ฟิตบิท เปิดตัว Fitbit Premium บริการแบบสมัครสมาชิก เพื่อเข้าถึงคำแนะนำด้านสุขภาพและการออกกำลังกายตัวใหม่ล่าสุด

16 Sep 2019
สมาชิกแบบชำระเงินที่ใช้แอปพลิเคชันของฟิตบิทจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ฟิตบิทรวบรวมมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี รวมถึงความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาการและการแพทย์ ผ่านโปรแกรมที่เป็นส่วนตัว แนวทางการออกกำลังกายกว่าพันรายการ ข้อมูลเชิงลึกขั้นสูง ทั้งหมดนี้เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้ขยับร่างกายให้มากขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น และมีโภชนาการที่ดี
ฟิตบิท เปิดตัว Fitbit Premium บริการแบบสมัครสมาชิก เพื่อเข้าถึงคำแนะนำด้านสุขภาพและการออกกำลังกายตัวใหม่ล่าสุด

Fitbit (NYSE: FIT) ประกาศเปิดตัว Fitbit Premium บริการแบบสมัครสมาชิกบนแอปพลิเคชัน Fitbit(R) ที่ดึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ส่งมอบประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดจากฟิตบิท ผ่านคำแนะนำเพื่อให้ผู้ใช้บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพได้จริง บริการ Premium ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเชิงลึกที่ฟิตบิทรวบรวมมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี รวมถึงความเชี่ยวชาญทางด้านวิชาการและการแพทย์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ได้ขยับร่างกายให้มากขึ้น นอนหลับสนิทขึ้น และมีโภชนาการที่ดี ผ่านโปรแกรมที่เป็นส่วนตัว ฟีเจอร์ด้านการนอนขั้นสูง ข้อมูลเชิงลึกส่วนบุคคล แนวทางการออกกำลังกายกว่าพันรายการ ด่านใหม่ๆ รายงานสุขภาพ และอีกมากมาย ทั้งหมดนี้ถูกรวบรวมอยู่ในที่เดียว[1] ผู้ใช้อุปกรณ์ฟิตบิททุกคนและลูกค้า Fitbit Health Solutions สามารถใช้บริการ Premium ได้ผ่านโปรแกรม Fitbit Care

ตลาดสุขภาพแบบดิจิทัลในปัจจุบันมีการแข่งขันสูง จากสถิติในประเทศสหรัฐอเมริกา ประชากรวัยทำงานกว่า 14 ล้านคนเป็นสมาชิกบริการด้านสุขภาพบนแอปพลิเคชันต่างๆ โดยใช้จ่ายเงินราว 5,330 บาทต่อปี[2] ชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่ในตลาดที่ยังต้องการแอปพลิเคชันที่จะสามารถให้ตัวช่วยด้านสุขภาพและการออกกำลังกายที่มีคุณภาพ คำแนะนำที่เป็นส่วนตัว และโปรแกรมการฝึกทั้งหมดในที่เดียว บริการ Premium ของฟิจบิทตอบโจทย์ความต้องการในจุดนี้และให้มุมมองสุขภาพแบบองค์รวมที่บริการอื่นๆ ในปัจจุบันยังขาดอยู่ ด้วยราคาที่จับต้องได้ บริการนี้เหมาะกับผู้ที่มองหาตัวช่วยสร้างแรงกระตุ้นและกำลังใจในการออกกำลังกายที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่ไหน บริการ Premium จะนำเสนอตัวช่วยที่เป็นส่วนตัว เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างยั่งยืนและนำไปสู่สุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น

