ด้านนายธัชธาวินท์ สะรุโณ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการผลิตพืชที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง สวพ.8 กล่าวเพิ่มเติมว่า การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กล้วยฉาบน้ำตาลโตนดเกิดจากสวพ.8 ร่วมกับกลุ่มเกษตรกรวิจัยการปลูกพืชตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์อัตลักษณ์พื้นถิ่นนำเอากล้วยดีที่ปลูกบนดินยุคโฮโลซีน เมื่อทะเลยกตัวราว5000ปีมาแล้วผสมผสานกับน้ำตาลโตนดที่เป็นพืชประจำถิ่นคาบสมุทรสทิงพระ มาหลาย 100 ปี ทำให้ได้สินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่มีคุณค่าดัชนีน้ำตาลน้อยกว่าการใช้น้ำตาลทรายมีแคลเซียมและธาตุเหล็กสูงกว่าผลไม้ทั่วไปประมาณ5เท่าซึ่งการพัฒนาได้รับการสนับสนุนต่อยอดจากหลายภาคส่วน อาทิ อบต.รำแดง สำนักงานเกษตรอำเภอสิงหนคร มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลาและสำนักงานพัฒนาชุมชน ในการร่วมกันส่งเสริมการผลิตพืชการแปรรูปสินค้าและการตลาดของเกษตรกรให้พัฒนาครบวงจรและมีความยั่งยืนในต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา
ทั้งนี้ สวพ.8ได้เข้ามาดำเนินงานวิจัยและพัฒนาชุมชนต้นแบบการโดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่ตำบลรำแดงเมื่อปี 2559 โดยเริ่มทดลองให้เกษตรกร ปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าว มาเป็นการปลูกไม้ผลและพืชผัก โดยการปรับสภาพพื้นที่นา ประมาณ 2 ไร่ ขุดยกร่องเป็นร่องสวน และปลูกกล้วย มะม่วง ส้มโอ และพืชผักต่างๆ สำหรับ การพัฒนาการปลูกกล้วย ได้แนะนำ ให้เกษตรกรปฏิบัติ ตามคำแนะนำกรมวิชาการเกษตรเพื่อให้ได้กล้วยคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยม เพราะมีการรับรองมาตรฐานคุณภาพ GAP
นอกจากการขายเป็นผลผลิตกล้วยสดแล้ว ได้มีการศึกษาการแปรรูป เป็นกล้วยฉาบและเพื่อเป็นการสร้างอัตลักษณ์สินค้า จึงได้นำเอาจุดเด่นของพื้นที่เข้ามาผนวกกับสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า พื้นถิ่นซึ่งปัจจุบันพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระถือเป็นแหล่งปลูกต้นตาลโตนดมากที่สุดในประเทศไทยและเป็นพื้นที่ที่มีการผลิตน้ำผึ้งตาลโตนดคุณภาพดี การนำผลิตภัณฑ์ ทั้งสองอย่างมารวมกันจึงทำให้ได้กล้วยฉาบ น้ำตาลโตนด ที่มีเอกลักษณ์จนสามารถพัฒนาสูตรเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและล่าสุดได้รวมกลุ่มเกษตรกรจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนขึ้นในปีนี้
HTML::image( HTML::image( HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit