แคนนอน ผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทไทย 19 ปีซ้อน เปิดตัวอิงค์เจ็ท G ซีรีส์และ WG ซีรีส์ 5 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันสุดล้ำสมัย

17 Sep 2019
แคนนอนเนรมิตรงาน "แคนนอน อิงค์เจ็ท เวิลด์" โชว์สินค้า และเทคโนโลยี เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท แห่งอนาคต ตอบโจทย์ธุรกิจครอบคลุม เล็ก กลาง ใหญ่
แคนนอน ผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทไทย 19 ปีซ้อน เปิดตัวอิงค์เจ็ท G ซีรีส์และ WG ซีรีส์ 5 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมเทคโนโลยีและฟังก์ชันสุดล้ำสมัย

บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทอันดับ 1 ในประเทศไทยต่อเนื่อง 19 ปี ซ้อน จัดงาน "แคนนอน อิงค์เจ็ท เวิลด์" (Canon Inkjet World) เปิดตัวทัพเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 2 ซีรี่ส์ รวม 5 โมเดล ประกอบไปด้วย เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทในตระกูล G Series ได้แก่ G6070 G5070 และ GM2070 พร้อมทั้งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสี ขนาด A3 ในตระกูล WG Series ได้แก่ WG7740 และ WG7750F เพื่อตอบโจทย์กลุ่มธุรกิจตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ รวมถึงภาคอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด "Simplify Life Maximize Business" พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำกลุ่มตลาดเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทไทยด้วยยอดจำหน่ายเครื่องพิมพ์ในไลน์อิงค์เจ็ท 373,942 เครื่อง ในปี 2561 ครองส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น 40% ของยอดจำหน่ายรวม

มร.ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า แคนนอนมุ่งเน้นการขยายธุรกิจกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคตั้งแต่ผู้บริโภครายย่อย (B2C) ตลอดจนทุกระดับธุรกิจ (B2B) ที่หลากหลายตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง รวมไปถึงขนาดใหญ่ ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานในทุกประเภทธุรกิจ รวมถึงตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์อิงค์เจ็ทอันดับ 1 ในประเทศไทยต่อเนื่อง 19 ปีซ้อน ของแคนนอนได้เป็นอย่างดี

โดยปี 2562 ยังถือเป็นปีแห่งความพิเศษของ แคนนอน ประเทศไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปี โดยการเติบโตที่แข็งแกร่งของ แคนนอน ประเทศไทย เป็นผลจากการดำเนินกลยุทธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่องหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ควบคู่ไปกับกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ในกลุ่มผู้บริโภค ตลอดจนการบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจ แก่กลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดอันเป็นหัวใจหลักของการดำเนินงาน พร้อมกันนี้แคนนอนยังคงเดินหน้า และมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เพื่อให้การทำธุรกิจของลูกค้าทุกระดับเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ "Business Can be Simple" ของแคนนอน มร.ฮิโรชิ กล่าวสรุป

ด้าน นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์พรินเตอร์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า งาน "แคนนอน อิงค์เจ็ท เวิลด์" (Canon Inkjet World) เนรมิตรขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ "Simplify Life Maximize Business" โดยแคนนอนได้เปิดตัว กลุ่มผลิตภัณฑ์อิงค์เจ็ทรุ่นใหม่ 2 ซีรี่ส์ รวม 5 โมเดล ประเดิมด้วย เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทในตระกูล G Series ได้แก่ G6070 G5070 และ GM2070 ตามมาด้วยเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทสี ขนาด A3 ในตระกูล WG Series ได้แก่ WG7740 และ WG7750F ที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในทุกระดับ ซึ่งสะท้อนออกมาในรูปแบบของโมเดลธุรกิจได้ 4 ระดับ ดังนี้

  • ธุรกิจระดับ S – Model : เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon GM2070 เหมาะสำหรับผู้ที่มีร้านค้าปลีกออนไลน์ หรือธุรกิจเป็นส่วนตัว ซึ่งมีความต้องการงานพิมพ์ อาทิ งานพิมพ์คำสั่งซื้อ งานพิมพ์ที่อยู่ลูกค้าบนกล่องพัสดุ งานพิมพ์โลโก้สินค้าลงบนแพคเกจจิ้ง มาพร้อมระบบหมึกแท็งก์แบบไฮบริดที่จะช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กประหยัดหมึกในการพิมพ์งานได้ถึง 8,300 หน้าต่อปริมาณหมึกหนึ่งขวด
  • ธุรกิจระดับ M – Model: เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon G6070 เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลาง ที่มีผู้ใช้งานเครื่องพิมพ์ร่วมกันประมาณ 5 - 10 คน และต้องการเครื่องพิมพ์ที่รองรับการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้น เพื่อการใช้งานที่คล่องตัว รองรับการสั่งงานพิมพ์ที่หลากหลาย เช่น โบรชัวร์ การสั่งงานสแกน ถ่ายเอกสาร ผ่านการเชื่อมต่อที่ไร้สาย อำนวยความสะดวกให้ธุรกิจขนาดกลางสามารถสั่งงานพิมพ์ได้อย่างครบวงจรในเครื่องพิมพ์เพียงเครื่องเดียว
  • ธุรกิจระดับ L – Model: เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon WG 7740 และ Canon G5070 เหมาะกับธุรกิจขนาดใหญ่ อย่างบริษัทเอเจนซีในด้านต่างๆ มีความต้องการงานพิมพ์หลากหลายรูปแบบ อาทิ แบบฟอร์มนำเสนอโครงการ งานออกแบบเลย์เอาต์บนกระดาษโฟโต้ ตลอดจนแผนผังขนาด A3 นอกจากรูปแบบงานพิมพ์ที่หลากหลาย ความสามารถในการพิมพ์ที่รวดเร็ว การเชื่อมต่อที่ง่าย ตลอดจนโซลูชันการจัดการงานพิมพ์ในองค์กรขนาดใหญ่
  • ธุรกิจระดับ Corporate – Model: เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon WG7750F เหมาะสำหรับกลุ่มธุรกิจระดับองค์กรขนาดใหญ่ ภาคราชการ หรือกลุ่มงานระดับโปรดักชัน ที่ต้องการแบบพิมพ์เขียว หรือแบบจำลองผังเมือง เป็นต้น สามารถปริมาณหรือขนาดกระดาษที่เครื่องพิมพ์รองรับ ระบบเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานจำนวนมาก ซอฟต์แวร์จัดการงานพิมพ์เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในงานพิมพ์ และการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท Canon G6070 และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทหน้ากว้าง Canon LFP Series ยังสามารถใช้ได้โมเดลธุรกิจนี้เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการทำธุรกิจให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ในงานดังกล่าวแคนนอนยังมีการจัดแสดงกลุ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ซึ่งเป็นจุดเด่นของแคนนอนมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ Canon iNSPiC และ Canon Pixma TS โดย Canon iNSPiC หรือมินิพรินต์เตอร์แกดเจ็ตสุดชิค ให้ผู้ใช้สามารถถ่ายและพิมพ์ภาพได้ทันที หรือสามารถดึงภาพถ่ายในความทรงจำสุดประทับใจบนสมาร์ทโฟนมาทำการตกแต่ง ก่อนที่จะสั่งพิมพ์ได้ ในขณะที่ Canon Pixma TS หรือเครื่องพิมพ์ภาพอเนกประสงค์ มาพร้อมคุณสมบัติการพิมพ์ภาพ สแกน และถ่ายเอกสาร บนหน้าจอการทำงานที่ใช้งานง่าย รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ให้ผู้ใช้ได้สนุกไปกับการสร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพถ่าย การ์ด หรือปฏิทินสร้างสรรค์ บนแอปพลิเคชันก่อนสั่งพิมพ์

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแคนนอนมียอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ทตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนสิงหาคม ปี 2562 จำนวน 238,720 เครื่อง โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์อิงค์เจ็ทของแคนนอนครองส่วนแบ่งตลาดถึง 40% และด้วยเป้าหมายใหม่ของแคนนอนในปีนี้ ที่พร้อมรุกตลาดงานพิมพ์ในกลุ่มธุรกิจ (B2B) ทำให้แคนนอนคาดหวังการเติบโตของ ยอดขาย ในกลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ททะลุ 420,000 เครื่อง หรือเติบโต 112% ภายในสิ้นปี 2562 นางสาวเนตรนรินทร์ กล่าวสรุป

สำหรับงาน "แคนนอน อิงค์เจ็ท เวิลด์" (Canon Inkjet World) จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมคอนราด ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2344-9988 เว็บไซต์ https://th.canon หรือ facebook.com/canon.thailand

เกี่ยวกับแคนนอน :

แคนนอนมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีไอทีอันทันสมัยเพื่อตอบสนองและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทั้งที่บ้านและสำนักงาน อีกทั้งยังมุ่งหน้าทำวิจัยและหากระบวนการในการผลิตสินค้าโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานอันถูกสุขลักษณะและปลอดภัย พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีให้กับลูกค้า ปัจจุบัน แคนนอนมีบริษัทในเครือมากกว่า 200 บริษัทและมีพนักงานมากกว่า 160,000 คนทั่วโลก โดยบริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ดำเนินกิจการในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2537 และครบ 25 ปี ในปี พ.ศ 2562 นี้ แคนนอนยังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์และและโซลูชันใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย และง่ายยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภค และภาคธุรกิจ ผ่านการจัดกิจกรรม สินค้า และบริการภายใต้แนวคิด "25 Delightful year Thailand" ตลอดปี

HTML::image( HTML::image( HTML::image(