"ที่ Fitbit เรามุ่งเน้นให้เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องที่เข้าได้ถึงง่ายและเป็นไปได้ ด้วยบริการ Fitbit Premium เราพร้อมส่งมอบประสบการณ์เฉพาะตัวที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดจากฟิตบิท ซึ่งจะพัฒนาไปพร้อมๆ กับพฤติกรรมของผู้ใช้และชาญฉลาดขึ้นตามเวลา พร้อมให้คำแนะนำและแรงกระตุ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ" เจมส์ ปาร์ค ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของฟิตบิท กล่าว "การเปิดตัวบริการ Premium ยังถือเป็นก้าวสำคัญที่เราได้ขยายธุรกิจมากกว่าแค่อุปกรณ์แวร์เอเบิล บริการนี้เป็นการส่งมอบนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ใช้กว่า 27 ล้านรายของเรา ในขณะเดียวกันก็ดึงดูดผู้ใช้รายใหม่สู่แฟลตฟอร์มของฟิตบิท[3]"

ด้วยอุปกรณ์ที่ล้ำสมัย ฟีเจอร์ซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ และสังคมสุขภาพระดับโลก บริการ Premium จะกลายเป็นตัวสร้างคุณค่าให้กับแฟลตฟอร์มของฟิตบิท ผ่านการมอบประสบการณ์ที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้สุขภาพของผู้คนดีขึ้น

ประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากที่สุดจากฟิตบิท

นอกเหนือจากการใช้ข้อมูลที่รวบรวมมากว่า 10 ปีแล้ว ฟิตบิทยังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการและการแพทย์จาก Fitbit's Advisory Panel ซึ่งประกอบไปด้วยนักจิตวิทยา นักโภชนาการ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ และอีกมากมาย เพื่อช่วยให้การดูแลสุขภาพของผู้ใช้เป็นไปอย่างครบวงจร

สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลสุขภาพแบบเจาะจง เช่น โรคเบาหวานหรือลดน้ำหนัก ฟิตบิทจะเปิดตัวบริการโปรแกรมการดูแลแบบตัวต่อตัวในปี 2563 ผ่านโปรแกรมนำร่องแบบเจาะกลุ่มที่จะนำมาใช้ในปลายปีนี้[4] โดยใช้ทีมผู้ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพของฟิตบิทที่ผ่านการรับรองมาให้คำแนะนำและกำลังใจแบบตัวต่อตัวบนแอปพลิเคชันของฟิตบิท

การนอนที่ดีขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

ฟิตบิทให้ความสำคัญกับการพัฒนาฟีเจอร์นวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ใช้นอนหลับได้ดีขึ้น บริการ Premium มีโปรแกรมแนะแนวทางการนอนและตัวช่วยการนอนตัวใหม่ รวมถึงเพลงบรรเลงตอนนอน[5]และการปลุกอัจฉริยะ[6] สมาชิก Premium จะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการนอนหลับ พร้อมตัวช่วยและคำแนะนำเฉพาะบุคคลเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น

"คนส่วนมากไม่ทราบว่าการนอนหลับส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสามารถนำไปสู่ความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรังอย่างโรคหัวใจและโรคเบาหวาน ข้อมูลเชิงลึกด้านการนอนหลับของฟิตบิทที่รวบรวมมากว่า 10 ปี จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจพฤติกรรมการนอนของตัวเองและความเกี่ยวพันธ์กับการเคลื่อนไหวร่างกาย น้ำหนัก และสุขภาพหัวใจได้" ดร. คอเนอร์ เฮเนเกน นักวิทยาศาสตร์ผู้วิจัยด้านการนอนของฟิตบิท[7] กล่าว "เรามีฐานข้อมูลที่รวบรวมสถิติการนอนหลับกว่าหนึ่งหมื่นล้านคืน เพื่อนำมาพัฒนาและแนะแนวทางในการปรับปรุงพฤติกรรมการนอนหลับของผู้ใช้บริการ Premium อย่างเฉพาะตัวที่สุด"

ตัวอย่างข้อมูลเชิงลึกที่ประเมินจากฐานข้อมูลการนอนหลับของผู้ใช้ ได้แก่:

  • การเข้านอนตรงเวลาเป็นเรื่องสำคัญ! การนอนของผู้ใช้แตกต่างกันถึง 40 นาทีในแต่ละวัน พยายามปรับพฤติกรรมการเข้านอนให้ตรงเวลามากขึ้นเพื่อการนอนหลับที่มีคุณภาพ
  • ในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา นับก้าวได้มากกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 8,376 ก้าว อัตราการเต้นหัวใจเวลาพักของผู้ใช้ลดลง 2 bpm จากค่าเฉลี่ยรายเดือนที่ 67 bpm ขอให้คงพฤติกรรมแบบนี้ไว้!

แรงผลักดันให้ขยับร่างกายมากขึ้น

สมาชิก Premium ยังสามารถออกกำลังกายผ่าน ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวและเสียงกว่าพันรายการ จากผู้ฝึกสอนบนแอปพลิเคชัน Fitbit Coach ได้ทุกที่ทุกเวลา แนวทางการออกกำลังกายเหล่านี้ถูกคัดสรรจากข้อมูลเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์เป้าหมายสุขภาพและปรับตามฟีดแบ็คที่ผู้ใช้ใส่ข้อมูลเข้าไป ในอนาคต สมาชิก Premium ยังจะได้รับ โจทย์จากด่านและเกมส์ต่างๆ เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายสุขภาพได้เร็วขึ้น กว่าร้อยละ 72 ของผู้ใช้ฟิตบิทที่ใช้ฟีเจอร์ด่านและเกมส์ นับจำนวนก้าวได้มากกว่าค่าเฉลี่ย 1,000 ก้าวต่อวัน[8] ผู้ใช้ยังสามารถชักชวนเพื่อนฝูงและสมาชิกในครอบครัวให้มาเข้าร่วมกิจกรรมบนฟิตบิทได้อีกด้วย[9]

ตัวช่วยการจัดการสุขภาพแบบเชิงรุก

บริการ Premium ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับรายงานสุขภาพเฉพาะตัว สามารถนำข้อมูลไปปรึกษาแพทย์ นักโภชนาการ หรือผู้ฝึกสอนส่วนบุคคลต่อได้[10] อำนวยความสะดวกในการวินิจฉัยและการให้คำแนะนำเฉพาะทาง ทำให้การดูแลจัดการสุขภาพมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ผ่านข้อมูลเชิงลึกที่นำเสนอในรูปแบบกราฟ การวิเคราะห์ข้อมูลการเคลื่อนไหวร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ ประสิทธิภาพการนอนหลับ และน้ำหนักตัว ในอนาคตผู้ใช้จะสามารถแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและการวิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ราคาและการวางจำหน่าย

Fitbit Premium จะวางจำหน่ายในเดือนกันยายน 2562 ด้วยราคาสมาชิกที่ 300 บาทต่อเดือน หรือ 2,500 บาทต่อปี เริ่มเปิดให้บริการในภาษาอังกฤษใน 17 ประเทศบนแอปพลิเคชันของฟิตบิท และขยายตลาดในภาษาอื่นๆ ภายในปี 2563 ผู้ใช้ฟิตบิททุกรายจะได้รับสิทธิ์การทดลองใช้ฟรีเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์และผู้ใช้ Fitbit Versa(TM)2 Special Edition จะได้รับการทดลองฟรีเป็นเวลา 90 วัน[11]

ลูกค้าองค์กรที่ใช้ Fitbit Health Solutions จะสามารถใช้บริการ Premium ผ่านโปรแกรม Fitbit Care ภายใต้ข้อเสนอทั้งแบบตัวเลือกและแบบที่ร่วมกับโปรแกรม Health Coaching เพื่อจัดการดูแลสุขภาพและป้องกันอาการเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง

ในวันเดียวกันนี้ ฟิตบิทยังได้ประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสมาร์ทวอทช์ Fitbit Versa 2TM นาฬิกาข้อมือเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายและ Fitbit Aria AirTM เครื่องชั่งน้ำหนักบลูทูธอัจฉริยะในราคาที่จับต้องได้ สำหรับข่าวและภาพ สามารถเข้าไปดูเพิ่มเติมได้ที่ www.fitbit.com/press

เกี่ยวกับฟิตบิท

ฟิตบิท (Fitbit) คืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถใช้ชีวิตที่มีความแอคทีฟ โดยการเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้ใช้งานได้เข้าถึงข้อมูล เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ พร้อมคำแนะนำที่จะทำให้ผู้ใช้งานไปถึงเป้าหมายได้สำเร็จ ในฐานะที่ฟิตบิทเป็นผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์การดูแลสุขภาพและกิจกรรมการออกกำลังกาย ฟิตบิทจึงได้ออกแบบผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ในการใช้งานที่จะคอยติดตามข้อมูลด้านสุขภาพและความแข็งแรงของผู้ใช้ในทุกวัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ล้ำสมัยและได้รับความนิยมของฟิตบิท รวมถึงอุปกรณ์แทรคเกอร์อย่าง Fitbit Charge 3(TM), Fitbit Inspire HR(TM), Fitbit Inspire(TM), Fitbit Ace 2(TM) รวมถึงสมาร์ทวอทช์อย่าง Fitbit Ionic(TM)และ Fitbit Versa(TM) หูฟังไร้สาย Fitbit Flyer(TM) และเครื่องชั่งน้ำหนักอัจฉริยะเชื่อมต่อสัญญานไวไฟที่มีชื่อว่า Fitbit Aria ผลิตภัณฑ์ของฟิตบิทมีวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกกว่า 39,000 แห่งใน กว่า 100 ประเทศทั่วโลก และด้วยเครือข่ายสังคมฟิตเนสและฐานข้อมูลด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง แพลตฟอร์มของฟิตบิทจึงสามารถให้ประสบการณ์ ข้อมูลอินไซต์ และคำแนะนำที่เหมาะกับบุคคล ผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัยในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ทั้งแอปพลิเคชัน Fitbit, Fitbit Coach และ Fitbit OS สำหรับสมาร์ทวอทช์ นอกจากนี้ยังมี Fitbit Premium บริการสมาชิกแบบชำระเงินตัวใหม่ล่าสุด นำส่งข้อมูลเฉพาะของผู้ใช้รายบุคคลไปยังแอปพลิเคชัน Fitbit เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ถึงเป้าหมายด้านสุขภาพและฟิตเนสตามที่ตั้งไว้ ขณะที่ Fitbit Health Solutions โปรแกรมสุขภาพสำหรับองค์กร ได้ออกแบบมาเพื่อสร้างเสริมสุขภาพและการมีส่วนร่วม ช่วยพัฒนาองค์กร การวางแผนและระบบการรักษาสุขภาพโดยรวมด้วยฟิตบิท และโลโก้ฟิตบิท รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ถือเป็นเป็นเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ และ/หรือ เครื่องหมายการจดทะเบียนการค้าของฟิตบิทในประเทศสหรัฐอเมริกาและในประเทศอื่น ๆ เครื่องหมายการค้าอื่น ๆ เพิ่มเติมของฟิตบิท สามารถดูได้ที่ www.fitbit.com/legal/trademark-list เครื่องหมายบริการและชื่อผลิตภัณฑ์ที่ใช้นี้เป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่เกี่ยวข้องเท่านั้น

ติดตามเรื่องราวดี ๆ และพูดคุยกับเราได้ทาง Facebook, Instagram หรือ Twitter เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์ฟิตบิทของคุณ

ข้อความแสดงการคาดการณ์ในอนาคต (Forward-Looking Statements)

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้อาจมีข้อความแสดงการคาดการณ์ในอนาคต (forward-looking statements) ตามความหมายในบทบัญญัติการกำหนดข้อยกเว้นความรับผิด (safe harbor provision) ของกฎหมาย Private Securities Litigation Reform Act of 1995 ของ ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่รวมถึงความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ ซึ่งในที่นี้ รวมถึงข้อความเกี่ยวกับการวางจำหน่าย Fitbit Versa และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในอนาคต ข้อความที่แสดงการคาดการณ์เหล่านี้ เป็นเพียงการคาดการณ์ ซึ่งอาจแตกต่างจากผลที่เกิดขึ้นจริง สืบเนื่องจากปัจจัยที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากตลาดการแข่งขันสูงที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ รวมถึงการแข่งขันจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่กว่า การไม่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ได้เป็นผลสำเร็จ การเปิดตลาดผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติใหม่ และบริการใหม่ หรือพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ในปัจจุบัน ปัญหาความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ การละเมิดด้านความปลอดภัย หรือข้อผิดพลาดอื่น ๆ และปัจจัยอื่นที่มีการอภิปรายภายใต้หัวข้อ Risk Factors ในรายงานตามแบบฟอร์ม 10-Q ล่าสุดที่บริษัทยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา ข้อความแสดงการคาดการณ์ทั้งหมดที่ปรากฏในข่าวนี้ อ้างอิงจากข้อมูลที่บริษัทมีอยู่จนถึงวันดังกล่าวบริษัทไม่มีภาระผูกพันในการปรับข้อมูลในกรณีที่มีข้อมูลใหม่หรือเป็นผลจากเหตุการณ์ในอนาคต

[1] Workouts play จากแอปพลิเคชัน Fitbit Coach มาพร้อมกับความท้าทายใหม่และรายงานด้านสุขภาพ เร็วๆ นี้

[2] อ้างอิงจากผลการสำรวจ Fitbit U.S. Market Attitudes and Usage Study (อายุ 18-70 ปี) เดือนเมษายนถึงเดือนกรกฎาคม 2562

[3] ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561

[4] One-on-one coaching pilot มีจำนวนจำกัดสำหรับลูกค้าประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการเป็นสมาชิก Premium

[5] ติดตั้งในแอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้งาน Fitbit Ionic และตระกูลสมาร์ทวอทช์ Fitbit Versa สำหรับอุปกรณ์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เร็วๆ นี้

[6] มีใน Fitbit Ionic และ ตระกูลสมาร์ทวอช Fitbit Versa เร็วๆ นี้

[7] CDC, U.S., https://www.cdc.gov/media/releases/2016/p0215-enough-sleep.html; 51% ของวัยผู้ใหญ่ทั่วโลกhttps://www.travelagentcentral.com/running-your-business/stats-51-adults-worldwide-don-t-get-enough-slee; Institute of Medicine, Committee on Sleep Medicine and Research. Sleep disorders and sleep deprivation: An unmet public health problem. National Academies Press, 2006, http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20669438.

[8] อ้างอิงจาก การรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้ฟิตบิต ที่ร่วมกิจกรรมท้าประลอง "Workweek Hustle", 1 กันยายน 2561 – 21 ธันวาคม 2561

[9] การท้าประลองและเกมส์ จำเป็นต้องเริ่มจากสมาชิกพรีเมียม ถ้าได้รับการเชิญชวน ทุกคนบนฟิตบิตสามารถร่วมกิจกรรมโดยไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกได้

[10] การรายงานเกี่ยวกับสุขภาพจะมีการรายงานมาเร็วๆนี้

[11] โปรโมชั่นทดลองใช้ สามารถใช้เมื่อเปิดฟิตบิตพรีเมี่ยม 90 วันทดลองใช้ จำกัดแค่ผู้ที่ซื้อฟิตบิตเวอร์ซ่า 2 รุ่นพิเศษเท่านั้น การทดลองใช้ฟรีสามารถเปิดใช้งานได้ต่อเมื่อมีอุปกรณ์และมีการจ่ายที่ถูกต้อง การทดลองใช้ฟรีจำเป็นต้องเปิดใช้งานภายใน 60 วันที่เปิดการใช้งานอุปกรณ์ การยกเลิกก่อนการทดลองใช้ฟรีจะถือว่าเป็นการสิ้นสุดการจ่ายค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิก (มีค่าภาษีและค่าธรรมเนียมเพิ่ม) เนื้อหาและคุณลักษณะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เป็นข้อเสนอสำหรับสมาชิกใหม่ฟิตบิตเท่านั้น

HTML::image( HTML::image(