โดย "China Machinery & Intelligent Manufacturing Brand Show (Thailand) และ Smart Manufacturing Exhibition (Thailand) and Metal + Metallurgy(Thailand)" จัดขึ้นเป็นปีแรก โดยรัฐบาลจีนในประเทศไทย นำเสนอนิทรรศการปัญญาประดิษฐ์ และสามารถดึงดูดผู้จัดนิทรรศการกว่า 160 ราย จากประเทศจีน ไทย มาเลเซีย และอินเดีย บนพื้นที่จัดงานกว่า 6,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 6 ด้านที่สำคัญในอุตสาหกรรม คือ ระบบการผลิตในลักษณะ Industrial Automation,ระบบควบคุม Motion & Drives, การหล่อโลหะแบบ Foundry & Metallurgy, การแปรรูปด้วยความร้อน (Thermal Process), กระบวนการผลิตชิ้นส่วนโลหะแบบ Die-Casting และเครื่องอัดอากาศ Air Compress โดยคาดว่าจะมีผู้ซื้อเข้าร่วมงานหลายพันรายจากกลุ่มผู้ผลิต ผู้ค้าและตัวแทนจากอุตสาหกรรมเป้าหมายในหลายภาคส่วน
มิสเตอร์ ฮวง ไค เลขานุการเอก สำนักงานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย เปิดเผยว่า งานในครั้งนี้จะเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งในการสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งในด้านการผลิตอัจฉริยะรวมถึงเทคโนโลยีหล่อและหลอมโลหะ ระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย
ทั้งนี้ ประเทศไทยและประเทศจีนมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นฉันท์มิตรอันดีมาอย่างยาวนาน ด้วยมีรากฐานความสัมพันธ์ของสองประเทศที่มั่นคงและแข็งแกร่ง "โดยยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ The Belt and Road" ที่เสนอแนวคิดโดยรัฐบาลประเทศจีนได้รับกระแสตอบรับที่ดียิ่ง และได้รับความร่วมมืออันดียิ่งจากประเทศไทยและประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซียน ความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศจะยิ่งกระชับแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจากความร่วมมืออันใกล้ชิดในหลายๆโครงการ ตามจุดมุ่งหมายของ The Belt and Road Initiative ทั้งจากการสร้างทางรถไฟความเร็วสูง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ก่อตั้งการเชื่อมต่อทางดิจิตัล การเพิ่มการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศในรูปแบบอื่นๆอีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยในอุตสาหกรรมเครื่องจักร การผลิตอัจฉริยะ อุตสาหกรรมการหล่อโลหะ และอุตสาหกรรมอื่นๆ เป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่ง เอื้อในการพัฒนาการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและพัฒนาการสื่อสารที่ไฮเทคและดิจิตัล
"รัฐบาลไทยมีการส่งเสริมแผนพัฒนาชาติอย่างแข็งแกร่ง อาทิ โครงการไทยแลนด์ 4.0 และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ทั้งนี้ มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนด้านการลงทุนในการก่อสร้างอุตสาหกรรมไฮเทค และความจำเป็นในการเชื่อมต่อทางดิจิตัลในภูมิภาคอาเซียน อาลีบาบากรุ๊ปซึ่งเป็นช่องทางธุรกิจแบบ B2B ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประเทศจีนก็ได้เดินทางมาลงทุนและสร้างแวร์เฮาส์อัจฉริยะในประเทศไทย บริษัทจัดนิทรรศการนานาชาติ CMEC ได้จัดประชุมอุตสาหกรรมเครื่องมือเครื่องจักรกลนานาชาติ นำโดยอาลีบาบากรุ๊ปใน 2 หัวข้อ "ช่องทางธุรกิจข้ามพรมแดนผ่านอีคอมเมิร์ซ" และ "อาลีบาบา ราชาแห่งข้อมูล" อาลีบาบาจะให้ข้อมูลเคล็ดลับกลุ่มธุรกิจของบริษัทเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในช่องทางอีคอมเมิร์ซได้อย่างไร และกลายเป็นหนึ่งในสิบบริษัทของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งและมีมูลค่าสูงสุดในโลก เพื่อเอื้อให้บริษัทอื่นๆที่เข้าร่วมการประชุมสามารถใช้ช่องทางธุรกิจทางอินเทอร์เน็ตในการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย"
มิสเตอร์ ฮวง ไค กล่าวอีกว่า สมาคมหล่อโลหะจีน สมาคมหล่อโลหะอินเดีย สมาคมหล่อโลหะไทย และสมาคมหล่อโลหะญี่ปุ่น จาก 12 ประเทศและภูมิภาค ร่วมกันจัดตั้ง สมาคมหล่อโลหะเอเชีย อย่างเป็นทางการ ณ งานนิทรรศการครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมการหล่อโลหะของเอเชียในรูปแบบขององค์กรไม่แสวงผลกำไร โดยสมาคมหล่อโลหะเอเชียมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมหล่อโลหะในสาขาต่างๆ เพื่อส่งเสริมประเทศสมาชิกทั้งในด้านการสื่อสารและการร่วมมือ พัฒนามูลค่าเศรษฐกิจอุตสาหกรรมการหล่อโลหะและประโยชน์ทางสังคม โดยมี มิสเตอร์ซาง ลิโบ ประธานสมาคมการหล่อโลหะจีน รับทำหน้าที่เป็นประธานคนแรกของสมาคมหล่อโลหะเอเชีย เราเชื่อว่าสมาคมจะสร้างความสำเร็จอย่างมีนัยสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมหล่อโลหะในเอเชียตลอดจนในโลกในอนาคต ในช่วงเวลาของการจัดงาน เราจะจัดกิจกรรม BBS ที่หลากหลายในอุตสาหกรรมหล่อโลหะเพื่อพัฒนาการสื่อสารระหว่างอุตสาหกรรมให้ดียิ่งขึ้นในหลากหลากมุมมอง
อย่างไรก็ตาม ยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่ The Belt and Road ไม่ได้อยู่เพียงในระดับรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างสองบริษัทในสองประเทศ ความสำเร็จของนิทรรศการจะเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าการผลิตอัจฉริยะและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหล่อและหลอมโลหะนับเป็นความต้องการที่เร่งด่วนในปัจจุบัน โดยเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่างานครั้งนี้ที่จัดโดยรัฐบาลจีนจะมีผลดียิ่งต่อการแลกเปลี่ยนทางอุตสาหกรรมและความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน เราหวังที่จะได้จัดงานที่ใหญ่ขึ้นและสำเร็จยิ่งขึ้นไปอีกในปีถัดไป