นางศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม็คโคร ให้ความสำคัญกับการสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพ มาตรฐานปลอดภัย และช่วยรับซื้อผลผลิตที่มีคุณภาพจากเกษตรกร โดยล่าสุดร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พังงา และผู้รวบรวมกลุ่มผักพื้นบ้าน จัด "เทศกาลผักพื้นบ้าน รักสุขภาพ รักษ์สิ่งแวดล้อม" ขึ้นที่แม็คโคร สาขาภูเก็ต และสาขาอื่นๆ ภายในภูเก็ตรวมแล้ว 5 สาขา
"แม็คโครมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานความปลอดภัย และส่งเสริมการบริโภคผักพื้นบ้านเพื่อสุขภาพ โดยไม่ใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ซึ่งได้ทำงานใกล้ชิดกับเกษตรกร ในด้านการปรับปรุงมาตรฐาน GAP การตรวจสอบซ้ำจากการสุ่มตรวจสารเคมีตกค้างตลอดเวลา และสามารถตรวจสอบสินค้าย้อนกลับไปสู่แหล่งที่มาในการปลูกแต่ละแปลงได้ นอกจากนี้สินค้าที่เข้ามาจำหน่ายในแม็คโคร ต้องผ่านการคัดแยก บรรจุจากโรงแพ็คมาตราฐาน GMP และ อย. ตามมาตรฐาน ตลอดจนได้มีการทำทะเบียนลูกสวน เพื่อส่งข้อมูลข่าวสาร นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้เกษตรกรกรได้นำไปพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพ"
สำหรับผักพื้นบ้านที่แม็คโคร นำมาจำหน่ายมีจำนวนกว่า 50 รายการ และเป็นที่ต้องการของคนทั่วไปและผู้ประกอบการร้านอาหาร อาทิ ผักเหลียง ลูกเนียง ผักกูด สะตอ และผักพื้นบ้านอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญยังเน้นให้เกษตรกรใช้บรรจุภัณฑ์ธรรมชาติที่เก็บได้นาน ไม่ทำให้สินค้าดูด้อยคุณภาพ สำหรับการจำหน่ายด้วย ไม่ว่าจะเป็น ใบตองหรือใบไผ่ตากแห้งรีดให้เรียบ กระทงสานจากวัสดุธรรมชาติฝีมือชาวบ้านในพื้นที่ กาบกล้วย ฯลฯ
ด้าน นายชาลี สีตบุศย์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ เกษตรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า " การที่แม็คโคร เข้ามาช่วยรับซื้อผักพื้นบ้านจากชาวบ้าน เป็นการช่วยเกษตรกรให้มีตลาดแน่นอน และเป็นการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้ก้าวสู่มาตรฐานความปลอดภัย ต้องผ่าน GAP ได้สัญลักษณ์ Q ซึ่งผักพื้นบ้านจะเน้นการปลูกพืชเชิงผสมผสาน ควบคู่ไปกับการปลูกต้นยางพาราซึ่งเป็นรายได้หลัก หากมีตลาดรองรับแน่นอน ทางจังหวัดก็มีแผนส่งเสริมให้มีการปลูกมากขึ้นเช่นกัน"
อย่างไรก็ตาม ลูกค้า ผู้ประกอบการ ได้ให้การตอบรับเข้าร่วมงานในเทศกาลครั้งนี้อย่างล้นหลาม โดยนอกจากผู้คนจะให้ความสนใจกับผักพื้นบ้านนานาชนิดแล้ว ยังพากันตื่นเต้นกับบรรจุภัณฑ์ธรรมชาติรักษ์โลกที่แม็คโครนำมาใช้ด้วย นางศิริพร กล่าวทิ้งท้ายว่า "โครงการนี้เราคิดถึงความยั่งยืนเป็นสำคัญ โดยการรณรงค์ให้ลูกค้าหันมาบริโภคผักพื้นบ้านครั้งนี้ แม้จะทำเพียงไม่กี่สาขาในจังหวัดภูเก็ต แต่ทำให้เกษตรกรในท้องถิ่นมีอาชีพเสริม มีรายได้ เข้ามาหล่อเลี้ยงครอบครัวเพิ่มเติมจากรายได้หลักอย่างการปลูกยางพารา และทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า ผู้บริโภคเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัย รวมถึงเป็นการอนุรักษ์ผักพื้นบ้านหลายๆ ชนิดไม่ให้สูญพันธุ์ด้วย"
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit