ในช่วงเริ่มต้นการประชุม สมาคมการค้าไทย-ไต้หวัน ได้แบ่งปันประสบการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจจากไต้หวัน ขณะเดียวกัน นายถงเจิ้นหยวน ผู้แทนของสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย ได้แนะนำ "บริการด้านการลงทุนทวิภาคีไต้หวัน-ไทยแบบครบวงจรในจุดเดียว" ซึ่งรวมถึงการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การจับคู่ธุรกิจ ฯลฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือนักลงทุนที่วางแผนจะเข้าสู่ตลาดในประเทศไทย
นอกจากนี้ กรมพาณิชย์ไต้หวันและสมาคมนักธุรกิจชาวจีนโพ้นทะเลของไต้หวันแห่งประเทศไทย ยังร่วมกันจัด "การประชุมจับคู่ธุรกิจแฟรนไชส์ระหว่างประเทศแห่งประเทศไทยประจำปี 2562" และเชิญผู้ประกอบการไทย 30 รายที่สนใจอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มไต้หวันเข้าร่วมงาน โดยในระหว่างการประชุมได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) รวม 7 ฉบับ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการไทยและไต้หวันหลายรายยังแสดงความปรารถนาที่จะสร้างความร่วมมือทางธุรกิจเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ กรมพาณิชย์ไต้หวันจะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับประเด็นด้านกฎหมายและภาษีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจจากไต้หวันสามารถแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในตลาดต่างๆ ตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่
ประเทศไทยมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในอาเซียน และมีประชากรประมาณ 69 ล้านคน ยิ่งไปกว่านั้นประเทศไทยยังเป็นประตูสู่ตลาดอาเซียน เพราะเป็นจุดตัดของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในแง่ของตลาดอาหารและเครื่องดื่มนั้น ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 4 แสนล้านบาท สำหรับอาหารไต้หวัน เช่น ชาไข่มุก เสี่ยวหลงเปา และขนมปังไต้หวัน กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก ไต้หวันจึงหาทางส่งออกอาหารมายังประเทศไทย คนไทยชอบลองอาหารใหม่ๆ และสนใจอาหารสุขภาพแนวใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ ตามรายได้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่รูปแบบการดำเนินธุรกิจของแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มไต้หวัน ซึ่งมีความหลากหลาย ทันสมัย และมุ่งเน้นสุขภาพ ก็เข้ากันได้กับแนวโน้มการบริโภคในประเทศไทย ดังนั้น กรมพาณิชย์ไต้หวันจึงหวังที่จะผลักดันแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มไต้หวันให้เข้ามาคว้าโอกาสในประเทศไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจในตลาดอาหารและเครื่องดื่มของไทย
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20190719/2529714-1
คำบรรยายภาพ - ผู้จัดงาน: ลี เมย์ อธิบดีกรมพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (คนที่ 6 จากซ้าย) และผู้เข้าร่วมการประชุมจับคู่ธุรกิจแฟรนไชส์ระหว่างประเทศแห่งประเทศไทยประจำปี 2562
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit