บ้าน วัด โรงเรียน รวมเรียกสั้น ๆ ว่า "บวร" เปรียบเสมือน 3 เสาหลักที่เชื่อมโยงผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทย มาตั้งแต่อดีต บวรเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะ สอดแทรกอยู่ในวรรณกรรมหลายเล่ม ทั้งยังปรากฎในศิลปะการแสดงทุกแขนง อินทัชจึงได้นำบวรมาเป็นโจทย์ของการสร้างสรรค์งานศิลปะในปีนี้ ด้วยมุ่งหวังปลูกจิตสำนึกรักการอ่านให้เยาวชนไทย ควบคู่กับการอนุรักษ์ภาษาและวรรณกรรมไทย ผ่านการถ่ายทอดจินตนาการที่ได้จากการอ่านวรรณกรรมนำมาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะที่สื่อความหมายเชิงบวก บ่งบอกถึงความสุข ความสวยงาม และสะท้อนความเป็น "บวร" ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทย ได้อย่างแจ่มชัด ผ่านเทคนิคลายเส้นหรือการใช้สีที่ถนัด (ยกเว้นการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิก)
"เพราะศิลปะทุกแขนงบนโลกเชื่อมโยงกันด้วยอารมณ์ความรู้สึกจะเห็นได้จากศิลปินระดับโลกที่สร้างสรรค์ผลงานชิ้นเอกจากการอ่านหนังสือ โดยไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหมดในนั้น แต่อาจจะเป็นการหยิบยก เรื่องราวบางช่วงตอนที่กระทบใจหรือสร้างแรงบันดาลใจจนเราอยากถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจ ให้เป็นผลงานศิลปะ เพราะศิลปะที่มีคุณค่าต้องประกอบด้วยองค์รวม 3 ประการ นั่นคือความรู้สึก จินตนาการ และปัญญา" อาจารย์เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์) พุทธศักราช 2536 และหนึ่งในกรรมการตัดสินโครงการ จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัช กล่าว
เทคนิคการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากการอ่านวรรณกรรมเคยสร้างชื่อเสียงให้ศิลปินระดับโลกมาแล้ว ดังจะเห็นได้จากผลงานชื่อ "Ophelie" ของเซอร์ จอห์น เอเวอเรตต์ มิลเลส (Sir John Everett Millais) จิตรกรเอกของอังกฤษแห่งศตวรรษที่ 19 ที่ได้แรงบันดาลใจจากโศกนาฏกรรมของโอฟิลเลียในนวนิยาย "Hamlet" ของวิลเลียม เชกสเปียร์ (William Shakespeare) เช่นเดียวกับผลงานของซัลบาโด ดาลี (Salvador Dali) อย่าง "Mad Tea Party" ที่ได้แรงบันดาลใจจากการอ่านนิยายสุดคลาสสิค "Alice in Wonderland" ในเรื่องนี้อาจารย์เนาวรัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า
"โครงการที่ให้ความสำคัญและปลูกฝังให้เยาวชนไทยรักการอ่านมีน้อยมาก ทั้งที่เมืองไทยมีวรรณกรรมดี ๆ ชวนอ่านเยอะ การอ่านหนังสือดี ๆ สักเล่มจะเป็นองค์รวมของปัญญา ยิ่งถ้าเรามีความสามารถในการ สร้างสรรค์งานศิลปะด้วยแล้ว ยิ่งส่งเสริมจินตนาการให้แจ่มชัดขึ้น เป็นการบูรณาการด้านปัญญาและจิตใจ ไปพร้อมกัน โครงการนี้จึงเป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้เยาวชนไทยที่ดีมาก ผมจึงอยากสนับสนุนให้เยาวชน ส่งผลงานเข้ามาประกวดกันมาก ๆ เพราะมันสะท้อนว่า พวกเขาอ่านหนังสือมากขึ้นและทำให้เติบโตอย่าง ลึกซึ้งผ่านการอ่านหนังสือ นำมาถ่ายทอดเป็นศิลปะที่สะท้อนให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ของจิตใจและเป็นเสน่ห์ อย่างหนึ่งที่อยู่ในผลงานศิลปะของเยาวชน"
ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา โครงการ ฯ ประสบความสำเร็จในการปลูกจิตสำนึกรักการอ่านให้เยาวชนไทย 16,580 คน พร้อมส่งเสริมด้านความคิดสร้างสรรค์ ในการนำเสนอผลงานศิลปะที่ได้แรงบันดาลใจการอ่านวรรณกรรม พื้นบ้าน วรรณกรรมในชั้นเรียน วรรณกรรมร่วมสมัย และวรรณกรรมที่ได้รับรางวัลกว่า 2,000 เรื่อง มอบทุน การศึกษาให้กับเยาวชนและสถาบันการศึกษาถึง 15,140,000 บาท รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายภาพ การกุศลสมทบทุนมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาให้เยาวชนที่เรียนดีแต่ ขาดแคลนทุนทรัพย์ 7,500,000 บาท
"เยาวชนได้รางวัล สถาบันก็ได้ด้วย" นอกจากน้องๆ จะได้รับรางวัลแห่งความภูมิใจแล้ว โครงการฯ ยังมีเงินสนับสนุนให้กับสถาบันการศึกษาของน้องๆ ที่ได้รับรางวัลเพื่อนำไปใช้พัฒนาการเรียนการสอน หรือจัดกิจกรรมด้านศิลปะด้วยเช่นกัน โดยรางวัลแบ่งออกเป็น
ส่งผลงานร่วมประกวดได้ทาง (ระบุชื่อโครงการ "จินตนาการ สืบสาน วรรณกรรมไทยกับอินทัช ปีที่ 13)
1. ไปรษณีย์ : จ่าหน้าซองถึง ตู้ ปณ. 1118 ปณฝ. เพชรบุรีตัดใหม่ กรุงเทพมหานคร 10311
2. นำส่งด้วยตนเอง : บริษัท โอเวชั่น สตูดิโอ จำกัด อาคารทัศนียา ชั้น 1 เลขที่ 625 ซ.รามคำแหง 39 ถ.ประชาอุทิศ แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 (เว้นวันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
น้อง ๆ คนไหนที่ฝันอยากเป็นศิลปินรุ่นใหม่และมีใจรักในการอ่านวรรณกรรม รีบส่งผลงานมาร่วม ประกวด ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 กรกฎาคม 2562 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-796-1670-1 , 02-934-6767 หรือ 02-118-6953 และติดตามความเคลื่อนไหวหรือค้นหา 50ตัวอย่างวรรณกรรม ชวนอ่านที่ www.intouchcompany.com ,FB : intouchstation หรือ Line ID : Jintanakarn.intouch
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit