที่เสนอขายโดยจัดให้มีการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ออกตราสารที่ครบถ้วน เหมาะสม ทันต่อเหตุการณ์ และเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
อนึ่ง ในการตรวจสอบการดำเนินงานของ บลจ.เอเชีย เวลท์ ในการประกอบธุรกิจการเป็นนายหน้าซื้อขาย ค้า และจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน (LBDU) และการจัดการกองทุนส่วนบุคคลในช่วงเวลาเดียวกัน ก.ล.ต.ไม่พบการดำเนินงานที่มีการฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้ บริษัทไม่มีการประกอบธุรกิจการจัดการกองทุนรวมแต่อย่างใด
*คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งเปรียบเทียบปรับบริษัทเป็นจำนวนเงิน 5.33 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2562
**กรณีนายศุภกร มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2562 กรณีนางอภิรติ มีผลตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2562 ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าว บุคคลข้างต้นจะไม่สามารถปฏิบัติงานเกี่ยวกับการบริหารงานหรือการเป็นที่ปรึกษาของบริษัทหลักทรัพย์ งานเกี่ยวกับการจัดการลงทุน และการปฏิบัติงานอื่นที่อยู่ในขอบเขตการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit