เรื่องราวของเส้นทางการแข่งขันในรายการของ ปูน ภูผา นั้น ไม่ได้ราบรื่น เพราะตอนแรกเขาไม่ได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกในรอบออดิชั่น กรรมการได้คอมเมนท์ขนมที่แสดงความเป็นตัวตนของเขาออกมา จนทำให้ตัวเขานั้นไม่ผ่านในรอบแรก แต่แล้วปูนก็สามารถกลับมาแข่งขันในรายการได้อีกครั้ง จากการที่ลูกทีมของผู้จัดการโย่งไม่ครบ ทำให้กรรมการได้ปรึกษากันอีกครั้ง โดยคัดเลือกจากผู้แข่งขันที่ตกรอบไป ให้กลับมาแข่งได้ใหม่อีกครั้งนั่นเอง
โดยในแต่ละรอบของการแข่งขันของปูนนั้น ต่างเป็นบททดสอบพิสูจน์ฝีมือการทำขนมของเขาอย่างแท้จริง ตั้งแต่รอบ Audition / Battle / Double Baker / Face to Face และล่าสุดในรอบ Final ที่เป็นจุดพีคที่ปูน จะต้องทำขนมถึง 5 เมนู ภายในเวลาเพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น!! นับเป็นโจทย์หินที่สุดของรายการเลยก็ว่าได้
แม้ชีวิตของปูน จะรักการทำขนมหวาน แต่ก่อนหน้านั้น เขากลับชื่นชอบทำอาหารคาวมากกว่า โดยปูนเล่าให้ฟังว่า "ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่า ก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้เป็นคนชื่นชอบ หรือเริ่มเรียนรู้เรื่องการทำขนมมาก่อนนะครับ แต่จริงๆ ผมชอบ และเริ่มทำ "อาหาร" มาก่อน"
"ตอนแรกผมเรียนจบทำอาหารที่ประเทศไทยนี่แหละครับ แต่มันมีอยู่จุดหนึ่งที่ทำให้เราเริ่มเปลี่ยน คือ "ผมไม่อยากฆ่าสัตว์" ไม่ชอบที่จะอยู่ตรงนั้น เลยจัดการเปลี่ยนตัวเองไปอยู่อีกสายหนึ่ง ก็คือ สายขนมหวาน นั่นเอง ก็เลยถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของผม เหมือนกัน"
"หลังจากที่ผมเรียนจบด้านอาหารที่ประเทศไทยแล้ว หลังจากนั้น ผมก็ขอไปเรียนต่อด้านขนม ที่ประเทศฝรั่งเศส เลยครับ ซึ่งเป็นประเทศต้นฉบับของเมนูขนมที่หลากหลาย ผมก็อยากจะเรียนรู้ให้ถึงแก่นแท้ของขนมจริงๆ ก็เลยคิดว่า ตัวเองจะไปเรียนด้านขนมที่ฝรั่งเศส นี่แหละครับ
เหตุผลที่ผมเลือกมาแข่งขันในรายการ Sweet Chef Thailand ก็เพราะว่า หลังจากที่ผมมาไทย ผมเตรียมคิดที่อยากจะเปิดร้านขนม ระหว่างนั้นก็เลยลองมาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ มาลองดูก่อน ผมแค่คิดว่า ผมอยากจะสนุกไปกับและอยากทำขนมจริงๆ ก็ไม่คิดว่า จากสิ่งที่ชอบ เรารัก ด้วยความตั้งใจ จะทำให้ตัวเองมาไกลได้ถึงขนาดนี้ครับ ก็ต้องขอขอบคุณรายการ Sweet Chef Thailand มากๆ ที่ทำให้ผมทำในสิ่งที่ฝันได้สำเร็จครับ"
และนี่ คือเรื่องราวของแชมป์ Sweet Chef คนแรกของประเทศไทย ปูน – ภูผา ชุณหรัศมิ์
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit